โอเอซีส โลมาโชว์ เปิดแผนสอง “ถ้าขายที่ดินไม่ได้คงต้องขายบัตรรายปี หาเงินค่าอาหารสัตว์”

โอเอซีส โลมาโชว์ เปิดแผนสอง “ถ้าขายที่ดินไม่ได้คงต้องขายบัตรรายปี หาเงินค่าอาหารสัตว์”

เป็นอีกหนึ่งกลุ่มฝากร้านที่ฮอตฮิตไม้แพ้ มธ. และ จุฬาฯ นั่นคือ กลุ่ม KU จะฝากร้าน ที่ศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบันของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) จัดตั้งขึ้น หวังให้เป็นช่องทางช่วยเหลือพี่น้องร่วมสถาบันที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19

โดยเมื่อวานนี้ (16 เม.ย.) เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ได้นำเสนอเรื่องราวของศิษย์เก่าท่านหนึ่ง คุณวิเชียร สาคเรศ ซึ่งได้ผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 โอเอซีส โลมาโชว์ ที่จันทบุรี ซึ่งเป็นของพี่ภรรยา ถูกสั่งปิดไม่มีกำหนด ทำให้ไม่มีรายได้มาซื้ออาหารให้โลมา กวางรูซ่า ปลาหมอทะเลยักษ์ ซึ่งมีจำนวนมาก ซึ่งในแต่ละวันต้องใช้เงินค่าอาหารเกือบสองหมื่นบาท จึงต้องออกประกาศขายที่ดิน 1 แปลง ขนาด 32 ไร่ หวังเป็นค่าอาหารสัตว์

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ใกล้อดตาย! “โอเอซีส โลมาโชว์” ประกาศขายที่ดิน หวังเป็นค่าอาหารสัตว์นับร้อย

ล่าสุด วันนี้ (17 เม.ย.) เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ สอบถามไปยัง คุณวิเชียร อีกครั้ง เพื่ออัพเดตความคืบหน้าของการประกาศขายที่

“วันพรุ่งนี้มีคนสนใจนัดผมไปดูที่ 1 ราย และวันจันทร์อีก 1 ราย ส่วนคนติดต่อเข้ามาขอรายละเอียดเพิ่มประมาณ 7-8 คน น้องในกลุ่มช่วยกันกระจายข่าวยิ่งดีใหญ่เลย อยากให้ขายได้ไม่งั้นจะวิกฤตหนัก เครียดมาก”

คุณวิเชียร เล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นของ  โอเอซีส โลมาโชว์ ให้ฟังว่า “เดิมทีพี่ของภรรยายึดอาชีพเลี้ยงกุ้ง สมัยก่อนนั้นมีคนจับโลมามา ซึ่งตอนนั้นยังไม่ผิดกฎหมาย พี่ภรรยาเห็นแล้วเกิดสงสารเลยซื้อมาใส่บ่อกุ้ง แค่สองวันโลมาก็ว่ายน้ำมากินอาหารกับมือ เห็นว่าสามารถเลี้ยงได้ เลยช่วยกันพัฒนาขึ้นมา 40 กว่าปีแล้ว จนมีกฎหมายควบคุมเกิดขึ้น ซึ่งทางเราจดทะเบียนถูกต้อง มีความผูกพันกับเขามาก”

ภาพจากเพจ Oasis Sea World

ปัจจุบัน มีปลาโลมาทั้งหมด 40 ตัว จัดโชว์การแสดงประมาณ 8 ตัว ที่เหลืออยู่ในบ่อใหญ่ เมื่อก่อนนั้นนักท่องเที่ยวรัสเซียชอบแวะมาเที่ยว มาว่ายน้ำกับโลมา แต่ช่วงนี้ถูกปิด 1 เดือนแล้ว ไม่มีรายได้มาเป็นค่าอาหาร วันละ 2 หมื่นบาท ตกเดือนละ 6 แสนบาท ก็เริ่มไม่ไหว ไหนจะมีพนักงานในความดูแลอีก 50-60 คน

“ค่าอาหารเยอะมากเพราะสัตว์พวกนี้กินจุ ไม่ใช่มีแค่โลมาอย่างเดียว ยังมี กวางรูซ่า ปลาหมอทะเลยักษ์ 500-600 ตัว เลยจำเป็นต้องประกาศขายที่ดินเพื่อหาเงินก้อนใหญ่ ซึ่งมากพอที่จะดูแลสัตว์ได้อีกเป็นปี ที่ดินผืนนี้เรามีแผนทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ก็ยอมทิ้ง ยอมตัดใจเพื่อเลี้ยงชีวิต ไม่คิดเปิดรับบริจาคเพราะเราเป็นเอกชน อยากช่วยเหลือตัวเองให้ถึงที่สุดก่อน ไม่ต้องรบกวนใคร”

“ผมอยากช่วยพี่ของภรรยา เลยตัดสินใจโพสต์ฝากขายในกลุ่ม KU จะฝากร้าน ในกลุ่มนี้ก็พี่ๆ น้องๆ ร่วมสถาบันกัน เผื่อใครมีคอนเน็กชั่นมาแนะนำก็ดีไป เพราะที่ดินผืนนี้ดีมาก ติดแม่น้ำเหมาะทำสวนทุเรียน อยากให้มีคนมาซื้อครับ”

แต่ถ้าหากขายที่ดินไม่ได้จริงๆ คุณวิเชียร บอกว่า “อาจจะทำตามคำแนะนำของพี่ๆ น้องๆ ม.เกษตร เช่น ขายบัตรรายปี ซื้อไปแล้วมาดูเมื่อไหร่ก็ได้ และเปิดบริจาคค่าอาหารออนไลน์ แล้วก็เปิดกล้องให้อาหาร หรือปล่อยสัตว์น้ำออนไลน์ จ่ายเงินที่ศูนย์การค้า เราก็ไปปล่อยให้ แต่ผมคิดว่าที่ขายได้ เห็นปุ๊บต้องซื้อเลย”

ทั้งนี้ มีความเห็นแนะนำว่า ให้ปล่อยโลมากลับสู่ธรรมชาติ “เขาหากินไม่เป็น เพราะเราเลี้ยง อยู่ด้วยกันมา 40 ปี ปล่อยไปเหมือนเป็นใบ้” คุณวิเชียร กล่าว