หนุ่มเชียงใหม่โวยซื้อบ้านราคา 2 ล้านทำเป็นเรือนหอ แต่กลับได้โรงเพาะเห็ดแทน

ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายพิษณุพันธ์ คำแวง อายุ 34 ปี จูงมือภรรยานางนิภาภรณ์ หน่อแก้ว อายุ 35 ปี คู่บ่าวสาวที่แต่งงานต้นปี พร้อมเอกสารหลักฐานจำนวนมาก เดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรม ว่า หลังซื้อบ้านหรูราคา 2 ล้านกว่าบาทในโครงการหมู่บ้านแถวอำเภอสันทราย หวังสร้างเรือนหอครองคู่ ซื้อเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งบ้านเข้าเตรียมพร้อมอยู่ โดยตกลงรับโอนบ้านเมื่อธันวาคมปีที่ผ่านมา แต่ตกแต่งและนำเฟอร์นิเจอร์เข้าอยู่เมื่อเดือนกันยายน 2559 ผงะพบเห็ดพิษเชื้อราขึ้นคิ้วบัวและวอลเปเปอร์บ้าน พอร้องเรียนไปยังโครงการหมู่บ้านก็ให้คนมารื้อ แต่ตกลงดำเนินการไม่ได้ อ้างนู้นนี้ว่าต้องเสียเงินค่าดำเนินการเอง ตนต้องการให้แก้ไข เพราะหากมีราและเห็ดขึ้น เป็นเพราะมีความชื้น ก็ต้องเกิดปัญหาเดิมขึ้นอีก

33210

นายพิษณุพันธ์กล่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวเข้าผ่อนกับธนาคารโดยต้องผ่อนจ่าย 37 ปี เดือนละ 8,000 บาท ทางธนาคารได้ชำระค่าบ้านให้ทางโครงการหมู่บ้านจนหมดแล้ว ภายหลังจะขนของเข้าและซื้อเฟอร์นิเจอร์ชุดใหม่เข้าไปอยู่อาศัย แต่ปรากฏพบว่ามีเห็ดและเชื้อราออกที่คิ้วบัวกันเปื้อนผนังพื้นห้องรับแขก และมีเชื้อราขึ้นขอบคิ้วจากพื้นขึ้นมาประมาณ 1 ฟุต เป็นแนวตลอดทั้งหลัง เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2559 พอหลังจากพบเหตุการณ์ดังกล่าว จึงไปแจ้งผู้คุมการก่อสร้างโครงการทราบเบื้องต้น และแจ้งทางผู้จัดการโครงการ

ต่อมานัดตนพร้อมภรรยาไปดูที่บ้านหลังดังกล่าวพร้อมสถาปนิกของโครงการ แจ้งว่าที่เกิดเหตุขึ้นเพราะความชื้นจากใต้ดิน และรับปากว่าจะนำไปเสนอเจ้าของโครงการ จะรื้อแก้ไขให้แล้วเสร็จ และสอบถามตนว่าจะใช้วอลเปเปอร์แบบเดิมหรือทาสี ตนจึงแจ้งว่าให้ทาสีก็ได้เพื่อป้องกันปัญหาความชื้น พอตกลงว่าจะแก้ไขแล้วจึงนัดวันเวลาแก้ไขวันที่ 23 ตุลาคม 2559 สถาปนิกนำช่างมารื้อคิ้วบัวและวอลเปเปอร์ที่เป็นเชื้อราทั้งหลัง แล้วเอาคิ้วบัวที่ถอดออกวางไว้ที่จอดรถหน้าบ้าน ตนจึงไปติดต่อที่สำนักงานโครงการ เพื่อพบผู้จัดการโครงการแต่ก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด

33211

ที่มาร้องเรียนนี้เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนซื้อบ้านราคาแพงเป็นเรือนหอ แต่พบว่ามีเห็ดและเชื้อราขึ้นทั่วบ้านทั้งหลัง ต้องผ่อนกับธนาคารกว่า 30 ปี แต่ตอนนี้ไม่สามารถเข้าอยู่ได้ โครงการไม่รับผิดชอบใดๆเลย เหมือนปิดการขายแล้วก็หมดอำนาจหน้าที่ พอขอติดต่อสอบถามเจ้าของโครงการก็บ่ายเบี่ยงไม่ให้ติดต่อ พอทำหนังสือตอบกลับมา ก็ให้ตนออกค่าใช้จ่ายบางส่วน ทั้งๆที่ไม่มีใช่ความผิดของผู้ซื้อบ้าน ตนอยากจะขอให้ทางศูนย์ดำรงธรรม และทาง สคบ.เป็นตัวกลางในการนัดเจรจากับเจ้าของโครงการที่มีอำนาจตัดสินใจโดยตรง หรือไกล่เกลี่ยการแก้ไขให้จบ ก่อนสิ้นปี เพราะจะหมดสัญญาวันที่ 31 ธันวาคม 2559

ที่มา Chiangmai News เชียงใหม่นิวส์