ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ชม กรุงเทพโปรดิ๊วสจับมือคู่ค้ายุติเผาแปลงข้าวโพด

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ชม กรุงเทพโปรดิ๊วสจับมือคู่ค้ายุติเผาแปลงข้าวโพด คืนอากาศสะอาดให้คนไทย

ปัญหาฝุ่นละอองและหมอกควัน เป็นวาระแห่งชาติที่กระทบต่อสุขภาพของประชาชน รวมถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศโดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคเอกชนอย่าง บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) ภายใต้กลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ ผู้จัดหาวัตถุดิบหลักทางการเกษตรให้แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้าเชิงรุกร่วมมือกับจังหวัดเชียงใหม่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งคืนสุขภาพที่ดีให้กับประชาชน ริเริ่ม โครงการ “Partner to Green คู่ค้าข้าวโพดพันธมิตร พิชิตหมอกควัน” ขึ้น ผนึกกำลังกับพ่อค้าที่รวบรวมข้าวโพดใน 9 จังหวัดภาคเหนือ แหล่งผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ใหญ่ของไทยช่วยกันป้องกันและยุติการเผาแปลงหลังเก็บเกี่ยว พร้อมเปิดตัวช่องทางให้ทุกคนสามารถร่วมแจ้งร้องเรียนพบการเผาแปลงข้าวโพดผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น “ฟ.ฟาร์ม”

บีเคพีร่วมมือกับจังหวัดเชียงใหม่ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมควบคุมมลพิษ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA  จัดสัมมนาให้ความรู้แก่คู่ค้าพันธมิตรใน 9 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ผนึกพลังกับคู่ค้าธุรกิจร่วมมือกันช่วยติดตามดูแลป้องกันไม่ให้เกิดการเผาแปลงข้าวโพด โดยบีเคพีจะแบ่งปันข้อมูลดาวเทียมตรวจจุดความร้อนในพื้นที่รับซื้อข้าวโพด เพื่อให้คู่ค้ามีข้อมูลของเกษตรกรเป็นรายแปลง และถ้าพบว่าเกษตรกรรายใดมีการเผาแปลง ทางบริษัทฯ จะส่งทีมงานเข้าไปช่วยสร้างความเข้าใจและส่งเสริมให้เกษตรกรงดการเผาแปลง พร้อมทั้งแนะนำหาวิธีการจัดการตอซังที่เหมาะสม

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า โครงการ “Partner to Green คู่ค้าข้าวโพดพันธมิตร พิชิตหมอกควัน” เป็นการบูรณาการเชิงรุกของภาคเอกชนที่นำเทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมมาช่วยตรวจจุดความร้อน ร่วมสร้างห่วงโซ่ผลิตข้าวโพดปลอดการเผา เชื่อว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นในระยะยาว สอดคล้องกับมาตรการการจัดการฝุ่นควันของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ระดมความร่วมมือทุกภาคส่วนอย่างเต็มกำลังในการป้องกันการเกิดฝุ่นและหมอกควัน เพื่อสุขภาพที่ดีของพี่น้องประชาชน

ด้านนายไพศาล เครือวงศ์วานิช ประธานคณะผู้บริหาร บีเคพี กล่าวว่า บีเคพี เป็นบริษัทไทยแห่งแรกที่นำระบบตรวจสอบย้อนกลับมาใช้ในการจัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตั้งแต่ปี  2559 จนถึงวันนี้ บริษัทจัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้ซีพีเอฟในประเทศไทยทั้งหมดตรวจสอบย้อนกลับได้มาจากแหล่งปลูกที่ไม่บุกรุกพื้นที่ป่า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายการจัดหาวัตถุดิบทางการเกษตรแนวทาง “ไม่เขา ไม่เผา เราซื้อ” โดยร่วมมือกับพ่อค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีส่วนร่วมติดตามการเผาแปลงของเกษตรกร เพื่อสร้างความมั่นใจว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่จัดหาปราศการรุกป่า และปลอดการเผา โดยจะเริ่มดำเนินงานในเขตภาคเหนือเป็นที่แรกเพราะเป็นแหล่งผลิตข้าวโพดสำคัญและจะขยายผลไปทั่วประเทศภายในสิ้นปี 2566 นี้

“หากตรวจพบว่าแปลงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีการเผามากกว่า 1 ครั้งทางบริษัทฯ จะหยุดซื้อผลผลิตจากแปลงปลูกนั้นๆ เป็นเวลา 1 ปี นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนและเกษตรกรมีส่วนร่วมแก้ปัญหาฝุ่นและหมอกควัน โดยสามารถแจ้งข้อมูลและส่งหลักฐานภาพถ่ายการเผาแปลงข้าวโพดผ่านทางแอปพลิเคชั่น ฟ.ฟาร์ม และเว็บไซต์ ระบบตรวจสอบย้อนกลับของกลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ (https://traceability.fit-cpgroup.com/complaint) เพื่อให้บริษัทฯ เข้าไปตรวจสอบต่อไป” นายไพศาลกล่าว

นายชาญวิชัย ปวงคำไหล คู่ค้ารวบรวมข้าวโพด ในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ปัจจุบัน ลานจะรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกรที่ไม่เผาแปลงอยู่แล้ว เพราะการขายผลผลิตให้ซีพีต้องลงทะเบียนการขายผ่านระบบตรวจสอบย้อนกลับ มองว่าโครงการ Partner to Green จะมีส่วนช่วยแก้ปัญหาหมอกควันจากแปลงข้าวโพด ในฐานะพ่อค้ารวบรวมผลผลิตในเชียงใหม่จะช่วยกันบอกต่อและให้คำแนะนำกับเกษตรกรให้เข้าใจและปรับเปลี่ยนวิธีไม่เผาตอซัง

โครงการ ““Partner to Green คู่ค้าข้าวโพดพันธมิตร พิชิตหมอกควัน” เป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของเครือซีพี-ซีพีเอฟ ร่วมมือจัดการปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง ซึ่งเป็นวาระเร่งด่วนระดับประเทศ เพื่อขับเคลื่อนห่วงโซ่อุปทานอาหารที่รับผิดชอบต่อโลก และสนับสนุนบรรลุเป้าหมาย Net-Zero ในปี 2050ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและการค้าโลก