จากสวนมะม่วง สู่คาเฟ่ ‘Tomi Edo Park’ จุดเช็กอินแห่งใหม่เมืองกาญจน์

แพชชันนำพา…สวนมะม่วงสู่ Café สไตล์ญี่ปุ่นยุคเอโดะ ‘Tomi Edo Park’

จุดเช็กอินแห่งใหม่เมืองกาญจนบุรี

 

“จากคนทำสวนมะม่วงเพื่อการส่งออก ต้องการแตกยอดธุรกิจอาหารและงานบริการ จึงมีแนวคิดสร้างคาเฟ่ ย้อนยุคสไตล์ญี่ปุ่น ในแบบฉบับของโทมิ เอโดะ ปาร์ค ได้มีโอกาสนำเสนอ สิ่งที่ตัวเองหลงใหลในหลายอย่างทั้งด้านอาหาร รวมถึงการจัดสวนสไตล์ญี่ปุ่น จึงทำให้ทุกวันนี้มีความสุขมากกว่าเดิม”

คุณอาทิตา ตุลยวาณิช (คุณจอย) กรรมการผู้จัดการบริษัท ไร่สินธนา จำกัด ผู้ส่งออกมะม่วงแถวหน้าของเมืองไทย กล่าวถึง Passion ที่เพิ่งค้นพบด้วยตัวเองจากการลองทำในสิ่งที่ใจอยากทำ คือการเปิดร้านคาเฟ่ในสไตล์ญี่ปุ่นย้อนยุคจากความชื่นชอบท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น หลงใหลในศิลปวัฒนธรรม ประกอบกับเมืองกาญจน์บ้านเกิด มีประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงนำแนวคิดญี่ปุ่นมาพัฒนาสู่ ร้านคาเฟ่ Tomi Edo Park (โทมิ เอโดะ ปาร์ค) นั่นเอง

แนวคิดเริ่มจากการประกอบธุรกิจสวนมะม่วงเกรดพรีเมียมเพื่อส่งออก ซึ่งไร่สินธนามีมะม่วงหลากหลายสายพันธุ์และรสชาติที่โดดเด่น จึงอยากนำผลผลิตมะม่วงเกรดส่งออกมาจำหน่ายในร้าน หรือนำมาแปรรูปเพื่อจำหน่ายให้นักท่องเที่ยว เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางจำหน่ายให้กับมะม่วงจากสวนของเกษตรกรได้อีกด้วย จึงคิดว่าทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวเดินทางมากาญจนบุรี การคมนาคมที่สะดวก และไม่ไกลจากกรุงเทพฯ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมหลายแห่ง

ปัจจุบัน กาญจนบุรีเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างสูง มีร้านคาเฟ่ใหม่ๆ ผุดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก แต่ละที่ต่างมุ่งเน้นสร้างเอกลักษณ์และการตกแต่งที่ดึงดูดความสนใจลูกค้า ดังนั้น ความแปลกใหม่ จึงเป็นการบ้านที่ต้องคิดพิจารณา ขณะที่ไลฟ์สไตล์แบบญี่ปุ่นยังคงเป็นสิ่งที่คนไทยส่วนใหญ่ชื่นชอบ และสังเกตจากพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน เมื่อเดินทางไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มักจะเลือกใช้บริการร้านคาเฟ่เพื่อรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่ม และชอบถ่ายภาพบรรยากาศภายในร้าน วิวสวยแปลกตา หรือสิ่งต่างๆ เพื่อแชร์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของตนเอง

จึงเป็น ‘กิมมิก’ นำมาสู่การออกแบบและตกแต่งร้านคาเฟ่โดยเน้นแบบญี่ปุ่นยุคเอโดะ ยุคที่ญี่ปุ่นมีความรุ่งเรือง ด้านศิลปะ วัฒนธรรม อาหาร และความรื่นรมย์ของผู้คน ทำให้มีความแตกต่างจากคาเฟ่ทั่วไปในจังหวัดกาญจนบุรี บนพื้นที่ 7 ไร่ ที่อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี และเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา

Tomi Edo Park ตระเตรียมพื้นที่ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่สถานที่จอดรถ ห้องน้ำ เรือนรับรองขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 100 คน (เฉพาะโซนห้องแอร์) บริการอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน เน้นผลไม้สดที่เป็นผลผลิตจากไร่สินธนาของเราเอง เช่น มะม่วง ลิ้นจี่ เสาวรส ซุ้มของฝากที่จะมีการจำลองของฝากสไตล์ญี่ปุ่น เช่น ไปเที่ยววัดอาซากุสะลูกค้าจะซื้ออะไรกันก็จะนำของเหล่านั้นมาวางขาย

มีโซนต่างๆ ที่มีการตกแต่งในทุกตางรางนิ้วให้เป็นสไตล์ญี่ปุ่น เพื่อให้ลูกค้าได้ถ่ายภาพร้าน หรือวิวสวยๆ เช่น ออกจากโซนห้องแอร์ไปจะเป็น ‘สถานีรถไฟโทมิฮาชิ (จำลอง)’ ที่ตกแต่งแบบสถานีรถไฟสไตล์ญี่ปุ่นย้อนยุค จุดไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปเก็บบรรยากาศ จินตนาการประมาณว่าสถานีรถไฟแห่งนี้จะพานักท่องเที่ยวย้อนเวลาไปในอดีตสู่ยุคเอโดะ โดยก่อนเข้าไปจะเก็บค่าบริการเข้าคนละ 100 บาท (สามารถนำตั๋วไปใช้เป็นส่วนลดค่าอาหารและเครื่องดื่มได้

‘เอโดะโซน’ อาคารสไตล์ญี่ปุ่นย้อนยุค และมีสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นสวยๆ แปลกตา ตลอดจนเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ เหมือนเข้ามาอยู่ในยุคเอโดะ รวมถึงสระปลาคาร์ปก็เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมอีกจุดหนึ่งที่ลูกค้าชื่นชอบมาก กิจกรรมของนักท่องเที่ยวที่มาจึงเน้นถ่ายภาพ ชมบรรยากาศและการพักผ่อนหย่อนใจในร้านที่มีสไตล์การตกแต่งด้านศิลปกรรม สถาปัตยกรรม ตลอดจนสิ่งของเครื่องใช้หลายๆ อย่างให้เสมือนว่าได้เข้าไปสู่ญี่ปุ่นในอดีตจริงๆ

‘หมู่บ้านซามูไร’ สร้างไว้จำนวน 8 หลัง เป็น Private Zone สำหรับลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัว 10-15 คนต่อหลัง ทั้งภายนอกและภายในตกแต่งแบบญี่ปุ่นย้อนยุคและบรรยากาศที่เย็นสบาย จึงทำให้โซนนี้ได้รับความนิยมสูงมากในช่วงที่ผ่านมา หากเป็นช่วงวันหยุดอาจจะต้องจองล่วงหน้า ซึ่งส่วนมากจะเป็นลูกค้าที่เคยมาใช้บริการแล้วกลับมาอีกครั้ง

อาหารที่เป็นซิกเนเจอร์ สำหรับคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นต้องเสิร์ฟเมนูอาหารสไตล์ญี่ปุ่น Tomi Edo Park จึงคัดสรรเชฟที่มีประสบการณ์ด้านอาหารญี่ปุ่นโดยเฉพาะมาไว้บริการ เรียกว่าร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไปมีเมนูอะไร ที่นี่สามารถทำให้ได้เช่นกัน เราเน้นรสชาติและรูปลักษณ์โดดเด่น สะดุดตา น่ารับประทาน ที่สําคัญคือ วัตถุดิบต้องสด สะอาด ปลอดภัย และใช้มะม่วงจากสวนของเราเป็นส่วนผสม หรือวัตถุดิบหลักในแต่ละเมนู

‘สะพานแดง’ และ ‘สระปลาคาร์ป’ สร้างเป็นเลข 8 ไฮไลต์สำคัญของโทมิเอโดะพาร์ค สะพานแดง ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่า การเดินข้าม สะพานแดง เป็นสัญลักษณ์ของการก้าวข้ามไปสู่ความเจริญ รุ่งเรือง ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และสระปลาคาร์ป มีปลาคาร์ปจำนวนกว่าหมื่นตัว เลข 8 ซึ่งเป็นเลขมงคล หรือ Infinity สัญลักษณ์ของความโชคดีร่ำรวยไม่รู้จบ

ทางร้านยังมีชุดกิโมโน ชุดยูคาตะ ไว้บริการให้ลูกค้าได้เช่าเพื่อสวมใส่ รวมถึงคอสเพลย์สมัยใหม่ มีให้เลือกหลากหลาย สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกเพศและทุกวัย

Passion นำพาความสุข ด้วยจุดเริ่มต้นจากการทําสวนมะม่วง มาถึงคาเฟ่ในปัจจุบัน คือการได้ทําในสิ่งที่ชอบ รู้สึกหลงใหลในงานบริการ มีความสุขที่ได้พูดคุยและรับรองลูกค้า กระแสตอบรับของร้านนั้นเกินความคาดหมายที่วางไว้มาก

Tomi Edo Park มีบุคลากรที่มีความชำนาญ ทั้งเชฟอาหารญี่ปุ่นมากประสบการณ์ ผู้จัดการร้านและทีมบริการที่มีฝีมือ ทำให้การจัดการภายในร้าน ตลอดจนการดูแลส่วนต่างๆ ภายในร้านเป็นไปอย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพ

การลอกเลียนแบบกัน ทำให้หนีไม่พ้นวงจรการแข่งขันที่สูงขึ้น ดังนั้น Tomi Edo Park จึงคิดค้นกิจกรรมหรือลูกเล่นใหม่ๆ เพื่อสร้างจุดสนใจให้นักท่องเที่ยวอยู่เสมอ หรือสามารถจัดกิจกรรมต่างๆ ควบคู่ไปกับเทศกาลวันหยุด หรือวันสำคัญ ที่สำคัญ กาญจนบุรีมีประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับญี่ปุ่นตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 การจัดกิจกรรมของร้านนำแนวคิดจากความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์สู่การท่องเที่ยวคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นย้อนยุค

แม้กระทั่งการแจกของรางวัลสำหรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการแล้วถ่ายรูปเช็กอินที่ร้าน การรีวิวของบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวและอาหาร สิ่งเหล่านี้คือการเล่นกับกระแสและการโฆษณาที่อาศัยช่องทางของลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวไปบอกต่ออีก ช่วยกระตุ้นให้กระแสของร้านยังคงอยู่ในตัวเลือกแรกของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี

Tomi Edo Park ใช้เวลาสร้างประมาณ 2 ปี ซึ่งต้องบอกว่าหากไม่มีใจรักอาจเป็นเรื่องที่เหนื่อยมาก เพื่อให้คาเฟ่ออกมามีสไตล์ญี่ปุ่นแบบที่ต้องการและให้ความรู้สึกคล้ายการไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นจริงๆ เพียงขับรถมากาญจนบุรี อย่างไรก็ตาม โดยค่าเฉลี่ยของจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการที่ร้านประมาณ 250-300 บาทต่อคน ทำให้คาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 1-2 ปี

“ส่วนตัวมองว่าในช่วงแรกการทำคาเฟ่เราต้องเป็นผู้ให้อย่าเพิ่งไปหวังว่าจะได้คืน หรืออาจจะกล่าวให้ชัดกว่านั้น คือการบริการลูกค้าทุกรายให้ประทับใจจนนำไปบอกต่อหรือกลับมาใช้บริการอีกครั้ง รายได้ก็จะตามมาเอง”

Tomi Edo Park Member ใช้เป็นส่วนลดค่าอาหารและเครื่องดื่ม โดยสามารถสมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย และใช้เป็นบัตรผ่านประตูได้ในครั้งถัดไป

ด้วยกระแสตอบรับที่ดีและมีคนรู้จัก คุณจอย จึงวางแผนจะพัฒนาในส่วนห้องพักสไตล์ญี่ปุ่นซึ่งจะเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มองไว้ เพื่อรองรับการให้บริการนักท่องเที่ยวได้อย่างครบวงจร

Tomi Edo Park พิกัด : ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี (อยู่ด้านหลังวัดถ้ำเสือ)

เปิดให้บริการ วันจันทร์-วันศุกร์ 10.30-19.00 น. และวันเสาร์-วันอาทิตย์ 09.30-20.00 น.

ติดตามข้อมูล ร้านคาเฟ่ Tomi Edo Park (โทมิ เอโดะ ปาร์ค)เพิ่มเติมได้ที่

https://www.facebook.com/profile.php?id=100090948514563&mibextid=ZbWKwL