สรุปสูตรเริ่มต้นใช้ LINE ทำธุรกิจที่ SMEs ต้องรู้

สรุปสูตรเริ่มต้นใช้ LINE ทำธุรกิจที่ SMEs ต้องรู้
สรุปสูตรเริ่มต้นใช้ LINE ทำธุรกิจที่ SMEs ต้องรู้

จบลงไปแล้ว สำหรับ อีเวนต์ใหญ่ BOOTCAMP DAY สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่จัดขึ้นในวันที่ 8 มีนาคม 2566 ที่พาเหล่า SMEs ทุกคนมาพบกับสปีกเกอร์ชั้นนำ พร้อมด้วยกิจกรรมเวิร์กช็อปที่สอนให้เข้าใจเทรนด์การตลาด เทคนิคการทำธุรกิจให้ปังด้วยเครื่องมือของ LINE พร้อมนำไปต่อยอดธุรกิจร้านค้าออนไลน์ที่เพิ่งเริ่มต้นให้เติบโตยอดขายพุ่งกระฉูด

สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มใช้ LINE ทำธุรกิจ หัวข้อแรกก็จัดไปเลยกับเครื่องมือหลักในการทำธุรกิจอย่าง LINE OA ในหัวข้อ “รู้ครบ จบทุกฟีเจอร์ มัดใจลูกค้าด้วย LINE OA พร้อมลงมือเปิดบัญชีตั้งแต่เริ่มต้น” โดย โค้ชแน๊ตตี้ – จุฑารัตน์ เรือนสุข LINE Certified Coach 2023

 

4 ขั้นตอนไม่ลับ เพื่อสร้างยอดขาย ทำได้ง่ายๆ

สำหรับเจ้าของธุรกิจมือใหม่ท่านไหนที่อยากจะเริ่มต้นเปิดบัญชี LINE OA ของตัวเอง แต่ไม่รู้จะเริ่มจากจุดไหน ลองใช้ 4 ขั้นตอนนี้ผ่านฟีเจอร์ต่าง ๆ บน LINE OA เพื่อเพิ่มยอดขายให้ร้านของคุณได้ไม่ยาก ตั้งแต่สร้างแบรนด์ให้จดจำง่าย สร้างความมั่นใจให้ลูกค้า, ชวนให้ลูกค้าเข้ามาทำความรู้จักและทักทาย, เทคนิคดึงดูดและกระตุ้นให้เกิดการซื้อไปจนถึงจัดหน้าร้านให้น่าดู อำนวยความสะดวกให้ลูกค้ารู้จักสินค้าและเข้าถึงบริการของเราได้ง่าย ๆ

ซึ่งแต่ละขั้นตอนจะมีรายละเอียดอย่างไร ตามอ่านกันต่อได้ที่นี่

ขั้นตอนที่ 1: สร้างแบรนด์ ให้จดจำง่าย ลูกค้าก็มั่นใจ

สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ของคุณ ด้วยการสร้าง พรีเมียม ID ให้ลูกค้าสามารถจดจำแบรนด์ได้ง่าย แอดง่าย และบอกต่อง่าย ไม่ว่าแบรนด์ของเราจะสื่อสารจากช่องทางไหน ลูกค้าก็สามารถติดต่อได้สะดวก ช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดยอดขาย

โดยการสมัครพรีเมียม ID นั้น จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ปีละ 444 บาทเท่านั้น (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยปกติหากยังไม่สมัครพรีเมียม ID ชื่อที่ได้ก็จะเป็นอักษรสุ่มผสมตัวเลขหรือ Basic ID ที่ระบบนั้นสร้างขึ้นมาให้ เพราะฉะนั้นข้อดีของการมีพรีเมียม ID คือแบรนด์สามารถสร้างตัวตนได้อย่างชัดเจน และช่วยให้ลูกค้าจดจำได้ง่ายขึ้น


นอกจากสร้างการจดจำแล้ว เราก็ต้องสร้างความมั่นใจต่อด้วยการอัปเกรดเป็นโล่น้ำเงินหรือบัญชีรับรอง ซึ่งค่าใช้จ่ายก็ครั้งเดียวจบ 888 บาทตลอดชีพ ถือว่าคุ้มมากๆ

เพราะนอกจากจะช่วยส่งเสริมความมั่นใจให้กับลูกค้าแล้ว ยังเป็นการยืนยันอีกว่าบัญชี LINE OA ของร้านเราได้รับการตรวจสอบจากทาง LINE เวลาลูกค้าเข้ามาที่ LINE OA ของเราก็จะรู้ได้เลยว่า เราคือร้านที่มีตัวตนอยู่จริง

แถมประโยชน์จากการมีบัญชีรับรองก็ยังจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นการที่ร้านค้าของเราจะขึ้นเป็นลำดับต้น ๆ เมื่อลูกค้าค้นหาร้านเราบน LINE หรือ บนเว็บไซต์ ช่วยให้ลูกค้าสามารถเจอร้านของเราได้ง่ายขึ้น หรือหากต้องการเพิ่มยอดผู้ติดตาม ก็สามารถที่จะรับโปสเตอร์ลิขสิทธิ์เฉพาะจาก LINE FRIENDS พร้อมดาวน์โหลด QR code เพื่อวางไว้ที่หน้าร้านให้ลูกค้าแอด ก็ทำได้ง่ายๆ

(ตัวอย่างโปสเตอร์ลิขสิทธิ์เฉพาะจาก LINE FRIENDS)

นอกจากนี้ยังได้เครื่องมือช่วยระบบจัดการข้อมูลใน LINE ที่นำไปต่อยอดและทำการตลาดได้ง่ายๆ แบบ Business Manager

ซึ่ง 2 สิ่งที่ผู้ใช้ LINE OA ขาดไม่ได้เลยคือ การมีพรีเมียม ID และการเป็นบัญชีรับรอง เพราะการสร้างแบรนด์ ให้จดจำง่าย และทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าร้านค้าของเรามีอยู่จริง คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยทำให้ธุรกิจนั้นสามารถสร้างยอดขายได้ง่ายยิ่งขึ้น

ท่านสามารถสมัครพรีเมียม ID และบัญชีรับรองได้เลยวันนี้ที่ manager.line.biz

นอกจากนี้ยังมีอีก 1 จุดสำคัญที่หลายคนอาจมองข้ามไปนั่นก็คือ การจัดการโปรไฟล์ LINE OA ของร้านตัวเองให้ดูน่าเชื่อถือ โดยในส่วนนี้จะเป็นข้อมูลบัญชีที่ลูกค้า คลิกเข้ามาเจอเป็นหน้าแรกจากการค้นหา เปรียบเสมือนเป็นหน้าร้านของเรา

ซึ่งถ้าเราจัดให้สวยงาม ก็จะทำให้บัญชี LINE OA ของร้านค้าน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ หน้า Profile ยังสามารถทำหน้าที่ได้เหมือน Website ให้กับทางร้านค้าได้อีกด้วย เรียกได้ว่าถ้าทำออกมาดี ก็จะช่วยเพิ่มความน่าจดจำให้กับลูกค้า เพิ่มโอกาสในการขายได้มากขึ้น

ขั้นตอนที่ 2:

หลังจากที่สร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ และเพิ่มความน่าเชื่อถือแล้ว ต่อมาการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เมื่อลูกค้าแอดมาแล้ว แบรนด์ควรจะหาโอกาสในการเริ่มบทสนทนา ทักทายและชวนให้ลูกค้าคุยกับเรา โดยการตั้งค่าฟีเจอร์ต่อไปนี้

– Greeting Message หรือข้อความทักทาย

ข้อความทักทายจะเป็นสิ่งที่แรกที่ลูกค้าเห็นเมื่อลูกค้าแอด LINE OA ของร้านค้าเข้ามา เพราะฉะนั้นเพื่อเป็นการแนะนำสินค้าและข้อมูลของแบรนด์ได้ตั้งแต่แรก เพราะฉะนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย แบรนด์ควรสร้างข้อความที่สามารถจะช่วยให้เกิดบทสนทนาต่อได้

โดยหลักการในการทำงานของข้อความทักทาย คือ การตั้งค่าบทสนทนาแรกเริ่ม ด้วยการทักทายลูกค้าด้วยชื่อบัญชีของลูกค้าก่อนเป็นข้อความแรก เช่น สวัสดี คุณ Brown และข้อความที่สอง เป็นการนำเสนอข้อมูลของร้านค้า หรือโปรโมชั่นที่อยากแจ้งให้ลูกค้าทราบเมื่อแอด LINE OA ของร้านค้าเข้ามาก

นอกจากนี้ร้านค้ายังสามารถตั้งค่าข้อความทักทายได้ ทั้งแบบริชเมสเสจภาพหรือจะเป็นการ์ดเมสเสจก็ได้หรืออยากให้ลูกค้าเห็นสินค้าได้หลากหลายก็สามารถตั้งค่าเป็นริชวิดีโอรีวิวได้เช่นกัน ซึ่งข้อความทักทายสามารถตั้งค่าได้สูงสุดถึง 5 บับเบิ้ล

โดยการตั้งค่าข้อความนั้นยังมีรูปแบบต่างๆ ให้เลือกได้กว่า 10 รูปแบบ สามารถดูวิธีการสร้างข้อความทักทายได้เพิ่มเติมที่ Youtube: LINE for Business  



ขั้นตอนที่ 3: สร้างการดึงดูดเพื่อกระตุ้นลูกค้าให้สนใจ และยอดขายก็ตามมา

สร้างยอดขายง่าย ๆ โดยการใช้บรอดแคสต์ช่วยกระตุ้นยอดขาย เราสามารถส่งบรอดแคสต์กระตุ้นให้ลูกค้าทักหาร้านของเราด้วยการส่งโปรโมชัน หรือ คอนเทนต์ที่ทำให้ลูกค้าสนใจ เช่น รีวิวจากผู้ใช้จริง หรือ วิดีโอสั้น ซึ่งการบรอดแคสต์สามารถเลือกรูปแบบของข้อความที่สร้างในได้ 10 แบบเช่นกันกับข้อความทักทายเพื่อนใหม่

ซึ่งก็มีเทคนิคการบรอดแคสต์ดี ๆ ที่ช่วยดึงดูดความสนใจจากลูกค้าได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกบรอดแคสต์คอนเทนต์เกี่ยวกับที่ลูกค้าสนใจ เช่น หากคุณขายเมล็ดกาแฟ ก็อาจจะบรอดแคสต์ความรู้ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับเมล็ดกาแฟ ก็จะช่วยให้ลูกค้าอยากอ่านและสนใจในสินค้าของคุณมากขึ้น หรือเลือกใส่ข้อความสั้น ๆ ตรงใจในภาพบรอดแคสต์เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าสามารถทำความเข้าใจได้ในทันที เช่น หน้าเด็กด้วยฟิลเลอร์ สวยเว่อร์ไม่มีโป๊ะ เป็นต้น


นอกจากนี้ เรายังสามารถระบุกลุ่มเป้าหมายในการส่งบรอดแคสต์ไปหาได้อย่างชัดเจน ด้วยเพศ
, อายุ, พื้นที่ หรือจากการติดแชทแท็ก (Chat Tag) กลุ่มลูกค้าที่มีความชื่นชอบในสินค้าประเภทนั้น ๆ เพื่อช่วยให้เราสื่อสารกับลูกค้าที่สนใจได้อย่างตรงกลุ่ม หรือเลือกเวลาที่เหมาะสมในการส่งบรอดแคสต์หากลุ่มลูกค้าของเราได้ โดยเราจะต้องทำความเข้าใจกลุ่มลูกค้าเราเสียก่อน หากลูกค้าเป็นพนักงานออฟฟิศ ก็อาจเลือกบรอดแคสต์ในช่วงพักเที่ยงหรือหลังเลิกงาน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ลูกค้าเปิดมือถือขึ้นมาดู ก็จะช่วยให้บรอดแคสต์ของเรามีประสิทธิภาพและได้รับความสนใจมากขึ้น

พิเศษ! ผู้ใช้ LINE OA ไม่ควรพลาด สมัครแพ็กเกจรายเดือนครั้งแรก รับฟรี! ส่วนลด 200 บาทสำหรับการลงโฆษณาบน LINE Ads* สมัครเลย!

*โปรโมชั่นวันที่ 9 – 31 มี.ค. 66 สงวนสิทธิ์สำหรับผู้ที่สมัครแพ็กเกจรายเดือนครั้งแรก และมีหรือเปิดบัญชีLINE Ads ภายในวันที่ 31 มี.ค. 66 เพื่อรับของรางวัลผ่าน admanager.line.biz

ขั้นตอนสุดท้าย: มัดใจลูกค้าทั้งสายช้อปสายแชท ด้วยทุกข้อมูลที่ลูกค้าอยากรู้

สร้างความสะดวกให้ลูกค้าด้วยริชเมนูที่ช่วยให้ลูกค้าได้ข้อมูลที่ต้องการได้ง่ายขึ้น โดยทาง LINE ก็มีเทมเพลตของการสร้างริชเมนูให้เลือกใช้ได้หลากหลาย ท่านสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ Youtube: LINE for Business หรือ แอด LINE OA @linebizth เพื่อติดตามรับข้อมูลข่าวสารจากทาง LINE for Business เพิ่มเติม

ต่อด้วยกันหัวข้อถัดมา เมื่อเตรียมบัญชี LINE OA ที่เปรียบเสมือนหน้าร้านของเรากันเรียบร้อยแล้ว ก็พร้อมทำความเข้าใจการขายด้วยเครื่องมือบน LINE ในหัวข้อ “LINE SHOPPING เครื่องมือทรงพลัง ที่ช่วยปิดการขาย ให้ง่ายกว่าเดิม” โดยโค้ชแบงค์ – วรวุฒิ สายบัว LINE Certified Coach 2023

ในคลาสนี้ก็ได้พาพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่มาทำความเข้าใจการค้าขายแบบไร้รอยต่อด้วย LINE SHOPPING

ปิดการขาย ให้ง่ายกว่าเดิม LINE SHOPPING

เริ่มต้นจากการอธิบายให้เห็นความแตกต่างของการขายด้วย LINE SHOPPING ว่าแตกต่างจากรูปแบบการขายกับช่องทางอื่นบนจักรวาล E-Commerce อย่างไร โดยการขายด้วย LINE SHOPPING จะช่วยให้ร้านค้าลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มในการหาลูกค้าให้ โดยการเริ่มสะสมลูกค้าของคุณในช่องทางของคุณเอง และพาลูกค้ามาเก็บไว้ในที่ที่คุณสามารถสื่อสารได้โดยตรง ช่วยให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าได้แบบตรงจุด ถ้าลูกค้าอยู่ในช่องทางของคุณแล้ว ยังไงก็ช่วยให้ประหยัดต้นทุนในการทำการตลาด

ซึ่งการขายผ่าน LINE SHOPPING ทำให้เราสามารถเก็บข้อมูลลูกค้าได้ครบ สามารถกลับมาขายลูกค้ากลุ่มเดิมซ้ำ รวมถึงเรียนรู้พฤติกรรมลูกค้าของเราด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการขายในอนาคต ที่จะช่วยให้เราประหยัดต้นทุนได้ เพราะต้นทุนส่วนใหญ่ของการขายออนไลน์ คือต้นทุนในการต้องหาลูกค้าใหม่ๆ

เมื่อสนใจเริ่มต้นการขายด้วย LINE SHOPPING ร้านค้าจะต้องมีอะไรบ้าง อันดับแรกก็คือ LINE Official Account และดาวน์โหลดแอปพลิเคชันชื่อว่า “MyShop” เท่านี้ก็สามารถขายของด้วย LINE SHOPPING ได้แล้ว

เริ่มต้นขายด้วย LINE SHOPPING

LINE SHOPPING ประกอบไปด้วยเครื่องมือที่ช่วยสร้างหน้าร้านออนไลน์และจัดการร้านค้าออนไลน์ แบบ Chat & Shop ช่วยปิดการขายได้แบบครบวงจร

ตั้งแต่เครื่องมือออกออเดอร์ผ่านแชท (Chat & Shop) เราสามารถส่งใบออเดอร์ให้ลูกค้าตรวจสอบสินค้า ดูรายละเอียดสินค้า ราคาและค่าส่ง ลูกค้าสามารถเลือกช่องทางการขนส่ง เลือกช่องทางการชำระเงิน และกรอกที่อยู่ได้ด้วยตัวเอง ส่วนเจ้าของร้านก็ยังสามารถนำข้อมูลในระบบนั้นมาวิเคราะห์ยอดขายแต่ละวันได้ถึงแม้ว่าจะเป็นการขายแบบแชทก็ตาม ช่วยให้ข้อมูลทุกอย่างถูกจัดให้เป็นระบบมากขึ้น

ต่อมา LINE SHOPPING ยังช่วยปิดการขายผ่านหน้าร้านออนไลน์ที่ลูกค้าสามารถกดซื้อได้ 24 ชม. ไม่จำเป็นต้องรอแอดมินตอบแชท รวมถึงมีระบบจัดการออเดอร์และสต๊อก ปัญหาที่ร้านค้าออนไลน์ส่วนใหญ่เจอ ไม่ต้องกลัวสินค้าจะไม่พอขาย เพราะมีระบบติดตามสต๊อกให้เพียงพออยู่แล้ว นอกจากนั้นระบบยังเก็บข้อมูลให้เราสามารถนำไปวิเคราะห์สถิติการซื้อของลูกค้า เพื่อพัฒนาต่อไปได้

นอกจากนี้ยังมีระบบชำระเงินที่สะดวก ไม่ว่าลูกค้าจะใช้แต้มสะสมหรือใช้ LINE POINTS ในการซื้อสินค้า ลูกค้าจะจ่ายเงินสด โอนเงิน เก็บเงินปลายทาง หรือใช้บัตรเครดิต/บัตรเดบิต ก็สามารถเลือกช่องทางการชำระเงินได้โดยสะดวก รวมถึง LINE SHOPPING สามารถกำหนดช่องทางการขนส่งด้วยระบบขนส่งที่เลือกได้เองอิสระ ลูกค้าสามารถรับสินค้าได้เร็วขึ้นภายใน 1-2 ชม.ตามต้องการได้

LINE SHOPPING ยังเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยให้การเก็บฐานลูกค้าเป็นเรื่องง่าย กรณีที่ใช้ลิงก์ LINE SHOPPING ปิดการขายบนโซเชียลมีเดียอื่น ๆ เมื่อลูกค้าสั่งสินค้าผ่าน LINE SHOPPING และชำระเงิน ระบบจะพาไป Add Friends LINE OA ทางร้านไว้ทันที เพื่อร้านค้าได้ส่งข้อความแจ้งเตือนเมื่อออเดอร์ถูกส่งและลูกค้ามีโอกาสได้พูดคุยสอบถามร้านค้าต่อได้ ซึ่งก็แปลว่าจะช่วยให้ร้านค้ามีโอกาสสะสมฐานลูกค้าในช่องทางของร้านเอง เพื่อเก็บไปทำการตลาดที่ตรงจุดและทำ CRM มัดใจลูกค้าต่อไปในอนาคตได้ด้วย

รวมถึงมีระบบ Dashboard สรุปรายงานยอดขายต่อวันขายได้เท่าไร สถิติการสั่งซื้อต่าง ๆ วิเคราะห์ฐานลูกค้า และเลือกกลุ่มเป้าหมายที่นำไปใช้ต่อยอดการทำการตลาดและพัฒนาบริการจัดการร้านต่อไปได้ ที่สำคัญฟีเจอร์เหล่านี้สามารถใช้งานได้ฟรี

พอมีฐานข้อมูลลูกค้าแล้วเราก็ยังสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปสร้างกลุ่มเป้าหมายเพื่อรีทาร์เก็ต บรอดแคสต์โปรโมชันเด็ด ๆ กลับไปหาลูกค้าเก่า เพื่อกระตุ้นให้เกิดซื้อซ้ำได้อีก และนอกเหนือจากการที่ร้านสื่อสารกับลูกค้าแล้ว LINE SHOPPING ยังมีฟีเจอร์ที่กระตุ้นให้ลูกค้าช่วยบอกต่อสินค้าของร้านได้อีกด้วย

หนึ่งในฟีเจอร์ที่ช่วยสร้างการบอกต่อก็คือ SEND GIFT ลูกค้าสามารถสั่งสินค้าจากร้านเราส่งเป็นของขวัญให้กับเพื่อนทาง LINE ได้เลยทันที แม้ไม่รู้ที่อยู่ของผู้รับ เพียงร้านค้าตั้งค่าสินค้าไว้ให้เป็นของขวัญ ก็ช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย และขยายฐานลูกค้าได้กว้างขึ้น โดยไม่เสียต้นทุนสักบาท

สูตรเด็ดกลเม็ดพิชิตยอดขายด้วย LINE SHOPPING

สิ่งแรกที่ควรทราบคือ LINE SHOPPING เป็นเครื่องมือที่ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการซื้อและกลับมาซื้อซ้ำได้ง่ายขึ้น ด้วยต้นทุนการทำการตลาดที่ต่ำกว่า

เพราะฉะนั้นสิ่งเราจะต้องทำเมื่อขายด้วย LINE SHOPPING คือเราจะต้องโปรโมตร้าน ดึงลูกค้าจากช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เข้ามาที่ LINE OA ของเรา และนอกจากโปรโมตร้านแล้ว ก็อย่าลืมใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ในการกระตุ้นให้ลูกค้าอยากซื้อ เพื่อนำมาซึ่งยอดขายและได้สะสมฐานลูกค้าในช่องทางของเราเอง

แนะนำเทคนิคโปรโมตร้านและ สื่อสารกับลูกค้าของคุณ

การโปรโมตร้านเพื่อดึงลูกค้าเข้ามาซื้อผ่าน LINE SHOPPING เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ทุกร้านจะต้องทำ โค้ชจึงแนะนำเทคนิคที่สามารถทำได้ในหลาย ๆ กรณี ดังนี้

แบบที่ 1 : มีฐานแฟนอยู่แล้วบน LINE OA

หากเป็นร้านค้าที่ขายสินค้าผ่านแชทอยู่แล้ว จากเดิมที่แชทคุย นับสินค้า ส่งรูป คิดยอดเองมาตลอด ลองเปลี่ยนมาให้ฟีเจอร์ออกออเดอร์ผ่านแชทให้เลย ค่อย ๆ เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมลูกค้า สื่อสารโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อผ่าน LINE SHOPPING ให้ลูกค้ารู้สึกคุ้นชินกับช่องทางการขายของเรา เพื่อประหยัดเวลาในปิดการขายและเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายได้ไวขึ้น

แบบที่ 2 : มีฐานลูกค้าอยู่แล้วใน Social Media ต่าง ๆ

เชิญชวนลูกค้าจาก Social Media ของร้าน ให้มาซื้อผ่าน LINE SHOPPING เพื่อที่จะช่วยให้เราสามารถเก็บฐานข้อมูลลูกค้าได้ง่ายยิ่งขึ้น

แบบที่ 3 : ยังไม่มีฐานลูกค้าใน Social Media

หากคุณเป็นร้านค้าเปิดใหม่ที่ยังไม่มีฐานลูกค้าใน Social Media เลย ก็สามารถเริ่มได้จากลองเข้าไปหาลูกค้าในพื้นที่ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสินค้าที่เรากำลังขาย ไปอยู่ตามกลุ่มชุมชนที่มีความสนใจในสินค้านั้น ๆ หรือเริ่มจากลงคอนเทนต์ให้ความรู้ดี ๆ ทำให้รู้สึกว่าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญให้ตัวเองเป็นที่รู้จักมากขึ้น ที่สำคัญอย่าลืมใส่ลิ้งก์หน้าร้าน LINE SHOPPING ไว้ที่หน้าโปรไฟล์ของเรา ก็ช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าใหม่รู้จักเราได้มากขึ้น

เคล็ดลับการดันยอดขายจากร้านค้า LINE SHOPPING

ตัวอย่างกรณีศึกษาที่น่าสนใจ สำหรับร้านที่เปิดใหม่กับ LINE SHOPPING การเลือกใช้คูปองส่วนลด ช่วยเพิ่มโอกาส สร้างยอดขายมากกว่าเดิมถึง 5% ต่อเดือน และสำหรับร้านที่มีสินค้าเยอะกว่า 100 อย่าง สามารถจัดหมวดหมู่สินค้าเป็นคอลเล็กชันสินค้า ช่วยเพิ่มจำนวนออเดอร์มากกว่าคนที่ไม่ใช้ 20%

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลอีกว่า ฟีเจอร์ SEND GIFT นั้น สามารถช่วยให้คนที่ยังไม่มีออเดอร์การสั่งซื้อ สามารถสร้างออเดอร์ได้มากกว่าคนที่ยังไม่ใช้ถึง 3 เท่า โดยฟีเจอร์นี้สามารถตั้งให้สินค้าเป็นทั้งสินค้าสำหรับขายและเป็นสินค้าที่ส่งเป็นของขวัญได้พร้อมกัน หรือเป็นสินค้าที่ส่งเป็นของขวัญเท่านั้นก็ได้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญฟีเจอร์นี้ยังเปิดให้ใช้ฟรีอยู่ด้วย

ขั้นตอนเริ่มต้นใช้งาน LINE SHOPPING

เมื่อรู้จักฟีเจอร์เด็ด ๆ ของ LINE SHOPPING ไปแล้ว ก็มารู้จักขั้นตอนการใช้งานกันบ้าง โดยอันดับแรกร้านค้าจะต้องมีบัญชี LINE OA ก่อน จากนั้นก็เชื่อมต่อบัญชี LINE OA เข้ากับ ระบบ MyShop ที่เป็นระบบหลังบ้านสำหรับการขายด้วย LINE SHOPPING ผ่านทางเว็บไซต์ lineshoppingseller.com หรือ oaplus.line.biz หรือใครสะดวกเชื่อมต่อผ่านโทรศัพท์ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน MyShop และทำการผูกบัญชีให้เรียบร้อย

เมื่อเชื่อมต่อบัญชีเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าไปตั้งค่าการใช้งานต่าง ๆ ภายในร้านได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าข้อมูลทั่วไป, ตั้งค่าช่องทางการชำระเงิน, ตั้งค่าการจัดส่ง, สร้างรายการสินค้าและอัปเดตสต๊อก รวมถึงตั้งค่าคำสั่งซื้อ เท่านี้ก็สามารถ เริ่มต้นขายด้วย LINE SHOPPING ได้แล้ว หากใครสนใจสามารถศึกษาเพิ่มเติมผ่านคลาสเรียนออนไลน์ฟรีทุกเดือนโดย LINE SHOPPING Seller Academy ได้ที่ lineshoppingseller.com/academy

ปิดท้ายด้วยอีกเครื่องมือที่ช่วยหาลูกค้าใหม่ให้ร้านของเราได้ด้วยโฆษณาบน LINE ในคลาสนี้โค้ชชวนทุกคนมารู้จักวิธีการทำงานของ LINE Ads รวมถึงเทคนิคการเลือกวัตถุประสงค์, การเลือกกลุ่มเป้าหมายและเทคนิคการสร้างโฆษณาอย่างไรให้โดนใจลูกค้าผ่านหัวข้อ “ให้ LINE Ads ช่วยคุณเข้าถึงลูกค้า เผยทุกขั้นตอน แบบจับมือทำตั้งแต่เริ่ม!” โดยโค้ชมิว-กฤษฎา โรจนโสภณดิษฐ์ LINE Certified Coach 2023

หากจำกัดความว่า LINE OA คือเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า ส่วน LINE SHOPPING คือช่องทางที่ลูกค้าสามารถเข้าไปเลือกซื้อสินค้าของเรา เมื่อมีทุกอย่างพร้อมแล้ว ปัญหาต่อมาก็คือเราจะมองหาลูกค้าได้จากที่ไหน?

LINE Ads จึงเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่ช่วยเราหาลูกค้า เพื่อให้คนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเรากลับเข้ามาเป็นคนติดตามเราบน LINE OA และปิดการขายได้ผ่าน LINE SHOPPING โดยลูกค้าไม่หลุดออกนอกแพลตฟอร์ม จบ ครบ บน LINE

ทำความรู้จักกับ LINE Ads

ตำแหน่งโฆษณาที่ทรงพลังบน LINE มีด้วยกัน 6 ตำแหน่ง สามารถเข้าถึงผู้ใช้งาน LINE กว่า 53 ล้านคน โดยโฆษณาทั้งหมดจะแสดงบนตำแหน่งต่างๆ บนแอปพลิเคชัน LINE ผ่านระบบ Machine Learning

อีกเหตุผลที่ควรใช้โฆษณาบนไลน์มีด้วยกันอยู่ 5 จุดเด่นหลักๆ ได้แก่

1. โฆษณาบนไลน์ สามารถเข้าถึงครอบคลุมทุกกลุ่มช่วงอายุ เพราะคนใช้ LINE มีตั้งแต่เด็กรุ่นใหม่ไปจนถึงผู้สูงอายุ
2. โฆษณาบนไลน์ไม่ปิดกั้นการมองเห็นโฆษณา แม้ยิงข้ามแพลตฟอร์ม

3. โฆษณาบนไลน์สามารถใช้ประโยชน์จากกลุ่มเป้าหมาย LINE OA และ LINE Ads ร่วมกันได้

4. โฆษณาบนไลน์สามารถสื่อสารกับคนที่บล็อก LINE OA เพื่อกลับมาเป็นเพื่อนใหม่ได้ 5. ปิดขายได้ง่ายด้วย LINE OA และหน้าร้านบน LINE SHOPPING ครบวงจร

ก่อนจะเริ่มใช้เราทำความรู้จักโครงสร้างโฆษณา LINE Ads เปรียบเสมือนการสร้างบ้านที่เราต้องเข้าใจรากฐานเสียก่อน โดยโครงสร้างโฆษณาบน LINE ประกอบด้วยโครงสร้าง 5 ระดับ ตั้งแต่ระดับกลุ่มของบัญชีผู้ใช้โฆษณา (สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่), ระดับบัญชีผู้ใช้โฆษณา, ระดับแคมเปญ, ระดับกลุ่มโฆษณา และ ระดับชิ้นงานโฆษณา

แต่สำหรับผู้เริ่มต้นนั้น เราจะเริ่มศึกษาตั้งแต่ในระดับบัญชีผู้ใช้โฆษณาลงมา โดยเฉพาะการเริ่มทำความเข้าใจกับแคมเปญโฆษณาเบื้องต้นก่อน เริ่มจากเข้าใจการวาง ‘โครงสร้าง’ แคมเปญให้ถูกต้อง ตั้งแต่กำหนดวัตถุประสงค์การโฆษณาให้ตรงตามผลลัพธ์ที่ต้องการ

ส่วนระดับกลุ่มโฆษณา ก็หมายถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการยิงโฆษณาไปหา เมื่อเราเลือกแล้วแบ่งออกเป็นอย่างน้อย 3 กลุ่มโฆษณาขึ้นไป และสุดท้ายคือระดับโฆษณาหมายถึงตัวชิ้นงานโฆษณาที่ยิงไปหากลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มนั่นเอง

กำหนด ‘วัตถุประสงค์’ โฆษณาให้ตอบโจทย์

ในระดับแคมเปญหรือการกำหนด ‘วัตถุประสงค์’ โฆษณาให้ตอบโจทย์ จะประกอบด้วยเรื่องที่ต้องศึกษา ได้แก่ การกำหนดวัตถุประสงค์, ระยะเวลาแคมเปญ และงบประมาณที่ใช้

โดยจากวัตถุประสงค์โฆษณาทั้ง 7 อย่างสามารถจัดกลุ่มกำหนด ‘วัตถุประสงค์’ โฆษณาให้ตอบโจทย์ได้อยู่ 3 กลุ่ม ได้แก่ สร้างการรับรู้แบรนด์, เพิ่มฐานลูกค้า และเพิ่มยอดขาย ซึ่งก็จะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไป

หากลุ่มเป้าหมายที่ ‘ใช่’ ให้เจอ

ถัดมาคือการทำความเข้าใจระดับกลุ่มโฆษณา ตั้งแต่กำหนดกลุ่มเป้าหมาย โดยเลือกกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การโฆษณา กำหนดรูปแบบการประมูลและราคาเสนอ เลือกรูปแบบการประมูลและกำหนดราคาเสนอให้เหมาะสมกับผลลัพธ์ที่ต้องการ รวมถึงกำหนดงบประมาณแคมเปญรายวันกำหนดงบประมาณให้เหมาะสมกับผลลัพธ์ที่ต้องการและระยะเวลาของแคมเปญ

โดยกลุ่มเป้าหมายบน LINE Ads สามารถแบ่งให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มเป้าหมายหลัก ซึ่งเป็นข้อมูลที่ทางไลน์มีให้ และกลุ่มเป้าหมายแบบกำหนดเอง ซึ่งสามารถใช้ข้อมูลจากฐานลูกค้าที่เรามีนำมาปรับใช้เป็นกลุ่มเป้าหมายได้

ทริคสำคัญเมื่อเวลาที่เริ่มยิงโฆษณาครั้งแรก หลายคนอาจจะมีคำถามว่าขนาดของกลุ่มเป้าหมายควรเลือกไว้ที่เท่าไหร่? จากข้อมูลทาง LINE Ads แนะนำว่าควรเลือกให้จำนวนเกินครึ่งวงกลมเข้าไว้ เป็นจุดที่ทำให้เราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างกำลังดี

ปัจจุบันคอนเซ็ปส์ของการลงโฆษณาแบบที่ให้เจ้าของธุรกิจลงโฆษณากันเองล้วนแล้วแต่เป็นการประมูล (Bidding) ที่ต่อให้เราลงโฆษณาด้วยงบเท่าไหร่ ก็จะต้องผ่านระบบหลังบ้านในการคำนวณราคาประมูลโฆษณา ซึ่งจะแตกต่างกันในแต่ละวัน ขึ้นอยู่กับอัตราการแข่งขันในวันนั้น หากมีคนสนใจลงโฆษณาแบบเพิ่มเพื่อนเยอะในวันนั้น ราคาโฆษณาก็จะสูงขึ้น

ซึ่ง LINE Ads มีให้เลือกทั้งแบบการประมูลแบบอัตโนมัติที่สามารถกำหนดให้ระบบปรับราคาการประมูลแบบอัตโนมัติ เหมาะกับแคมเปญที่เน้นการวิเคราะห์และการติดตามผล และการประมูลด้วยตนเอง สามารถปรับราคาการประมูลได้เอง เหมาะกับแคมเปญที่ต้องการควบคุมค่าใช้จ่าย

แต่สำหรับมือใหม่แล้ว โค้ชแนะนำว่าเริ่มต้นที่การประมูลแบบอัตโนมัติ จะทำให้เข้าใจได้ง่ายกว่า รวมถึงใช้กลยุทธ์การประมูลแบบ No Limit [ราคาไม่เกี่ยง] มุ่งเน้นการใช้งบประมาณโดยไม่จำกัดราคาต่อผลลัพธ์ เพื่อหาราคาเฉลี่ยให้ธุรกิจเราให้ได้ก่อน จากนั้น จึงจัดสรรงบโฆษณาครั้งต่อไปให้เหมาะสมได้ตามต้องการ

สร้าง ‘รูปโฆษณา’ ให้น่าสนใจโดดเด่นบนมือถือ

อีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ทำให้โฆษณามีประสิทธิภาพก็คือการออกแบบชิ้นงานโฆษณาของเราให้โดดเด่น เป็นปลายทางที่ลูกค้าจะได้เห็นและรู้จักธุรกิจของเราผ่าน 7 เทคนิคทำชิ้นงานโฆษณาให้ดึงดูดใจลูกค้า ดังนี้

1. นำเสนอ Key Message ในรูปให้ชัดเจน สื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจได้ภายใน 3 วินาที

2. เน้น Call-to-action ให้ลูกค้ามีส่วนร่วม กระตุ้นให้อยากเข้ามาหาเรา เช่น คำว่า สิทธิพิเศษจำนวนจำกัด!, คลิกเลย!, แอดเลย! เป็นต้น

3. เขียนคอนเทนต์ให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย

4. ใช้รีวิวจากลูกค้าจริงหรือพรีเซนเตอร์ เพิ่มความน่าเชื่อถือ

5. โชว์รูปสินค้าสวยๆ และเน้นประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ

6. ข้อความบนรูป ไม่ควรเกิน 1-2 Key message

7. จัดตำแหน่งของสินค้าในรูปภาพให้สวยงาม

ตัวอย่างการใช้เทคนิค ‘การสร้างโฆษณา’ ในรูปแบบต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ 

ข้อสำคัญเมื่อทำความเข้าใจการทำงานของโฆษณาบนไลน์เรียบร้อยแล้ว ก็มาเริ่มสร้างบัญชีโฆษณากันเลย โดยมีเช็กลิสต์สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเปิดบัญชีโฆษณาดัง 5 ข้อนี้

ถ้าเตรียมพร้อมแล้วก็เปิดคอมพิวเตอร์มาสร้างบัญชีโฆษณาได้ที่ admanager.line.biz นอกจากนี้ยังสามารถศึกษาโครงสร้าง LINE Ads และวิธีการสร้างบัญชีผู้ใช้โฆษณาเพิ่มเติมได้ที่คลิปนี้เลย

พิเศษ! สมัครบัญชีโฆษณาเดือนนี้ รับส่วนลด 1,000 เมื่อยิงโฆษณาครบ 2,000 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://lin.ee/71No8vb/izkl

และทั้งหมดนี้ก็คือ สรุปความรู้จาก 3 เสาหลัก ไม่ว่าจะเป็น LINE OA, LINE SHOPPING และ LINE Ads ที่เป็นเครื่องมือสำคัญบน LINE ที่มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถดูแลธุรกิจได้สะดวกสบาย ช่วยปั้นยอดขายพุ่ง ดันธุรกิจรุ่งอย่างยั่งยืน ด้วยทุกโซลูชันจาก LINE สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://lineforbusiness.com/th/

ใครที่พลาดงาน BOOTCAMP DAY ไปไม่ต้องเสียใจ เพราะสามารถรับชมย้อนหลังเต็มๆ ได้ที่ https://lin.ee/0IBuA9D/izkl