เทรนด์สำคัญ สำหรับ​สินเชื่อธุรกิจ SMEs ไทยปี 66 ที่พ่อค้าแม่ขายต้องรู้!

เปิดเทรนด์สำคัญ สำหรับ​สินเชื่อธุรกิจ SMEs ไทยปี 66 ที่พ่อค้าแม่ขายต้องรู้!

Funding Societies แพลตฟอร์มเงินทุนดิจิทัลสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เผยเทรนด์สินเชื่อยอดนิยมสำหรับปี 2566 ซึ่งเป็นการนำเสนอโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อช่วยสร้างเสริมและต่อยอดศักยภาพอันแข็งแกร่งสำหรับธุรกิจ SMEs ของประเทศไทย

โดยเทรนด์สินเชื่อนี้เกิดจากแนวโน้มทางธุรกิจของ SMEs ที่เริ่มฟื้นตัวในเชิงบวกนับแต่ช่วงต้นปี 2565 โดยอ้างอิงจากข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 (มกราคม-กันยายน)

รายได้จากธุรกิจ SMEs ประเทศไทยมีมูลค่าอยู่ที่ 4.54 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 35.2 ของค่า GDP รวมของประเทศไทย เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 จากปีก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ คาดการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยจะยังสามารถเติบโตต่อไปได้ในสถานการณ์​ที่เศรษฐกิจโลกยังคงชะลอตัว โดยคาดว่า GDP จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 ในปี 2566 นี้

ตั้งแต่ปี 2558 ที่ Funding Societies ผู้ให้บริการสินเชื่อดิจิทัลสำหรับธุรกิจ SMEs ได้ก่อตั้งขึ้น ทางบริษัทฯ ได้ทำการให้สินเชื่อไปแล้วกว่า 98,000 ล้านบาท ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และได้เล็งเห็นถึงประเด็นศึกษาที่มีความสำคัญในภูมิภาคโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย รวมถึงมองเห็นโอกาสในการ กระจายเงินทุนสำหรับ SMEs และโอกาสการลงทุนสำหรับนักลงทุน โดยสามารถจำแนกออกมาเป็นเทรนด์ธุรกิจ SMEs ที่สำคัญ ที่จะช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงปี 2566 ได้ดังต่อไปนี้ :

  • มุมมองของธุรกิจ SMEs ในประเทศไทยได้เปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งถือเป็นประเด็นที่น่าสนใจ โดยปกตินั้นธุรกิจจะถูกส่งต่อจากรุ่นพ่อรุ่นแม่ไปสู่รุ่นลูกหลานในหลากหลายอุตสาหกรรม
    • ในขณะที่คนรุ่นมิลเลนเนียลและคนเจเนอเรชัน Z เริ่มก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำและจะรับช่วงต่อจากพ่อแม่ในอนาคตอันใกล้ พวกเขามีมุมมองที่แตกต่างออกไปในการใช้ประโยชน์จากเงินกู้ เพื่อการขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจของบริษัท
    • คนรุ่นใหม่ตระหนักถึงทางเลือกในการระดมเงินทุน และประโยชน์ของการกู้เงินเพื่อมาลงทุนมากขึ้น โดยคนรุ่นใหม่ไม่ได้มีแนวความคิดที่ว่าการกู้เงินเพื่อขยายธุรกิจนั้นเป็นเรื่องต้องห้ามอีกต่อไป
    • การระดมทุนแบบหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง หรือการระดมทุนในรูปแบบการออกหุ้นกู้ เป็นทางเลือกใหม่ในการหาเงินทุนของ SMEs โดยเป็นการเชื่อมธุรกิจ SMEs ที่ต้องการระดมเงินทุนเข้ากับนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนที่มั่นคง ซึ่งเจ้าของธุรกิจยังคงสามารถรักษาสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทของตนเอาไว้ได้ ในทางกลับกันสำหรับกลุ่มนักลงทุนเอง การระดมทุนแบบคราวด์ฟันดิงยังช่วยเพิ่มโอกาสในการลงทุน อีกทั้งยังสามารถมีส่วนร่วมในการสนับสนุนธุรกิจในประเทศอีกด้วย
  • ในขณะที่เศรษฐกิจโลกยังคงมีความผันผวนและมีการชะลอตัวอยู่ตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งอาจนำไปสู่ช่องว่างที่ใหญ่ขึ้นสำหรับการระดมทุนของธุรกิจประเภท SMEs ดังนั้น แพลตฟอร์มการเงินดิจิทัลอย่าง Funding Societies จึงถือเป็นอีกทางเลือกสำคัญที่เปิดโอกาสให้ธุรกิจ SMEs เข้าถึงเงินทุนได้ โดย Funding  Societies ได้ขยายฐานการให้บริการ และมีความพร้อมในการสนับสนุน SMEs ที่ต้องการความช่วยเหลือให้เติบโตต่อไป
    มือใหม่หัดขาย! 5 ปัญหา ที่ร้านค้าออนไลน์ต้องเจอ และวิธีการรับมือ
  • ซึ่งรวมถึงธุรกิจ SMEs ทุกประเภทและทุกขนาด ที่สามารถเข้าถึงสินเชื่อกับธนาคารและสถาบันการเงิน (Banked) และที่อาจยังมีคุณสมบัติไม่เพียงพอในบางประการ (Underbanked) – ตั้งแต่ผู้ประกอบธุรกิจสตาร์ตอัพไปจนถึงผู้รับเหมาภาคเอกชนและรัฐบาล รวมถึงภาคอุตสาหกรรม และภาคการผลิตต่างๆ ล้วนได้รับประโยชน์และจะยังคงได้รับประโยชน์จากการระดมทุนแบบคราวด์ฟันดิง
  • กระทรวงพาณิชย์ของประเทศไทยได้ระบุ 3 กลุ่มธุรกิจ SMEs ที่มีแนวโน้มเชิงบวกในปีนี้ ได้แก่ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ ธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจ MICE (การจัดการประชุม การจัดการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลให้กับพนักงานหรือบุคลากร งานสัมมนา และงานนิทรรศการ) และธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน โดย SMEs จากกลุ่มธุรกิจเหล่านี้สามารถได้รับประโยชน์สูงสุดจากรูปแบบการจัดหาเงินทุนที่ไม่ต้องใช้หลักประกันและได้รับการอนุมัติอย่างรวดเร็ว ผ่านรูปแบบการให้บริการจาก Funding Societies

การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมรูปแบบใหม่ๆ อย่างรวดเร็วได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจและพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างมีนัยสำคัญทั่วโลก โดยทางเลือกเพื่อธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิทัลอย่าง Funding Societies ได้ช่วยเปลี่ยนแนวคิดและวิธีการดั้งเดิมในการปฏิสัมพันธ์​ทางธุรกิจอย่างสิ้นเชิง ด้วยการใช้นวัตกรรมที่ทันสมัย ​​รวดเร็ว และชาญฉลาด

โดยในปัจจุบัน Funding Societies เดินหน้าให้ความช่วยเหลือธุรกิจ SMEs ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ใช้ประโยชน์จากเทรนด์การทำธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่ในปี 2566 ผ่านแพลตฟอร์มการระดมทุนแบบคราวด์ฟันดิง ซึ่งเชื่อมโยงธุรกิจที่แสวงหาเงินทุนโดยตรงเข้ากับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่มั่นคง ซึ่ง Funding Societies นับเป็นหนึ่งในบริษัท FinTech แห่งแรกๆ ที่ได้รับใบอนุญาตหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

นายชัชกร พฤกษานานนท์ ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ Funding Societies ประเทศไทย

นายชัชกร พฤกษานานนท์ ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ Funding Societies ประเทศไทย กล่าวว่า Funding Societies เข้าใจถึงบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือธุรกิจ SMEs ของประเทศไทยในปี 2566 เนื่องจากธุรกิจ SMEs ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจไทย โดยอ้างอิงจากข้อมูลของ สสว. คิดเป็นร้อยละ 99.57 ของจำนวนธุรกิจทั้งหมดในประเทศไทย และมีอัตราการจ้างงานกว่า 12.6 ล้านคน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อค่า GDP ทั้งหมดของประเทศ

“ธุรกิจ SMEs จะต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมทางการเงินที่เข้มงวดขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและสถาบันการเงินต่างๆ เริ่มเข้มงวดกับกฎเกณฑ์ทางการเงินมากขึ้น Funding Societies จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ในการเพิ่มเงินทุนเพื่อกระตุ้นการเติบโตหรือเติมเงินทุนหมุนเวียนให้กับธุรกิจ

โดยเราใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและข้อมูล data points ที่เราได้สร้างขึ้นมาให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อช่วยให้การจัดหาเงินทุนทางธุรกิจมีความรวดเร็วและความยืดหยุ่น โดย Funding Societies ได้นำเสนอรูปแบบทางการเงินที่มีความหลากหลาย ซึ่งได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อตอบสนองกลุ่มธุรกิจ SMEs ที่มีความหลากหลาย โดยไม่จำกัดและเปิดกว้างในการให้บริการตั้งแต่ผู้รับเหมาโปรเจ็กต์ ผู้ผลิต หรือผู้ค้าอีกด้วย

“นอกจากนี้ หุ้นกู้คราวด์ฟันดิง ยังถือว่าได้ให้ประโยชน์ต่อสังคม เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้ร่วมสนับสนุนธุรกิจ SMEs ในประเทศไทยโดยตรง ในขณะเดียวกัน ก็ยังช่วยเพิ่มความหลากหลายในการลงทุน โดยหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงมีความผันผวนน้อยกว่าหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ เช่น หุ้นหรือกองทุนตราสารหนี้ ซึ่งมีความผันผวนมากในแต่ละวัน แต่หุ้นกู้คราวด์ฟันดิง นักลงทุนสามารถรับผลตอบแทนสูงสุดถึงร้อยละ 15 ต่อปีสำหรับการลงทุนระยะสั้นเพียง 1 ถึง 12 เดือน พร้อมยังได้รับการชำระคืนเป็นรายเดือน และยังได้ช่วยสนับสนุน SMEs ในประเทศไทยที่พวกเขาอาจคุ้นเคยกับธุรกิจนั้นๆ อยู่แล้วอีกด้วย ซึ่งเป็นการส่งผลดีต่อทุกฝ่าย” นายชัชกร พฤกษานานนท์ กล่าวเสริม

ด้วยวิธีนี้บรรดานักลงทุนจะสามารถเลือกธุรกิจ SMEs ที่พวกเขาต้องการให้เงินทุนได้ โดยมีระยะเวลาในการลงทุนที่สั้นลงด้วย ทั้งนี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา แพลตฟอร์ม FinTech ของเราได้ประกาศความสำเร็จในการปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจในประเทศไทยมากกว่า 1 พันล้านบาท และตั้งแต่นั้นมา แพลตฟอร์มของ Funding Societies ก็ได้ขยายการเข้าถึงไปยังการจัดหาเงินทุนแก่ SMEs ในกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

สำหรับธุรกิจ SMEs ไทยที่สนใจในการเข้าถึงเงินทุนสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้โดย คลิกที่นี่ และสำหรับนักลงทุนไทยที่สนใจสนับสนุน SMEs ในประเทศไทยสามารถ คลิกที่นี่ เพื่อเริ่มต้นการลงทุน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Funding Societies สามารถเยี่ยมชมได้ที่ https://fundingsocieties.co.th/