เส้นทางของ “สุวัจพงษ์ อัศวทิพย์ไพบูลย์” กับ 7 ปีแห่งการแข่งขันในตลาด Red Ocean

Functional Drinks คือ ผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งมีมาอย่างยาวนานแล้วในประเทศไทย และมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นจากเทรนด์การดูแลสุขภาพ เมื่อมีดีมานด์ผู้ประกอบการก็แข่งกันออกผลิตภัณฑ์ ทำให้ประเภทของ Functional Drinks แตกแขนงไปอีกมากมาย เพื่อชิงพื้นที่การขาย จนกลายเป็น Red Ocean ทั้ง Sport Drink, Energy Drink, Enriched Drink, Herbal Drink, Beauty Drink เมื่อการแข่งขันสูงขึ้น สิ่งที่จะผลักดันให้ธุรกิจไปต่อได้คือ ผลลัพธ์ของผลิตภัณฑ์

“สุวัจพงษ์ อัศวทิพย์ไพบูลย์” หรือ คุณกิ๊ก กรรมการผู้จัดการ บริษัท กิกะเฮลท์ จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ NiteDream เครื่องดื่มฟังก์ชันนอล เพื่อสุขภาพการนอน ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจว่า ระหว่างที่เรียนปริญญาโท จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิชาการจัดการสื่อสารบูรณาการ และยังทำงานด้านวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจควบคู่ไปด้วย เขาพยายามหาช่องทางการทำธุรกิจส่วนตัว เพราะอยากทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารเครื่องดื่มซึ่งถือเป็นปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิต เวลาเดินทางไปต่างประเทศก็จะคอยเสาะหาสินค้าแปลกใหม่ จนมาหยุดกับแผนกเครื่องดื่มที่ญี่ปุ่นที่เห็นว่ามีเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลมากมายแต่ยังไม่มีเครื่องดื่มที่ช่วยเรื่องการนอนเลย

ปัญหาการนอน ถือเป็นเรื่องหลักในการดำรงชีวิต และแนวโน้มคนมีปัญหาการนอนมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความเครียด แต่ขณะเดียวกัน ผู้คนก็ใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น จึงหลีกเลี่ยงการใช้ยาหรือสารเคมี ที่มักจะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว เขาจึงนำไอเดียนี้มาศึกษาต่อและได้จัดตั้งบริษัท เฮลท์ฟูล จำกัด เพื่อจัดจำหน่ายเครื่องดื่มช่วยการนอน ไนซ์ดรีม (NiceDream) โดยมีอาจารย์มหาวิทยาลัยที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและสมุนไพรมาเป็นที่ปรึกษา เพราะเชื่อว่าสมุนไพรไทยมีข้อดีที่หลากหลาย แต่ยังไม่มีใครแปรรูปให้มีประสิทธิภาพในระดับสากล จึงเป็นที่มาของวิสัยทัศน์บริษัท ที่อยากให้สมุนไพรไทยและสินค้าไทยเป็นที่รู้จักแพร่หลายและได้รับการยอมรับในระดับสากล

ต่อมาในปี 2018 บริษัท เฮลท์ฟูล จำกัด มีโอกาสร่วมทุนกับนักลงทุนชาวฮ่องกงเพื่อขยายกิจการไปในสินค้าที่หลากหลาย เน้นความมีนวัตกรรมมากขึ้น จึงทำการก่อตั้ง บริษัท กิกะเฮลท์ จำกัด ด้วยสโลแกนว่า “Natural innovation for a better life” เพราะเชื่อว่านวัตกรรมจากธรรมชาติจะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น รวมถึงเปลี่ยนชื่อผลิตภัณฑ์จาก ไนซ์ดรีม (NiceDream) มาเป็น ไนท์ดรีม (NiteDream) เนื่องจากข้อจำกัดบางประการของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา รวมถึงข้อจำกัดด้านเครื่องหมายการค้าที่สามารถจดทะเบียนได้ทั่วโลก และพร้อมผลักดันให้เครื่องดื่มเพื่อการนอนหลับให้เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายไม่แพ้ชาติใดในโลก ผ่านกลยุทธ์หลากหลายรูปแบบจากประสบการณ์การทำงานด้านวางแผนกลยุทธ์มาก่อน เริ่มจากแนวคิดที่ต้องการจำหน่ายในสายการบินที่มีข้อจำกัดด้านคุณภาพและความปลอดภัยที่สูงมาก ซึ่งเป็น SMEs ไทยหนึ่งในไม่กี่แบรนด์ที่สามารถจำหน่ายในสายการบินระหว่างเดินทางได้เพื่อเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ด้วยความพยายามและความตั้งใจทั้งหมด จึงทำให้ได้รับรางวัลที่ 1 ในใจชาวเกาหลี ปี 2019 (Korea Satisfaction Consumer Index : 2019) และไม่หยุดพัฒนาเพียงแค่นั้น บริษัทได้ทำการวิจัยและพัฒนาเพิ่มเติมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เพื่อให้ได้สิทธิบัตรเป็นของบริษัทอีกด้วย

ปัจจุบันในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ กดดันกำลังซื้อของผู้บริโภคให้ระมัดระวังการใช้จ่าย ส่งผลกระทบต่อหลายธุรกิจอย่างกว้างขวาง การแข่งขันตลาดเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ในปี 2564 จึงมีความเข้มข้นเพิ่มขึ้น และอาจได้เห็นกลยุทธ์ธุรกิจในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อเติมช่องว่างในตลาดเครื่องดื่มแบบดั้งเดิม และการปรับแผนธุรกิจให้ผู้ที่สนใจสามารถหารายได้จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายได้อีกด้วย

ไนท์ดรีม (NiteDream) ถือเป็นเครื่องดื่มเฉพาะกลุ่มที่สามารถเข้าถึงได้ในวงกว้าง ทั้งชายและหญิงอายุตั้งแต่ 30-60 ปี โดยบริษัทมีกลยุทธ์การตลาด สร้างการรับรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ และสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย ผ่านช่องทาง Facebook Nitedream drink : เครื่องดื่มไนท์ดรีม จัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายในเทศกาลต่างๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย ได้แก่ 1. LINE : @Nitedream 2. shopee :  https://shp.ee/vkf8vzw  3. Maxvalu 4. AirasiaX 5. RS Mall 6. ร้าน Healthy Plants 7. ตัวแทนจำหน่าย

“ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 2556 จนถึงปัจจุบัน กว่า 7 ปี ในการทำธุรกิจ จากที่ยังไม่มีผู้เล่นรายไหนเข้ามาในตลาด เป็นเรื่องที่ใหม่มากในช่วงนั้น ผลลัพธ์ที่ได้คือ ยอดขายเติบโตขึ้นมากกว่า 10% ทุกปี เนื่องจากจำนวนคนนอนไม่หลับมีเพิ่มสูงขึ้นในทุกๆ วัน และคนส่วนใหญ่ดูแลสุขภาพมากขึ้น มองหาการแก้ปัญหาด้วยวิธีธรรมชาติ และเป็นโอกาสที่นำสมุนไพรภูมิปัญญาไทยมาทำให้คนทั่วโลกรู้จักมากขึ้น เรามุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผู้บริโภคมีประสบการณ์ที่ดีกับ ไนท์ดรีม (NiteDream)  และมีการแนะนำบอกต่อให้กับผู้ที่มีปัญหาการนอน โดยมีการทำวิจัยจากลูกค้า 300 คน พบว่า 89% มีความพึงพอใจ และรู้สึกได้ถึงคุณภาพการนอนที่ดีขึ้น โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายกลุ่มลูกค้าไปตามหัวเมืองใหญ่ และสร้างการเติบโตของยอดขายที่ 80 ล้านบาทต่อปี”

และนี่คือเรื่องราวของผู้บริหารหนุ่มหล่อไฟแรง ที่ไม่เคยหยุดการพัฒนา นำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาประยุกต์ใช้ในการต่อยอดผลิตภัณฑ์ ผ่านประสบการณ์ด้วยความตั้งใจ เพื่อต้องการขับเคลื่อนธุรกิจ ยกระดับมาตรฐานสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายและได้รับการยอมรับในระดับสากล