‘Hakuna matacha’ แบรนด์ขนมตีมสตรอเบอร์รี โดนใจสายหวาน ฟันรายได้หลักแสน!

อดีตแอร์ฯ สาว ผุด ‘Hakuna matacha’ แบรนด์ขนมตีมสตรอเบอร์รี โดนใจสายหวาน ฟันรายได้หลักแสน!

กว่าจะมีกิจการสักอย่างเป็นของตัวเอง ต้องผ่านการล้มลุกคลุกคลานมาหลากหลาย เช่นเดียวกับ คุณวิว-ธนพร ภคนันท์วณิชย์ วัย 32 ปี อดีตแอร์โฮสเตสสาว ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ต้องผันตัวมาเป็นแม่ค้าผ่านการล้มลุกคลุกคลาน สู่เจ้าของ Hakuna matacha (ฮาคูน่า มาทาช่า) แบรนด์ขนมหวานที่มียอดขายหลักแสนต่อเดือน!

คุณวิว เล่าอย่างเป็นกันเองให้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ฟังว่า เดิมทีเธอยึดอาชีพการเป็นแอร์โฮสเตสมาถึง 7 ปี กระทั่งเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป

“คนเป็นแอร์โฮสเตส อาชีพมันแปรผันกับชั่วโมงบิน พอโควิด ช่วงนั้นมันก็มีปิดประเทศใช่ไหมคะ มันบินไม่ได้ ทำให้วิวไม่มีงาน เงินมันก็ร่อยหรอ ด้วยความที่วิวก็มีบ้านที่ต้องผ่อน ค่าใช้จ่ายอีกจิปาถะในชีวิตประจำวันมันก็มี แต่มันสวนทางกับรายได้ที่มันไม่พอ แล้วช่วงนั้นหลายๆ คนก็หันมาทำอาหารขายกัน แต่วิวทำกับข้าวไม่เป็น พอดีที่บ้านวิวเคยทำร้านเช่าชุดมาก่อน มันก็จะมีพวกเศษผ้าที่ไม่ได้ใช้เหลืออยู่เยอะ วิวก็เอามาทำยางรัดผมขาย ผลตอบรับดีมากเลยค่ะตอนนั้น แต่พอขายไปได้ 7-8 ล็อต มันก็ขายไม่ได้แล้ว เพราะช่วงนั้นนอกจากคนจะไม่ค่อยออกจากบ้านกันแล้ว ถ้าไม่ใช่ของในชีวิตประจำวันก็ไม่ค่อยซื้อกัน แล้วเราดันขายของที่ไม่ค่อยจำเป็น มันก็ดันทุรังขายต่อไม่ได้”

คุณวิว-ธนพร ภคนันท์วณิชย์

“เลยมาคิดว่า เราต้องมาทำอะไรสักอย่างที่คนเขาซื้อเขาใช้ขายแล้วแหละ ประกอบกับบริษัทเสนอมาตรการ Lay Off วิวดูแล้วว่าโควิดตอนนั้นมันยังไม่ดีขึ้น ก็ไปปรึกษาที่บ้าน ซึ่งเขาก็ไม่เห็นด้วยที่เราจะลาออกจากงานประจำ แต่ ณ ตอนนั้นมันอยู่แบบนั้นไม่ได้แล้ว มันไม่มีอะไรดีขึ้นเลย วิวเลยตัดสินใจลาออกจากแอร์ฯ เอาเงินก้อนมาลงทุนซื้อแฟรนไชส์ร้านชานมไข่มุก ตั้งชื่อร้านว่า Hakuna matacha (ฮาคูน่า มาทาช่า) เพราะวิวก็คิดมานานแล้วว่า อยากลงทุนอะไรสักอย่างทำหารายได้เพิ่ม แต่พอซื้อมาทำได้ไม่นานก็เจ๊ง เพราะคู่แข่งเยอะ แล้วพอหน้าฝนคนก็ไม่ค่อยเดินมาซื้อของกัน ค่าที่ก็แพง เข้าแอปก็ไม่คุ้ม จากออร์เดอร์วันละ 100 แก้ว ลดลงเหลือแค่ 2 แก้วต่อวัน มันแย่มากนะ แต่ก็พยายามอดทนมาเรื่อยๆ”

คุณวิว ตอนทำงานแอร์โฮสเตส

“จนโควิดเริ่มดีชึ้น ร้านชานมวิวก็ยังขายอยู่นะ แต่ก็คิดแล้วว่าควรหาอะไรเข้ามาเสริมด้วย แล้วโดยส่วนตัว วิวเป็นคนชอบทานสตรอเบอร์รีอยู่แล้ว และมันก็มีอีกหลายๆ คนที่ชอบเหมือนกัน อีกทั้งคนไทยชอบไปเที่ยวญี่ปุ่นไม่ก็เกาหลีกัน แล้วที่นั่นมีขนมเกี่ยวกับสตรอเบอร์รีน่าทานๆ เยอะมาก และมีเทรนด์เค้กกล่องกับนมสตรอเบอร์รี เลยเลือกลองทำนมสตรอเบอร์รี ดูวิธีทำจากยูทูบมาปรับให้เป็นสูตรตัวเองแล้วลองให้เพื่อนชิม เพื่อนก็บอกว่าอร่อย เลยลองไปหาซื้อแพ็กเกจจิ้งมาทำให้สินค้าดูดี โพสต์ขายรับออร์เดอร์ ก็มีเพื่อนๆ ในโซเชียลนี่แหละมาช่วยกันซื้อ” คุณวิว เล่า

อดีตแอร์ฯ สาว ยังเล่าต่อว่า ช่วงแรกที่ทำนมสตรอเบอร์รีขาย ยังพอได้ค่าน้ำค่าไฟมานิดหน่อย กระทั่งสถานการณ์ต่างๆ เริ่มดีขึ้น ก็มีตลาดนัดที่เปิดขึ้นเพื่อช่วยพี่น้องที่ทำอาชีพเกี่ยวกับการบินไปขายของ ก็มีคนมาชวนคุณวิวไปออกบูธขายของ โดยคุณวิว บอกว่า ณ ตอนนั้น ร้านชานมก็ยังทำอยู่ก็ให้น้องพนักงานทำขายที่ร้านไป ส่วนคุณวิวไปออกบูธโดยนำนมสตรอเบอร์รีและโยเกิร์ตผลไม้ไปลองขาย ปรากฏว่าขายหมด

“วิวเห็นว่านมสตรอเบอร์รี มันขายได้นะ ดูแล้วไปได้ดีเลย แล้วก็จากที่สังเกตว่า นมสตรอเบอร์รีเรา เพื่อนๆ ที่เคยมาสั่งกินเพราะชอบก็ดี หรือช่วยเราก็ดี เขากลับมาซื้อซ้ำ แสดงว่ามันต้องอร่อยจริงๆ นะ มันก็ทำให้เรามีความมั่นใจในเรื่องนี้มากขึ้น ก็คิดกับตัวเองไว้ว่า จะทำนมสตรอเบอร์รีขายจนกว่าจะมีเงิน ขายจนกว่าร้านชานมมันจะดีขึ้น แต่มันก็ไม่ดีขึ้นเลย พอเข้าเดือนที่ 7 ก็เริ่มรู้แล้วว่า ยอดขายของสินค้าที่เราทำขาย มันขายได้เท่าไหร่ ก็คิดว่าต้องหาอะไรมาขายเพิ่มแล้วแหละ”

“ก็ต่อยอดมาทำเค้กสตรอเบอร์รี โดยดูสูตรจากยูทูบ ฝึกทำประมาณ 2-3 เดือน ก็ลองทำออกมา 10 กล่องไปขายตอนออกบูธขายนมสตรอเบอร์รี ก็มีลูกค้ามาลองซื้อไปทาน สักพักเขาก็กลับมาเหมาไปหมดเลยคนเดียว เราก็ทั้งอึ้งทั้งดีใจ กลายเป็นที่ร้านมีสินค้าตัวที่ 3 เป็น เค้กสตรอเบอร์รี แล้วก็ต่อยอดมาทำสินค้าตัวที่ 4 คือ แซนด์วิชสตรอเบอร์รี ก็ขายดีมากค่ะ จนเปลี่ยนจากร้านชานมไข่มุกเป็นร้านขนมเครื่องดื่มตีมสตรอเบอร์รีแทน เรื่องนี้มันทำให้วิวคิดว่า เราจะไม่ทำอะไรที่เกี่ยวกับชานมแล้ว มันคือ Red Ocean เราเป็นคนตัวเล็ก สู้เขาไม่ไหว” คุณวิว เล่าอย่างนั้น

เมื่อไปออกบูธบ่อยขึ้น จนกลายเป็นที่รู้จักของผู้บริโภค ก็เริ่มมีห้างร้านต่างๆ มาชวนคุณวิวไปเปิดร้าน Pop Up จึงกลายเป็นโอกาสทำให้ Hakuna matacha (ฮาคูน่า มาทาช่า) มีหน้าร้านบนห้างนั่นเอง

นอกจากนั้น คุณวิว ยังเล่าอีกว่า เธอเคยขยาย Hakuna matacha (ฮาคูน่า มาทาช่า) ไปได้ถึง 14 จุด โดยแบ่งเป็น สาขาประจำ 7 แห่ง และร้าน Pop Up 4 แห่ง แต่เนื่องจากการเติบโตที่รวดเร็วจนเกินไป ทำให้คุณวิวพลาดสะดุดล้มโครมใหญ่

“ตอนนั้นมันโตเร็วมาก ขยายทุกอย่างภายใน 3 เดือน ด้วยความที่โตไว ทำให้ศึกษาไม่ดีจนพลาดต้องปิดสาขาไป ท้ายที่สุดก็เหลือหลักๆ อยู่ 4 สาขา ถ้านับจากตั้งแต่ทำที่บ้าน ยังไม่มีหน้าร้าน ก็รวมแล้ว 3 ปีที่ทำขนมขายมา แต่เริ่มมีหน้าร้านมาได้แค่ 2 ปีค่ะ สินค้าก็ต่อยอดจนปัจจุบันมีทั้งหมด 14 ตัว แต่ที่ขายดีที่สุดจะเป็นพวกโยเกิร์ตสตรอเบอร์รี แซนด์วิชสตรอเบอร์รี เค้กสตรอเบอร์รี และสินค้าตัวใหม่ที่เพิ่งออกมาไม่นานอย่าง ไดฟูกุแลบลิ้น ที่ทำยอดสูสีกับเค้กเลย”

“ปัจจุบันวิวมีรายได้จากการทำร้าน Hakuna matacha (ฮาคูน่า มาทาช่า) ทั้ง 4 สาขารวมกัน สร้างรายได้กว่าหลักล้านบาทต่อเดือน อันนี้ยังไม่หักทุนหักอะไรนะคะ แต่ถ้าหักทุนแล้วก็ราวๆ หลักแสนต่อเดือนได้ ที่มันไม่ค่อยเยอะเพราะวัตถุดิบที่ใช้ กว่า 98% เป็นวัตถุดิบนำเข้าที่มีคุณภาพ ทำสดวันต่อวัน ทำให้รสชาติสินค้าของฮาคูน่า มาทาช่า นั้นอร่อย วิวเลือกทำตามความต้องการของลูกค้า โดยเอาความจริงใจเข้าสู้ ตรงนี้วิวคิดว่ามันเป็นจุดที่ทำให้ลูกค้าติดและบอกต่อนะคะ เพราะเอาจริงๆ ฮาคูน่า มาทาช่า เราไม่เคยยิง Ads ไม่เคยทำมาร์เก็ตติ้งด้วย แต่ที่มันเติบโตได้ขนาดนี้ เพราะคนติดต่อเรามา กับพื้นที่นั้นๆ ลูกค้ามีความต้องการเราด้วย” คุณวิว ว่าอย่างนั้น

ไดฟูกุ แลบลิ้น

คุณวิว ยังบอกทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ปัจจุบันจึงเน้นการทำระบบการดูแลบริหารร้านให้ดีขึ้นและมีความเสถียรกว่านี้ ส่วนในอนาคตเธออยากจะขยายสาขาเพิ่ม แต่ต้องดูสถานการณ์เศรษฐกิจให้ดีก่อน รวมถึงการขายแฟรนไชส์ที่ต้องขอกลับไปศึกษาระบบการทำให้ดีก่อน เพราะมีนักธุรกิจจากต่างประเทศติดต่อเข้ามาพูดคุยเรื่องแฟรนไชส์ด้วยเหมือนกัน

สอบถามเพิ่มเติม เฟซบุ๊ก Hakuna matacha หรือไลน์ : hakunamatacha