ที่มา | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
ฟาร์มต้นผักแมวน้ำ เปิดมาได้ 2 ปีครึ่ง ตั้งอยู่บนเนื้อที่ราว 100 ตารางวา ย่านลาดพร้าว โดยพื้นที่แห่งนี้ถูกเนรมิตให้เป็นฟาร์มปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ขนาดย่อมๆ ของอดีตตากล้องนิตยสาร ที่อยากหาอาชีพรองรับเพื่อเตรียมพร้อมหลังออกจากงานประจำ
เจ้าของต้นเรื่องชื่อว่า คุณแมวน้ำ-บุษกร เบญจกุล อายุ 54 ปี บอกว่า เริ่มทำฟาร์มต้นผักแมวน้ำ เพราะคิดหาอาชีพรองรับหลังออกจากงานประจำ เป็นจังหวะพอดีที่น้องสาวของเธออยากทำฟาร์มเพื่อเป็นอาชีพสร้างรายได้เสริมด้วยเหมือนกัน จึงช่วยกันคิด วางแผน และลงมือทำทันที โดยมีน้องเป็นหุ้นส่วน แต่คุณแมวน้ำคอยดูแลเป็นส่วนใหญ่
เจ้าของฟาร์ม เล่าอย่างใจดีต่อว่า เลือกปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ เพราะหลงใหลการทำสวน และการปลูกผัก มาตั้งแต่สมัยทำงานเป็นช่างภาพนิตยสาร เพราะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับแหล่งข่าวซึ่งเป็นเกษตรกร และเจ้าของทำสวนอยู่บ่อยครั้ง ได้เห็น ได้ฟังถึงที่มาของแต่ละสวนจึงสั่งสมความชอบมาตลอด
“เป็นช่างภาพตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ จนถึงอายุใกล้เกษียณ เรารู้ตัวเองว่าการเป็นช่างภาพเป็นอาชีพที่ไม่คงที่ สักวันต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพราะมีเด็กรุ่นใหม่เข้ามา ฉะนั้น พี่ต้องเตรียมหาอาชีพรองรับ ช่วงเตรียมตัวเป็นจังหวะเดียวกับออกจากงานพอดี”
โดยเลือกใช้พื้นที่เช่าบริเวณใกล้บ้านย่านลาดพร้าวเนื้อที่ 100 ตารางวา เป็นแปลงปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ก่อนเป็นฟาร์ม คุณแมวน้ำนำพื้นที่มาพัฒนาอีกรอบให้สามารถปลูกผักได้ แบ่งสัดส่วนพื้นที่ 30% สำหรับโรงเรือน ห้องเก็บของ พื้นที่อนุบาล และพื้นที่หน้าร้าน และ 70% เป็นพื้นที่ปลูกผักประมาณ 5-6 ชนิด
ผักชนิดแรก เป็นผักที่คนนิยมทาน คือ กรีนโอ๊ก (Green Oak) และเรดโอ๊ก (Red Oak) เป็นผักสลัดที่หาซื้อได้ตามร้านสลัดทั่วไป มีลักษณะต่างกันไม่มาก คือลักษณะใบกรีนโอ๊ก เป็นใบหยักสีเขียว เป็นพุ่ม รสชาติหวานกรอบคล้ายผักกาดหอม ส่วนเรดโอ๊กเป็นใบสีแดงเข้มหรือเขียวเข้ม ใบซ้อนกันเป็นชั้น ปลายใบหยิกแยกกันเป็นแฉก
ชนิดต่อมา เรดคอรัล (Red Coral) มีลักษณะเป็นพุ่ม ใบสีแดงอมม่วง ปลายใบหยัก หวานและกรอบกว่าเรดโอ๊ก บัตเตอร์เฮด (Butter Head) เป็นผักที่มีลักษณะใบอ่อนนุ่มเป็นมันเรียงซ้อนกันคล้ายดอกกุหลาบ เรดปัตตาเวีย (Red Batavia) มีลักษณะใบเป็นแผ่นรูปหยดน้ำ ขอบใบหยิกเป็นคลื่น เป็นทรงพุ่ม ห่อหัวแบบหลวมๆ มีทั้งสีเขียวและสีแดง ร็อกเก็ต (Rocket) ลักษณะอ่อนเรียวยาวและหยิกตรงขอบพอประมาณ รสชาติเผ็ดเหมือนพริกไทย
โดยลูกค้าที่อยากทานสามารถเข้ามาเลือกผักได้ที่ฟาร์ม อยากกินแบบไหน อยากได้ต้นไหน ทางฟาร์มจะตัดให้
ถามถึงกลุ่มลูกค้า คุณแมวน้ำ ว่า ลูกค้าส่วนใหญ่คือกลุ่มคนรักสุขภาพ บางคนซื้อครั้งละเยอะๆ เพราะผักสามารถเก็บได้เป็นสัปดาห์ หรือบางคนซื้อไปกินทีละต้น อาศัยมาที่ฟาร์มทุกวัน เพราะอยากกินผักสดๆ อีกกลุ่มคือ ร้านอาหาร และร้านขายส่งสลัด มารับตอนเช้าเป็นถุงใหญ่
ด้านราคา ถ้าเป็นลูกค้าที่ซื้อไปทานเอง ขายต้นละ 25 บาท มีแถมให้ด้วย ส่วนกลุ่มร้านอาหารที่ต้องการซื้อจำนวนมาก จะขายเป็นกิโล เฉพาะกรีนโอ๊กกับเรดโอ๊ก เพราะผัก 2 ชนิดนี้ชั่งแล้วพอได้น้ำหนักบ้าง ราคาขายจะขึ้นลงตามราคาตลาด
“รายได้จากการทำฟาร์ม อยู่ในช่วงปรับตัว กำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง ช่วงปีแรกรายได้ดี เพราะนำผักไปขายตามบู๊ธ ตอนนี้ขายหน้าฟาร์มอย่างเดียว รายได้มีลดบ้างเพราะไม่ได้ออกขายในตลาดเสริม อีกอย่างมีช่วงที่ผักออกไม่เหมือนกัน”
ช่วงท้าย คุณแมวน้ำ บอกว่า ทำฟาร์มมีอุปสรรคบ้าง เพราะปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ต้องดูเรื่องโรค และแมลง เป็นสำคัญ พอเข้าหน้าหนาว อากาศดีผักก็ขึ้นเร็ว ที่ไหนๆ ก็ปลูก ผักมีจำหน่ายเยอะราคาถูกตาม กลายเป็นว่าต้องปรับตัวทุกช่วงฤดู แต่มีข้อดีคือ การทำฟาร์ม ไม่ต้องเข้าออกงานตามเวลาที่กำหนด
แวะไปที่ฟาร์มต้นผักแมวน้ำ ได้ที่ ซ.ลาดพร้าว 64 แยก 6 โทรศัพท์ 081-628-1955, 087-838-2201 เปิดทุกวัน เวลา 07.00-19.00 น.