ตลาดฮ่องกง สติ สติ สติ

ฮ่องกง ที่ดินแพงกว่าทอง และอาจเป็นน้องเพชรอยู่ไม่เท่าไหร่ ราคาที่ดินบนถนนนาธาน ถนนสายการค้าของฝั่งเกาลูน ประเมินกันไว้ที่ตารางเมตรละ 800,000 บาท แต่เพิ่งมีการขายจริงๆ กันที่ตารางเมตรละ 1 ล้านบาทไปเมื่อปีที่แล้ว คำนวณมาเป็นแบบไทยๆ จะอยู่ราวไร่ละ 1,500 ล้านบาท

เมื่อเป็นฉะนี้ นโยบายพัฒนาเมืองของฮ่องกง จึงมีสั้นๆ The way out is up แปลง่ายๆ ว่า สร้างสูงขึ้นฟ้าสถานเดียว อาคารร้านค้าต่างๆ จะสร้างซ้อนกันบนตึกสูงเกือบทั้งสิ้น แต่ละตึกจะมีทั้งสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงแรม และหน่วยธุรกิจต่างๆ เรียงกันอยู่หลายสิบชั้น อันว่าหลายสิบชั้นนี้มีระดับ 30-40 ชั้น เป็นระดับที่เรียกว่าธรรมดามาก

ส่วนบ้านคนก็เป็นตึกสูงหลายสิบชั้นอีกเช่นกัน แต่อยู่นอกเมือง คล้ายกับสิงคโปร์ ฮ่องกงจึงไม่ได้ขาดแคลนที่ค้าขาย แต่ที่ขาดคือพื้นที่สำหรับคนตัวเล็กตัวน้อย โดยเฉพาะคนที่มีรายได้น้อย พวกนี้อาศัยในที่คับแคบจนเรียกที่นอนของตัวเองว่าโลงศพ

แต่แม้จะคับแคบแค่ไหน ฮ่องกงยังเป็นศูนย์กลางการค้าของโลก เป็นท่าเรือสำคัญของโลก และเป็นแหล่ง  ช็อปปิ้งสำหรับคนทั้งโลก มีคนไปเที่ยวฮ่องกงแต่ละปี มากกว่าคนฮ่องกงแท้ๆ หลายเท่าตัว

นักท่องเที่ยวจีนแผ่นดินใหญ่ จะมาพร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ซื้อข้าวของทุกประดาเท่าที่เห็น ไล่จากยาสีฟัน แชมพู ขนม ไปจนถึงสินค้าแบรนด์เนม ลากกระเป๋าไปด้วยทุกถนนหนทาง ซื้อแล้วเอายัดใส่กระเป๋า เปิดกระเป๋าอ้าซ่ากลางสาธารณชนไม่สนว่าที่ไหน ยัดแล้วเดินต่อ ซื้อจนเต็มแล้วลากกลับแผ่นดินใหญ่

คนอื้ออึงกันว่านักท่องเที่ยวจีนช่างร่ำรวยเหลือ มาถึงก็ซื้อๆๆๆ แต่ฉันว่านี่เป็นทางทำมาหากินอย่างหนึ่งของเขา คนจีนจำนวนมากยังไม่มีโอกาสเดินทางออกนอกประเทศ และไม่น้อยที่มีนิสัยเห่อของนอก สินค้าเหล่านี้จะกลับไปถึงมือพวกเขา ในลักษณะฝากซื้อหรือซื้อไปเก็งกำไร ก็เหมือนคนไทยที่เดินทางออกนอกประเทศพร้อมรายการสินค้าที่คนฝากซื้อยาวเป็นหางว่าว แล้วก็พากันตระเวนหาซื้อข้าวของที่คนฝาก หรือที่จะซื้อไปขายต่อ จนไม่ได้เดินทาง ไม่ถึงบ้านเมืองเขา

ต่างประเทศสำหรับคนที่ทำเช่นนี้ คือ ศูนย์การค้าหรือเอาต์เลตอะไรสักแห่ง บ้านเมืองเขาเป็นอย่างไรไม่สน ลืมไปว่าเงินน่ะหาที่ไหนเมื่อไหร่อีกก็ได้ และส่วนใหญ่กำรี้กำไรของการแบกสินค้ามาขายนั่นก็ไม่ได้มากมายอะไร เมื่อเทียบกับประสบการณ์ดีๆ ที่ควรได้จากการไปต่างบ้านต่างเมือง

เมื่อเดินสารพัดห้างดูสินค้าไม่มีภาษีของเกาะแห่งนี้ซึ่งดึงดูดเงินคนทั้งโลกปีหนึ่งมหาศาลแล้ว ควรจะใช้เวลาเดินตลาดชาวบ้านๆ บ้าง ดูว่าการค้าของคนตัวเล็กตัวน้อยของเขาเป็นอย่างไร

อย่างจุดแรกที่ควรไป ตลาดนัดบนถนนเทมเปิ้ล (Temple Street) ใกล้สถานีรถไฟใต้ดินจอร์แดน (Jordan) เริ่มแต่เย็นๆ ไปจนถึงดึกๆ สินค้าเรียงรายตลอดแนวยาวประมาณ 600 เมตร สินค้าราคาถูกและต่อรองได้ เสื้อผ้าจากจีน หัตถกรรมจีน หยก ชุดน้ำชา แอนทีค ไปจนถึงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าแบรนด์เนมก็มีนะคุณ แต่จงดูให้ดี เพราะส่วนใหญ่ปลอม

ไม่ซื้อจะแค่เดินเล่นกินอาหารก็ดี อาหารที่ฮ่องกงอร่อยทั้งนั้นแฮะสำหรับฉัน หรือไม่ก็แวะดูหมอดูจีน ที่นั่งกันหลายเจ้าก็ได้ แต่ตกลงราคากันให้แน่นอนก่อนนะ เวลาคนฮ่องกงล้งเล้งนี่ มันดังมาก

หรือจะไปตลาดเลดี้ (Ladies Market) ใกล้สถานีมงก๊ก (Mong Kok) ไม่ไกลถนนนาธาน น่าจะเป็นตลาดนัดที่คนรู้จักมากที่สุดของฮ่องกง รายนี้อยู่ฝั่งเกาลูน เริ่มตั้งแต่เที่ยงวันไปจนถึงดึกๆ ร้านเป็นแผงๆ เรียงรายสองข้างทางถนนตุงชอย (Tung Choi Street) ยาวเป็นกิโล มีบรรยากาศเป็นจีนมากกว่า ด้วยว่าสินค้าล้วนมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ คนขายก็เช่นกัน เขาเรียกชื่อนี้เพราะแต่ก่อนเน้นขายสินค้าเครื่องใช้ของผู้หญิง แต่ตอนนี้ก็มีปนไปแล้วแหละทั้งหญิงชาย

 

เดินเล่นเอาเพลินหรือซื้อของที่ระลึกอย่างแม่เหล็กติดตู้เย็น พวงกุญแจ อะไรก็ว่าไป แต่อย่าคิดซื้อสินค้าแบรนด์เนมที่วางขายเกลื่อนเพราะปลอมแทบทั้งสิ้น และก่อนจ่ายเงินเช็กสินค้าให้ดี เพราะถ้าเอามาคืนจะเจอปัญหาใหญ่หลวง มีกรณีเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ตลาดนัดถนนอัพหลิว (Ap Liu) เริ่มเที่ยงวันยันเที่ยงคืน เน้นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั้งของใหม่ของมือสอง และอื่นๆ ใกล้สถานีรถไฟใต้ดินชัมชุยโป (Sham Shui Po) จะว่าไปตลาดที่นี่ขายของถูกกว่าเลดี้มาร์เก็ตอีกเพราะอยู่ไกลย่านธุรกิจหลักอย่างจิมชาจุ่ย (Tsim Sha Tsui) มากกว่า เดินตลาดนี้ดูกระเป๋าเงินให้ดี ระวังสำหรับการกระทบกระทั่งอื่นๆ รวมทั้งเล่ห์แพรวพราวของคนขายด้วย

ตลาดถนนแมว หมายถึงตลาดนัดของโบราณ ที่ลาสคาร์โรว์ (Lascar Row) หรือเรียกอีกชื่อว่า แคตสตรีต (Cat Street) เป็นตลาดเรียงรายสองข้างทางระยะแค่ 200 เมตร แต่มีมากมายหลายร้านรวมทั้งแผงลอยให้เลือกซื้อ แน่นอนว่าตาดีได้ตาร้ายเสีย และต้องต่อรองอย่างหนัก ตลาดนี้อยู่ใกล้สถานีเซิงหว่าน (Sheung Wan) ฝั่งฮ่องกง คนชอบแอนทีคแบบคุณภาพหน่อยให้ไปที่ถนนฮอลลีวูด (Hollywood Road) บนฝั่งฮ่องกงเหมือนกัน มีร้านรวงและแกลลอรี่ขายสินค้าทั้งแนวตะวันออก ตะวันตก

ย่านโซโหที่อยู่บนถนนสายนี้เหมือนกันก็มีร้านอาหารมากมาย ไม่แค่อาหารจีนแต่สารพัดสารพัน ย่านนี้อยู่ในเมืองเก่าฮ่องกง มีอาคารบ้านเรือนเก่าๆ ที่อนุรักษ์ไว้อย่างดีให้ดู เดินเล่นเพลินแต่ต้องเตรียมแรงให้ดี เพราะถนนเขาขึ้นเนินลงเนินมากประสาเมืองเกาะ

นอกจากนั้นยังมีตลาดขายสินค้าทะเล ทั้งแห้ง-สด เขาเรียกย่านนี้ว่าถนนซีฟู้ด (Seafood Street) แต่ที่จริงมันอยู่บนถนนเดสโวซ์ตะวันตก (Des Voeux Road West) มีอาหารทะเลสารพัดตั้งแต่กุ้งแห้งไปจนถึงรังนกแห้ง คนซื้อต้องดูเป็นและต้องเช็กราคาแต่ละร้านให้ดีก่อนซื้อ ตลาดอยู่ใกล้สถานีรถไฟใต้ดินเซิงหว่าน

 

อันว่าการต่อรองนี่เป็นนิรันดร์ของตลาดนัดฮ่องกงนั้น พ่อค้าแม่ค้าตั้งราคาสูงเผื่อต่อ ซึ่งอันนี้แล้วแต่คนชอบนะ บางคนว่าต่อรองกันสนุกดี แต่ฉันไม่ค่อยชอบแฮะ ฉันว่าอยากขายเท่าไหร่ว่ามาเลย กิจกรรมการเดาใจแม่ค้าว่าที่จริงแล้วบอกเผื่อต่อไว้ประมาณไหน และฉันควรจะต่อเพียงไรไม่ให้ตัวเองถูกเอาเปรียบและการค้าขายเป็นอันจบเห่ทั้งที่ยังไม่ได้เริ่ม เรื่องอย่างนี้กินพลังงานเปล่าปลี้

ฉันเห็นแม่ค้าในเลดี้มาร์เก็ต วิ่งตามเดินตามลูกค้าที่เดินหนีเพราะราคาสูงเกินรับ พยายามตื๊อให้กลับมาซื้อในราคาที่ในที่สุดก็ต้องลดลงหนัก ฉันว่าถ้าเอาเวลาและแรงกายแรงใจมาบอกราคาที่ต้องการเสียแต่แรก ก็ไม่ต้องเสียแรงวิ่งไล่ง้องอนปานนี้

ร้านค้ามากมายยัดทะนานไปสองข้างถนน แถมขายสินค้าเหมือนกันตลอดย่าน ลูกค้าย่อมเป็นต่ออยู่แล้ว

ฉันว่าค้าขายแบบตรงไปตรงมาจะดีต่อจิตและกิจการของตัวเองมากกว่าการจ้องฟันลูกค้า

ลูกค้าสมัยนี้มันฟันกันง่ายๆ เสียที่ไหนล่ะคุณ ยิ่งในฮ่องกง ไม่ว่าจะคนที่อยู่ฮ่องกง หรือนักท่องเที่ยวที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงฮ่องกง

 คุณว่าเขาจะให้ฟันง่ายๆ ไหมล่ะ?