ผู้เขียน | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
Pet Lover Center (เพ็ท เลิฟเวอร์ เซ็นเตอร์) คือ ร้านค้าปลีกอาหารและแอกเซสซอรี่สำหรับสัตว์เลี้ยง ต้นแบบอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์
เปิดมานานกว่า 40 ปี ธุรกิจได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง จึงเติบโตแตกไลน์ขยายเป็นเพ็ทช็อปขนาดใหญ่ที่มีทั้งสินค้าและบริการและสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจร โดยใช้ชื่อว่า The Pet Safari (เดอะ เพ็ท ซาฟารี)
ล่าสุด กิจการทั้งสองแบรนด์นี้ มีสาขาอยู่ในประเทศสิงคโปร์ 61 สาขา ประเทศมาเลเซีย 16 สาขา
ก่อนจะลัดฟ้ามาเปิดเป็น The Pet Safari Bangkok (เดอะ เพ็ท ซาฟารี แบงค็อก) แห่งแรกในเมืองไทย ตั้งอยู่บนพื้นที่เกือบ 600 ตารางเมตร บริเวณชั้น G พาราไดซ์ เซอร์วิส โซน ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ถนนศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ
ภายใต้แนวคิดใหม่ หวังตอบโจทย์ “คนเมืองรักสัตว์” ที่ต้องการชีวิตสะดวกสบาย ไม่ต้องตระเวนไปหลายแห่ง แบบที่เจ้าของและสัตว์เลี้ยง สามารถช็อปปิ้งพร้อมกันได้ในห้างเดียว
คุณวิโรจน์ ลิมตราจิตต์ ผู้ได้รับสิทธิ์มาสเตอร์แฟรนไชส์ของทั้งสองแบรนด์ ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด The Pet Safari Bangkok ย้อนความเป็นมาให้ฟัง ราวสองปีก่อนหน้านี้ ครอบครัวของเขาลงทุนทำธุรกิจ นำ Pet Lover Center มาเปิดในเมืองไทยได้ 2 สาขาแล้ว อยู่ที่ซอยทองหล่อ และเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ
เมื่อคิดขยายสาขาที่ 3 จึงมองไปที่รูปแบบ The Pet Safari ซึ่งมีขนาดการลงทุนที่ใหญ่กว่า สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคไทยยุคปัจจุบัน ที่ต้องการทุกอย่างเบ็ดเสร็จภายในที่แห่งเดียว
“The Pet Safari คือ เพ็ทช็อปรูปแบบใหม่ เป็น One Stop Shopping ที่ต้องอยู่ในห้างสรรพสินค้าเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาเมืองไทยไม่เคยมี เนื่องจากติดข้อจำกัดด้านการจัดการของพื้นที่ หลายประการ แต่เมื่อทางศูนย์การค้าพาราไดซ์ มีนโยบายให้เปิดเพ็ทสโตร์ลักษณะนี้ในห้างได้ การลงทุนครั้งใหม่จึงเริ่มขึ้น” คุณวิโรจน์ อธิบาย
แต่ถึงกระนั้นก็ใช้เวลานับปีกว่าที่ทุกอย่างจะลงตัว เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ แตกต่างจากร้านเพ็ทช็อปโดยทั่วไป ทั้งยังต้องตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้ด้วย จึงต้องมีการออกแบบและจัดสรรพื้นที่ของทางห้างใหม่หมด โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ
เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจตามมา อย่าง กลิ่นของสัตว์เลี้ยง ที่ต้องมีการออกแบบการถ่ายเทของอากาศ การใช้วัสดุปูพื้นที่เหมาะสม หรือแม้แต่แสงไฟที่ใช้ภายในร้าน ซึ่งต้องผ่านการคำนวณใหม่หมด เพื่อทำให้ The Pet Safari Bangkok เป็นสโตร์ที่ปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยง และผู้คนซึ่งเดินมาเลือก ซื้อหาของใช้แล้วรู้สึกผ่อนคลายไม่อึดอัด
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวต่อว่า The Pet Safari Bangkok ไม่ใช่สโตร์ขนาด ใหญ่ที่ขายสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงแต่เพียงอย่างเดียว
หากมีบริการที่อยู่ในความต้องการของผู้บริโภค รวมอยู่ด้วย เช่น สปา-อาบน้ำตัดขน แท็กซี่รับส่งร้านเบเกอรี่น้องหมา การจำหน่ายสัตว์เลี้ยง หลายชนิด ทั้งสุนัข แมว แฮมสเตอร์ กระต่าย ฯลฯ
รวมถึงคลินิกรักษาสัตว์ ซึ่งจำเป็นต้องมีพื้นที่พิเศษที่ต้องขออนุญาตจากกรมปศุสัตว์ ในการเปิด เพื่อดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย
“นอกจากจะมีสินค้าหลากหลายทั้งนำเข้าและผลิตในประเทศ จำหน่ายในสโตร์ที่กว้างขวางสะดวกสบายและราคาไม่แพงแล้ว ยังมีบริการจากพันธมิตรทางธุรกิจระดับมืออาชีพ อย่าง เพ็ทซี่ลีโม่ บริการรับ-ส่งสัตว์เลี้ยงถึงที่บ้าน โดยรถที่ถูกออกแบบเพื่อการขนถ่ายสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ และ เบเกอรี่ ด็อกเกอรี่ ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องคุกกี้เพื่อสุขภาพสำหรับน้องหมา เป็นต้น” คุณวิโรจน์ บอกอย่างนั้น
หลังจากเปิดตัวอย่างทางการได้ไม่นาน ผลตอบรับค่อนข้างดีมาก ลูกค้าหลายคนบอกชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ต้องเร่งรีบ มาที่เดียวได้สินค้าครบทุกอย่าง แถมยังสามารถพาลูกๆ สี่ขาของพวกเขามาทำสปา-อาบน้ำตัดขนหรือตรวจสุขภาพได้ไปพร้อมกันกับการช็อปปิ้งด้วยเลย
ถามถึงภาวะการแข่งขันในตลาดสัตว์เลี้ยงยุคนี้ คุณวิโรจน์ บอก จากประสบการณ์ที่สัมผัสได้ มั่นใจธุรกิจด้านนี้ยังไปได้ดี แม้มีการแข่งขันรุนแรง ถือเป็นเรื่องธรรมดาของธุรกิจที่กำลังเติบโต
แต่การแข่งขันกันนั้นนับเป็นผลดีสำหรับผู้บริโภค เพราะสุดท้ายจะทำให้ผู้ประกอบการทั้งหลายปรับตัวและเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน
“ต่อไปของที่ขายในเพ็ทช็อปต้องคุณภาพดี สภาพร้านต้องสะอาด การบริการของพนักงานเองก็ต้องให้ความสำคัญ เพราะถึงสินค้าจะขายถูกขนาดไหน แต่บริการไม่ดี ลูกค้าไม่มีทางกลับมา เพราะพวกเขามีทางเลือกมากขึ้น” ผู้บริหาร The Pet Safari Bangkok ทิ้งท้ายอย่างนั้น