สำรวจ Social Trends ผ่านลาบูบู้ ความนิยมที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ในชั่วข้ามคืน

สำรวจ Social Trends ผ่านลาบูบู้ ความนิยมที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ในชั่วข้ามคืน

ในยุคที่โซเชียลมีเดียมีบทบาทสำคัญ จุดกระแสความนิยมได้อย่างรวดเร็ว นาทีนี้ หากเอ่ยถึง “Art Toy (อาร์ตทอย)” งานศิลปะที่ออกมาในรูปแบบกล่องสุ่ม เป็นของเล่นและของสะสมสุดทรงพลัง กลายเป็นสินค้าฮิตเพียงชั่วข้ามคืน โดยวันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ จะพาทุกท่านย้อนรอย “ตุ๊กตายอดฮิต” ในไทย เปรียบเทียบราคาช่วงพีกสุด กับราคาปัจจุบัน เพื่อเป็นบทเรียนสำหรับนักสะสม หรือนักลงทุนมือใหม่ ที่อยากจะซื้อไว้เพื่อเก็งกำไร

ยังจำกันได้ไหม กับกระแสตุ๊กตาสุดน่ารักที่เคยฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง ที่ใครหลายคนยังคงมีสะสมไว้อยู่ที่บ้าน ก็จะมี เฟอร์บี้ ตุ๊กตาลูกเทพ ตุ๊กตาบลายธ์ หรือ แคร์แบร์ และล่าสุดกับกระแส ลาบูบู้ สัตว์ประหลาดน้อยตัวจิ๋ว ที่อยู่ในชุดกระต่าย มีดวงตาที่ใหญ่โต ปากกว้าง ฟันหยัก จากอาณาจักร POP MART

“POP MART” (ป๊อปมาร์ท) ธุรกิจกล่องสุ่มสุดปังของจีน ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 POP MART มีรายได้ 6.30 พันล้านหยวน หรือประมาณ 3.15 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นมูลค่าที่สูงมาก แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของตลาดสินค้าของเล่นสะสมที่เติบโตขึ้น 

ซึ่งตอนนี้กระแสที่มาแรงมากในตอนนี้คงหนีไม่พ้นเจ้าตัว “Labubu (ลาบูบู้)” สินค้าแรร์ไอเทม ที่ไอดอลชื่อดังอย่าง “ลิซ่า BLACKPINK” ได้ทำการเซลฟี่คู่กล่องสุ่มลาบูบู้โพสต์ลงสตอรี่ไอจี รวมถึง “แม่ชมพู่ อารยา” ก็ไม่พลาดที่จะเข้าวงการนี้ ทำเอาตอนนี้ราคาพุ่งไปสูงถึงหลักหมื่น แต่อย่าลืมว่าค่าตัวจริงๆ ของเจ้าลาบูบู้ราคาหลักร้อยเท่านั้น 

สำรวจ Social Trends ผ่านลาบูบู้ ความนิยมที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ในชั่วข้ามคืน

โดย POP MART ตั้งราคาขายพวงกุญแจลาบูบู้มาการอง ราคา 550 บาท ต่อ 1 กล่องสุ่ม และ 3,300 บาท ต่อซื้อยกกล่อง (6 ตัว)

ซึ่งปัจจุบันลาบูบู้ออกมาด้วยกันกว่า 10 คอลเล็กชัน แต่คอลเล็กชันที่กำลังถูกพูดถึงเป็นอย่างมากคือ “LABUBU-The Monsters Exciting Macarons” พวงกุญแจต้าวบู้หน้าอ้วนขนปุกปุย ที่มีอยู่ด้วยกัน 7 สีให้เก็บสะสมคือ สีชมพู Lychee Berry, สีเขียว Green Grape, สีครีม Soymilk, สีฟ้า Sea Salt Coconut, สีเทา Sesame Bean, สีน้ำตาล Toffee และสีหายาก น้ำตาลเข้ม Chestnut Cocoa

โดยข้อมูลราคาในตลาดตอนนี้จะแตกต่างไปในแต่ละตัว ได้แก่

กล่องสุ่มแบบลุ้นตัว ราคาเริ่มต้นที่ 2,500-2,600 บาท

สีครีม Soymilk ราคาเริ่มต้นที่ 2,100-5,000 บาท

สีชมพู Lychee Berry ราคาเริ่มต้นที่ 2,100-4,800 บาท

สีเขียว Green Grape ราคาเริ่มต้นที่ 2,100-4,200 บาท

สีฟ้า Sea Salt Coconut ราคาเริ่มต้นที่ 2,100-4,200 บาท

สีน้ำตาล Toffee ราคาเริ่มต้นที่ 2,100-5,200 บาท

สีเทา Sesame Bean ราคาเริ่มต้นที่ 2,100-4,200 บาท

สีน้ำตาลเข้ม Chestnut Cocoa (ตัวลับ หายาก) ราคาเริ่มต้นที่ 6,000-9,000 บาท

แบบยกกล่อง 6 ตัว ราคาเริ่มที่ 16,000-19,000 บาท

และหากย้อนไปเมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้ว ยังมีเจ้า “ตุ๊กตาเฟอร์บี้” ตุ๊กตาหุ่นยนต์ขนฟู ที่เคยฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง ที่ดาราเซเลทุกคนต้องมี ซึ่งไม่ใช่แค่ตุ๊กตาธรรมดา แต่ยังสามารถขยับตา ขยับปากพูดได้ และยังสามารถเต้นได้อีกด้วย 

เฟอร์บี้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นของเล่นขายดีที่สร้างยอดจำหน่ายได้ถึง 40 ล้านตัวทั่วโลกในปี 2541 โดยราคาตุ๊กตาเฟอร์บี้ของแท้ ราคาจะอยู่ที่ 3,200-4,000 บาท แล้วแต่รุ่นและสี และราคาตลาดเคยพุ่งสูงถึง 6,000 บาท

อีกทั้งยังมี “ตุ๊กตาลูกเทพ” ที่เป็นเครื่องรางของขลังที่คนไทยเชื่อว่าถ้าเลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพไว้จะทำให้ช่วยเรียกทรัพย์ นำโชคลาภมาให้ จึงทำให้ช่วงเวลาตอนนั้นจะเห็นว่ามีคนไทยหลายคน อุ้มตุ๊กตาลูกเทพไปด้วยทุกที่ ซึ่งราคาจะอยู่ที่ตัวละ 1,500-4,500 บาท แล้วแต่ขนาด แต่ในปัจจุบันแทบจะไม่พบเห็นคนอุ้มตุ๊กตาลูกเทพแล้ว 

โดยจากความนิยมต่างๆ ที่ทำให้เป็นกระแสขึ้นมานั้น เกิดจากการที่คนดังหลายคนที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าในสื่อโซเชียล ทำให้แค่โพสต์รูปสินค้าลงโซเชียล สินค้านั้นก็จะกลายเป็นที่นิยมและขายดีในชั่วข้ามคืน 

อย่างไรก็ตาม จากบทความข้างต้น จะเห็นได้ว่าตุ๊กตาฮิตที่เป็นกระแส มักจะมีราคาสูงในช่วงแรก แต่เมื่อความนิยมเริ่มลดลง ราคาจะปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ถ้าคิดจะซื้อเพื่อเก็งกำไรให้ระวังดีๆ แต่ถ้าซื้อเพื่อความพึงพอใจถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล หรือรอให้ราคาลงก่อนก็ได้ ไม่ต้องรีบซื้อตอนดีมานด์สูง

ขอบคุณข้อมูล

https://www.sanook.com/campus/1422819/ 

https://www.isranews.org/content-page/item/19173-%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81.html