6 เทคนิค เลือกทำเลเปิดร้านอย่างไรให้ขายดี? 

6 เทคนิค เลือกทำเลเปิดร้านอย่างไรให้ขายดี? 

ในปัจจุบันนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การขายของออนไลน์เป็นสิ่งที่ร้านค้านำมาใช้กันมาก บ้างก็มีหน้าร้านและขายผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ไปพร้อมกัน บ้างก็ขายแค่ช่องทางออนไลน์เท่านั้น แต่ทุกคนรู้หรือไม่ว่า การขายของหน้าร้านและออนไลน์ มีทั้งข้อดีและข้อเสียต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสินค้า กลุ่มเป้าหมาย และความชอบส่วนบุคคล 

ซึ่งบางธุรกิจอาจจะเหมาะกับการขายหน้าร้านมากกว่า เช่น สินค้าบางประเภทลูกค้าจำเป็นที่จะต้องเห็นตัวจริง สินค้าที่มีราคาแพง หรือสินค้าที่ต้องการคำปรึกษาจากพนักงาน บางธุรกิจอาจจะเหมาะกับการขายออนไลน์ เช่น สินค้าขนาดเล็ก สินค้าราคาไม่แพง หรือสินค้าที่ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่าย

ในการค้าขายพ่อค้าแม่ค้าต้องตระหนักถึงข้อดีข้อเสียของแต่ละรูปแบบให้ดี เพราะจะทำให้ธุรกิจของเราเติบโตต่อไปได้ และวันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ จะพาไปดู ข้อดีและข้อเสียของแต่ละแบบกัน

“ขายหน้าร้าน”

ข้อดี

– มีความน่าเชื่อถือ ด้วยลูกค้าสามารถเห็นสินค้าได้จริง สัมผัสได้ และมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ เพราะจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าได้

– ควบคุมสินค้าคงคลังได้ง่าย พ่อค้าแม่ค้าสามารถจัดการสินค้าคงคลังได้แบบเรียลไทม์ ป้องกันสินค้าหมดสต๊อก หรือสินค้าล้น

– สร้างการมีส่วนร่วม ลูกค้าสามารถพูดคุยกับพนักงาน สอบถาม แนะนำกันได้โดยตรง

– รองรับการชำระเงินแบบออฟไลน์ รองรับการชำระเงินแบบต่างๆ เช่น เงินสด บัตรเครดิต หรือการโอนเงินผ่านธนาคาร

– สร้างชุมชน สามารถสร้างชุมชนลูกค้าในพื้นที่ กระตุ้นการบอกต่อ และสร้างฐานลูกค้าประจำ

ข้อเสีย

– ค่าใช้จ่ายสูง ในการเปิดหน้าร้าน หากไม่มีพื้นที่เป็นของตัวเอง อาจจะต้องเสียค่าเช่าที่ นอกจากนี้ยังต้องเสียค่าตกแต่งร้าน ค่าจ้างพนักงาน ฯลฯ

– มีข้อจำกัดด้านเวลา ด้วยการขายหน้าร้าน อาจจะต้องมีเวลาเปิดปิด ซึ่งลูกค้าบางรายอาจจะไม่สะดวก

– เข้าถึงลูกค้าได้จำกัด ฐานลูกค้าอาจอยู่ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ไม่ตอบโจทย์กับลูกค้าไกลๆ 

– การแข่งขันสูง ด้วยขายของหน้าร้าน บางครั้งอาจจะเปิดที่ตลาดหรือตามงานต่างๆ ก็จะต้องเผชิญกับคู่แข่งร้านอื่นๆ

“ขายออนไลน์”

ข้อดี

– ต้นทุนต่ำ การขายของออนไลน์ไม่จำเป็นต้องเสียค่าเช่าพื้นที่ ค่าตกแต่งร้าน หรือค่าพนักงานประจำ

– เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ลูกค้าสามารถเข้าถึงร้านค้าได้ทุกที่ทุกเวลา เพราะสามารถปักตะกร้าให้ลูกค้าเข้ามาซื้อของได้ตลอด

– เข้าถึงลูกค้าได้ทั่วโลก สามารถขายสินค้าให้กับลูกค้าทั่วโลก

– สามารถเก็บข้อมูลลูกค้า สามารถเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมและทำการตลาดได้ตรงจุด ซึ่งลูกค้าสามารถมารีวิวสินค้าได้ ทำให้ลูกค้าคนอื่นๆ กล้าตัดสินใจซื้อมากขึ้น

ข้อเสีย

– สร้างความน่าเชื่อถือยาก ด้วยการขายของออนไลน์ ลูกค้าไม่สามารถเห็นสินค้าจริง สัมผัส หรือลองสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ

– ขาดการมีส่วนร่วม ลูกค้าไม่สามารถพูดคุยกับพนักงาน ถามคำถาม หรือรับคำแนะนำโดยตรงได้

– ควบคุมสินค้าคงคลังยาก ในกรณีที่ลูกค้ามีความต้องการสินค้าชนิดนี้สูง อาจทำให้สินค้าหมดสต๊อก หรือหากสินค้าไม่เป็นที่ต้องการ อาจทำให้คงคลังล้นได้ง่าย

– รองรับการชำระเงินแบบออนไลน์ สำหรับลูกค้าบางคนอาจไม่สะดวกในการชำระเงินแบบออนไลน์ ซึ่งติดการชำระเงินสดมากกว่า

– ค่าใช้จ่ายด้านการตลาด อาจจะต้องเสียค่าโฆษณาและการตลาดออนไลน์เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มากขึ้น

สำหรับข้อดีและข้อเสียของแต่ละรูปแบบแล้ว ผู้ขายต้องตัดสินใจเลือกให้เหมาะกับสินค้า และกลุ่มเป้าหมายของตนเอง

“ทำเลที่ตั้ง”

จากที่บอกไปข้างต้นว่า การขายของออนไลน์ไม่จำเป็นจะต้องหาหน้าร้าน แต่การขายหน้าร้านนั้นจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อได้มากขึ้น แต่กระนั้นเราจะต้องมองหาทำเลที่ตั้ง ที่ตอบโจทย์กับสินค้าและบริการของเรา โดยดูได้ ดังนี้

1. เลือกประเภทของสถานที่ให้เหมาะสมกับธุรกิจ

การเลือกสถานที่ให้เหมาะสมกับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าขนาดเล็ก ออฟฟิศ โรงงาน สถานที่จะช่วยรองรับและต่อยอดให้กับธุรกิจเราได้ โดยต้องดูถึงกฎหมายและข้อบังคับในแต่ละท้องถิ่น 

2. สำรวจข้อมูลประชาการ

การสำรวจข้อมูลประชากรส่งผลอย่างมากต่อการตัดสินใจเปิดร้าน เช่น จำนวนคน รายได้ อายุ ชนชาติ พฤติกรรมการซื้อของลูกค้า เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยบ่งบอกว่า สินค้าของเราตรงกับกลุ่มลูกค้าเหล่านี้หรือไม่ 

3. เดินเข้า-ออกได้สะดวก

การเลือกพื้นที่ที่สามารถเดินเข้าออกได้สะดวก จะช่วยเพิ่มการมองเห็นได้มากขึ้น ซึ่งสถานที่จะต้องมีความปลอดภัย สะอาด และน่าดึงดูด

4. เลือกทำเลที่อยู่ในย่านร้านที่ช่วยดึงดูดลูกค้า

การเลือกทำเลที่อยู่ในย่านร้านที่ช่วยดึงดูดลูกค้า จะทำให้การมองเห็นของกลุ่มลูกค้าเพิ่มมากขึ้น 

5. การคมนาคม

ต้องดูว่าสถานที่ตั้งของเรารองรับสำหรับการเดินทางของลูกค้าหรือไม่ หากการเดินทางสะดวก มีรถโดยสารผ่าน จะช่วยให้ลูกค้าอยากเข้ามากขึ้น

6. ต้นทุน

ต้องคำนวณต้นทุนให้ละเอียดถี่ถ้วน เช่น ค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภค และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเช่าพื้นที่ในทำเลต่างๆ จะแตกต่างกันไป เพราะฉะนั้น ต้องเลือกทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ

ขอบคุณข้อมูลบางส่วน DIPROM