ลุงหมึก ตกงานในวัย 50 พลิกความล้มเหลวเป็นความสำเร็จ สู่ เจ้าของ ภูผาตาด โฮมสเตย์

ลุงหมึก ตกงานในวัย 50 พลิกความล้มเหลวเป็นความสำเร็จ สู่ เจ้าของ ภูผาตาด โฮมสเตย์

พนักงานรัฐวิสาหกิจวัยเกือบ 50 ปี อีกไม่นานก็จะก้าวเข้าสู่วัยเกษียณ รอเงินบำนาญ แต่ไม่ทันถึงเอื้อม เหตุการณ์ฟองสบู่แตกมาพรากความหวังนี้ไปได้ เขาต้องตกงาน กลายเป็นคนไร้งานทันที

ลุงหมึก-ชำนาญ มณีวงษ์ อายุ 72 ปี เจ้าของภูผาตาด โฮมสเตย์ เผยเรื่องราวชีวิตตั้งแต่ทำงานจนตกงานอันเป็นต้นเหตุแห่งความสำเร็จในวัยเกษียณ 

ลุงหมึก ตกงานในวัย 50 พลิกความล้มเหลวเป็นความสำเร็จ สู่ เจ้าของ ภูผาตาด โฮมสเตย์

ต้องขอเล่าย้อนไปเมื่อปี พ.ศ. 2519 เขาได้เริ่มทำงานเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ด้วยฐานะทางบ้านยากจนจึงต้องดิ้นรนทำงาน เวลาในการทำงานเพียง 8 ชั่วโมงทั่วไปคงไม่เพียงพอ เขาได้ทำงานเสริมตอนกลางคืน หวังแค่หารายได้มาจุนเจือครอบครัว และด้วยความที่อยากจะมีบ้านจึงต้องดิ้นรนทำงานหนักกว่าคนอื่นเป็น 14 ชั่วโมงต่อวัน

เมื่อทุกอย่างเริ่มลงตัวแต่ใครจะคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น และเหตุการณ์นั้นคือ “ฟองสบู่แตก” เขาได้รับผลกระทบที่เรียกได้ว่าแทบรับแรงกระแทกไม่ไหว เขาในวัย 50 ปีจึงต้องกลายเป็นคนตกงานในทันที

ความรู้สึกเคว้งคว้างผสมกับความเครียด ด้วยความหวังว่าอีกแค่ไม่กี่ปีก็จะเข้าสู่วัยเกษียณและได้กินเงินเกษียณไปตลอดชีวิต ในระหว่างที่ตกงานเขาพยายามหางานใหม่ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ยากมาก เพราะทุกคนได้รับผลกระทบกันหมด แต่ด้วยความไม่ย่อท้อ ลองมาขับแท็กซี่บ้าง หรือหากไม่มีงานก็นั่งรถเมล์ให้หมดไปวันๆ 

เมื่อปี 2543 เวลาชีวิตเริ่มดีขึ้น มีเพื่อนที่จังหวัดเชียงใหม่โทรศัพท์มาหาชวนให้มาทำงานเป็นเซลส์ขายอาคารพาณิชย์ ณ เวลานั้นใครหยิบยื่นโอกาสมาเขาคว้าไว้หมด และได้ทำอาชีพนี้มาจนถึง 2 ปีกว่า จนเก็บเงินมาได้ก้อนหนึ่ง

“คุยกับภรรยา เงินก้อนนี้ถ้าเราอยู่กรุงเทพฯ สักวันมันก็หมดก็เหมือนน้ำที่อยู่ในแก้วรอวันระเหย” เขาเล่า

เขาได้นำเงินมาซื้อที่ดินในทองผาภูมิ ด้วยคิดว่าแม้เงินหมดไปแต่สิ่งที่ได้มาคือที่ดิน และได้นำเอาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาต่อยอด โดยดูจากคนที่ล้มเหลว แล้วนำสิ่งนั้นที่เขาไม่มีมาปรับใช้กับตัวเอง ถึงแม้ชีวิตจะดำเนินมาถึงทางสว่างแต่ปัญหาก็ยังคงติดตามมาไม่ไปไหน ที่ดินที่เขาซื้อมาดูเหมือนจะไม่สามารถทำการเกษตรอะไรได้ เพราะเป็นดินที่แข็งกระด้าง ไม่อุ้มน้ำ และอีกหลายๆ ปัจจัย

แต่ด้วยความไม่ย่อท้อ ตั้งเป้าไว้ว่า “ไม่สำเร็จ ไม่กลับกรุงเทพฯ” ในระหว่างนั้นเขาได้หางานทำและได้เงินมาก้อนหนึ่ง จึงเริ่มลงมืออย่างจริงจัง โดยเริ่มวางระบบน้ำ แก้ปัญหาดิน และเริ่มปลูกผัก สุดท้ายปัญหาเหล่านั้นก็เป็นเพียงแค่เศษฝุ่นเล็กๆ สำหรับเขา

โฮมสเตย์ที่ไม่ได้ตั้งใจ

มาถึงจุดที่สำคัญและเป็นประเด็นหลักของการสัมภาษณ์ลุงหมึกในครั้งนี้ นั่นคือ ภูผาตาด โฮมสเตย์ เขาบอกกับเราว่า โฮมสเตย์เหมือนตกกระไดพลอยโจน ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจนมีคนรู้จักถึงทุกวันนี้

เรื่องนี้เริ่มจากที่เขาไปเจอคนไต้หวันที่บ่อน้ำพุร้อน และได้พูดคุยชักชวนให้มาเที่ยวบ้าน เมื่อพวกเขาได้มาเที่ยวที่บ้านแล้วรู้สึกประทับใจและชอบสไตล์บ้านของลุงหมึกมาก จึงทำให้พวกเขาได้กลับมาเยี่ยมลุงหมึกอยู่บ่อยครั้ง

ลุงหมึก ตกงานในวัย 50 พลิกความล้มเหลวเป็นความสำเร็จ สู่ เจ้าของ ภูผาตาด โฮมสเตย์

และนี่ก็เป็นหนึ่งสิ่งที่ทำให้เขาเกิดความคิดที่จะสร้างบ้านไว้อีกหลัง เพียงเพื่อรองรับแขกชาวไต้หวันเท่านั้น แต่ไม่นานจึงเกิดเป็นโฮมสเตย์ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่มาพักทุกราย โดยมีบ้านเพิ่มขึ้นจนถึงตอนนี้ 5 หลังด้วยกัน และในแต่ละหลังจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป

1. พะเน้าพะนอ บ้านส่งเรือนไทยประยุกต์ทางอินโดนีเซีย มีความโดดเด่นเฉพาะตัวเหมาะสำหรับผู้พักถึง 12 คน

ลุงหมึก ตกงานในวัย 50 พลิกความล้มเหลวเป็นความสำเร็จ สู่ เจ้าของ ภูผาตาด โฮมสเตย์

2. ออดอ้อนออเซาะ บ้านที่นำไม้จากริมรั้วมาตัดสาง ให้เป็นซี่เล็กๆ นำมาเรียงเป็นฝาบ้าน มีความโดดเด่นเฉพาะตัว บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ลูกหมึกไว้พักเอง

ลุงหมึก ตกงานในวัย 50 พลิกความล้มเหลวเป็นความสำเร็จ สู่ เจ้าของ ภูผาตาด โฮมสเตย์

3. พะเพื่อนพะแพง บ้านทรงไทยแฝด ซ้ายขวาเหมือนกัน นอนได้ฝั่งละ 4 คน

ลุงหมึก ตกงานในวัย 50 พลิกความล้มเหลวเป็นความสำเร็จ สู่ เจ้าของ ภูผาตาด โฮมสเตย์

4. อ้อนออดฉอเลาะ มีแรงบันดาลใจมาจากอินโดนีเซียและทางภาคเหนือของไทย เขาให้นิยามของบ้านหลังนี้ว่า บ้านหนังหมู ซึ่งเป็นศัพท์ของช่างเลื่อยไม้ นอนได้ 4 คน

ลุงหมึก ตกงานในวัย 50 พลิกความล้มเหลวเป็นความสำเร็จ สู่ เจ้าของ ภูผาตาด โฮมสเตย์

5. ระริกระรี้ บ้านทรงหกเหลี่ยม เป็นอีกหนึ่งหลังที่มีความสวยงาม และมีจุดเด่นที่เขาการันตีได้ว่ามีชุดเดียวในโลก คือ หน้าต่างบานเกล็ดไม้ที่ลุงหมึกเป็นคนลงมือทำเอง หลังนี้เหมาะกับ 2 คน

ลุงหมึก ตกงานในวัย 50 พลิกความล้มเหลวเป็นความสำเร็จ สู่ เจ้าของ ภูผาตาด โฮมสเตย์

จะบอกว่าบ้านแต่ละหลังมีจุดเด่นและมีความเป็นเสน่ห์ของตัวมันเอง แต่มีอีกหนึ่งสิ่งที่ใครได้ไปเยือนภูผาตาด โฮมสเตย์ ต้องเจอเหมือนกันนั่นคือ ห้องน้ำทุกห้องไม่มีหลังคา ลุงหมึก บอกว่า นี่เป็นเสน่ห์อีกหนึ่งอย่างของที่นี่

การได้มาพักที่ภูผาตาด โฮมสเตย์ ไม่ได้เพียงแค่พักผ่อนหลับนอนเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมหลากหลายให้ผู้ที่มาพักได้ทำ ซึมซับกับบรรยากาศธรรมชาติไปพร้อมกับสวนผลไม้ สามารถปั่นจักรยานชมสวนผลไม้ และมีผลไม้ให้กินอยู่ตลอดไม่ขาดมือ นอกจากนี้ ยังมีอบสมุนไพรสด 19 ชนิด สิ่งเหล่านี้สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าเป็นอย่างมาก ในบางครั้งลูกค้าถึงกับจองล่วงหน้ามาพัก 5 คืน 6 วันกันเลยทีเดียว

ลุงหมึก ตกงานในวัย 50 พลิกความล้มเหลวเป็นความสำเร็จ สู่ เจ้าของ ภูผาตาด โฮมสเตย์

ที่พักดีมีกิจกรรมหลากหลาย ดูแล้วราคาน่าจะแพงน่าดู แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นเขาบอกว่ามีราคาเดียว ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลหรือวันธรรมดาไม่มีปรับขึ้นแน่นอน ราคา 850 บาทต่อคนต่อคืน พร้อมด้วยอาหาร 2 มื้อ และผลไม้ทุกมื้อ

ความสำเร็จอยู่ที่ตัวเรา

ในสวนของลุงหมึก ไม่ได้มีเพียงแค่โฮมสเตย์เท่านั้น แต่ยังมีต้นไม้ที่คอยออกดอกออกผลไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวมากมาย แต่ในใจจริงๆ ของเขา ไม่ได้หวังเพียงแค่ปลูกไว้กิน แต่ยังคงคิดถึงอนาคตของลูกๆ เพราะที่ทำไปทุกวันนี้ ก็เพื่อครอบครัว

“ในสวนของลุงมีไม้เศรษฐกิจ 1,200 กว่าต้น อีก 30 ปี พวกเขา 60 แล้วไม่มีเงินเก็บ ไม่มีเงินสะสม เขาขายไม้นี้ 20 ล้านได้แน่นอน เขาอยากจะต่อยอดก็ได้ จะสร้างบ้าน หรือจะขายก็ได้ ใครฟังเรื่องนี้ก็อยากมาเป็นลูกลุง” ลุงหมึก กล่าว

กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ได้ชีวิตเขาต้องผ่านอะไรมามากมาย การประสบความสำเร็จของแต่ละคนไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราจะต้องมีเงินมาก หรือเราจะต้องอยู่เหนือกว่าคนอื่น แต่สิ่งที่ดีเป็นตัวบ่งบอกว่าเขาประสบความสำเร็จแล้วคือ 

“ลุงหมึกจะไม่บอกว่าตัวเองประสบความสำเร็จ พอเราบอกว่าตัวเองประสบความสำเร็จคนจะนึกถึงเรื่องเงินมาเป็นตัวตั้ง แต่ลุงหมึกภูมิใจ ว่าความสำเร็จคือไม่ต้องพึ่งพาที่บ้านแล้ว ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน” ลุงหมึก กล่าว

ชีวิตหลังจากตกงานสู่เจ้าของโฮมสเตย์ที่ใครหลายๆ คนรู้จัก ถือได้ว่าเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก เพราะไม่เพียงแค่สร้างที่พักผ่อน และสร้างรายได้ที่ดีมาก แต่ยังเป็นการสร้างมิตรภาพ สร้างแรงบันดาลใจ และสร้างความสุขให้กับคนที่มาพัก สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้เขาได้มีโอกาสขึ้นพูดประสบการณ์ของตนเองเพื่อเป็นแรงบันดาลใจและเติมเชื้อไฟให้กับหลายๆ คนได้ลุกขึ้นสู้ จึงทำให้ทุกคนรู้จักเขาในนาม ลุงหมึก ภูผาตาด

สุดท้ายนี้ ลุงหมึก อยากจะฝากถึงคนที่กำลังย่อท้อหรือหมดไฟว่า

“สำหรับคนที่กำลังท้อและหมดกำลังใจ ให้อดทนและสู้ พยายาม ผิดแล้วทำอีกลองผิดลองถูก มีความพยายามเยอะๆ ให้มากกว่าคนอื่น” 

สำหรับเรื่องราวของลุงหมึก หากมองดูให้ลึกซึ้งจะเห็นได้ว่า ถึงแม้เราจะพบเจอกับความล้มเหลว ไม่ว่าจะกี่ครั้ง แต่ถ้าเราไม่ยอมหยุดและพยายามต่อไป สุดท้ายความสำเร็จจะมาถึง คล้ายกับการปลูกต้นไม้ ครั้งแรกปลูกไม่สำเร็จ แต่ถ้าเราพยายามต่อจนต้นไม้เติบโต ในท้ายที่สุดคุณจะได้รับถึงความหอมหวานของผลไม้นั้น 

หากใครที่สนใจอยากไปพักผ่อนที่ภูผาตาด โฮมสเตย์

สามารถติดต่อได้ที่ 087-922-6187 (ลุงหมึก)