ไลฟ์ไปขายไป ไม่พัก กล้วยปิ้งรถฟู้ดทรัก ขายดีวันละ 5,000 ลูก จอดที่ไหนคิวยาวที่นั่น

ไลฟ์ไปขายไป ไม่พัก กล้วยปิ้งรถฟู้ดทรัก ขายดีวันละ 5,000 ลูก จอดที่ไหนคิวยาวที่นั่น
ไลฟ์ไปขายไป ไม่พัก กล้วยปิ้งรถฟู้ดทรัก ขายดีวันละ 5,000 ลูก จอดที่ไหนคิวยาวที่นั่น

ไลฟ์ไปขายไป ไม่พัก กล้วยปิ้งรถฟู้ดทรัก ขายดีวันละ 5,000 ลูก จอดที่ไหนคิวยาวที่นั่น

คุณโอฬาร เปี่ยมสมบูรณ์ คืออีกหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด แต่สามารถกลับมาตั้งตัวได้ด้วย “กล้วยปิ้ง” เมนูที่ดูธรรมดา แต่ไม่ธรรมดา ด้วยท็อปปิ้ง 15 หน้า ที่มีน้ำราดสูตรเด็ดจากน้ำตาลโตนด ประกอบกับการสัญจรขายบนรถฟู้ดทรักคู่ใจที่ตระเวนไปหาลูกค้าถึงที่ รวมถึงการไลฟ์พูดคุยกับลูกค้า นั่นจึงทำให้ “กล้วยเถอะคับ กล้วยปิ้งภูเขาไฟ” ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจอดขายที่ไหนก็คิวยาวที่นั่น และสามารถขายกล้วยได้ถึง 5,000 ลูกต่อวัน

ก่อนมาขายกล้วยปิ้ง คุณโอฬารทำธุรกิจอาหารมานาน 13 ปี และได้ปิดตัวลงเพราะโควิดระบาด เขาไม่เหลือแม้กระทั่งรถ บ้านไว้อาศัยหลับนอน ทำให้ต้องกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่บ้านเกิด จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งทำธุรกิจร้านขนมหวาน โดยพี่สาวได้ชักชวนให้มาช่วยทำโซเชียล ดูแลเพจขายขนม ซึ่งแม้จะให้เงินเดือนค่อนข้างสูง แต่ก็รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวตน เขาจึงเริ่มมองหาลู่ทางใหม่ คือขายมันปิ้งหน้าบ้าน

จากพอขายได้ เมื่อเจอโควิดรอบ 2 ทำให้ทุกอย่างแย่ลง คุณโอฬารเริ่มมองหาช่องทางทำกินใหม่ จากการไปเดินตลาดเพื่อดูว่าคนค้าขายอะไรกันบ้าง ปรากฏว่ามีกล้วยวางขายจำนวนมาก เขาจึงเริ่มขายกล้วยปิ้งคู่กับมันปิ้ง เมื่อทำได้สักระยะ ด้วยที่บ้านเปิดร้านขนมหวาน ทำให้มีน้ำตาลโตนดเก็บไว้มากมาย ซึ่งมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ จึงได้ขอบางส่วนมาทำน้ำราดกล้วยและมันปิ้ง อันเป็นจุดเด่นของร้าน

โดยตักกล้วยใส่กล่อง ราคา 20 บาท จากยอดขายวันละหลักร้อยก็ขยับเพิ่มมาเป็นหลักพันบาท ถึงจะได้กำไรไม่มาก แต่ก็พอให้มีเงินหมุนเวียนซื้อวัตถุดิบในครั้งต่อไป และเมื่อทำไปเรื่อยๆ ก็อยากขยายกลุ่มลูกค้าสู่กลุ่มเด็ก วัยรุ่น จากที่มีผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ เป็นกำลังซื้อหลัก

คุณโอฬาร เอี่ยมสมบูรณ์
คุณโอฬาร เอี่ยมสมบูรณ์

“อยากทำกล้วยปิ้งแบบมีท็อปปิ้ง เริ่มจากสิ่งที่ตัวเองชอบกิน เผือก ข้าวโพด มะพร้าว แล้วราดน้ำตาลโตนด ลองทำให้คนนั้นคนนี้กินเขาบอกอร่อย แต่ใครจะกิน จะขายยากนะ มันก็จริง แต่ก็อยากลอง สรุปขายได้ แต่ไม่เยอะ หรือจะเพิ่มหน้า ก็ทำน้ำราดสังขยาโรยฝอยทองใบเตย ทำน้ำราดเผือก น้ำราดใบเตย แต่เด็กก็ยังเฉยๆ

ถ้าเราใส่โอวัลติน ใส่ช็อกโกแลต จะหลอกล่อเด็กได้นะ เลยมาทำกล้วยปิ้งภูเขาไฟ เคี่ยวน้ำราดช็อกโกแลตเอง ใช้น้ำตาลโตนดนี่แหละ การันตีเลยว่าทำที่เดียว ปรากฏว่าทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่กินแล้วชอบ เราก็เริ่มสนุก ไปยืมรถซาเล้งของพี่สาวมาต่อพ่วงข้างเอง ทำเคาน์เตอร์ เตาย่าง ที่นั่ง ขับไปขายในตลาด กระแสตอบรับดี ยอดขายพันกว่าบาท

และก็เริ่มพัฒนากล้วย ถ้าย่างจะใช้เวลา 45 นาทีต่อ 1 ไม้ เลยเอากล้วยไปอบให้มีความสุก 50 เปอร์เซ็นต์ แล้วเสียบไม้ย่างประมาณ 10 นาที ก็สุกพอดีกิน เวลาย่างน้อยลง เวลาขายมากขึ้น ลูกค้ารอไม่นาน จากลองผิดลองถูกมันก็กลายเป็นโอกาส”

ท็อปปิ้ง 15 หน้า
ท็อปปิ้ง 15 หน้า

ไลฟ์ไปขายไป ไม่มีพัก

จากขับรถซาเล้งขายกล้วยปิ้ง คุณโอฬารเห็นคนไลฟ์ขายของ ในมุมมองของเขา วิธีการนี้ดูน่าสนใจและอยากลองทำ แต่ติดที่ว่าไม่เคยไลฟ์มาก่อน ในวันแรกจึงเต็มไปด้วยความประหม่า

“เกิดมาไม่เคยไลฟ์สด ถ้านั่งประชุมกับลูกน้องทำได้ แต่ถ้าพูดออกไมค์ พูดไม่ได้ พูดไม่ออก ไลฟ์สดวันแรก สวัสดีครับ ผมขายกล้วยปิ้งครับ มีคนดูอยู่คนสองคน เกือบ 2 เดือน เราก็ไม่ท้อ จนมีคนเข้ามาคุยกับเรา และได้มารู้ทีหลังว่าเขาเป็นคนพิการ เขาเห็นความตั้งใจของเรา ไม่มีคนดูแต่ก็ยังไลฟ์ ก็ได้กำลังใจจากเขา

จนมีจุดเปลี่ยนคนเข้ามาดู 100 คน เขามาดูกล้วยปิ้งใส่ท็อปปิ้ง มันแปลกดี เริ่มมีไลก์มีแชร์ จากคนติดตามเพจ 200 คน ขึ้นเป็น 500 คน เป็น 1,000 คน ตื่นเต้นมาก เข้ามาดูไลฟ์อย่างต่ำ 3-4 ชั่วโมง สูงสุด 8,500 คน ตกใจมาก จนคนติดตามเพจหลักแสน เป็นยอดออร์แกนิกไม่ได้เสียเงินยิงโฆษณาเลย สิ่งสำคัญต้องอดทน ต้องมีระเบียบวินัยกับตัวเองค่อนข้างสูง ผมเริ่มต้นอายุ 44 จบวิศวะมาขายกล้วยปิ้ง ทุกอย่างเป็นแรงผลักดัน ถ้าไม่ทำก็ไม่มีเงินใช้”

ก่อนเล่าต่อ การไลฟ์ทำให้มีลูกค้าจากหลายที่แวะมาอุดหนุน จึงขอขยับขยายไปขายในตัวเมือง แต่รถซาเล้งคงขับไปไม่ไหว พี่สาวจึงตัดสินใจออกเงินสดหลายแสนซื้อรถฟู้ดทรักป้ายแดงให้น้องชาย เพราะเห็นถึงความตั้งใจที่ทำทุกอย่างแทบไม่มีเวลานอน

“เป็นรถคันแรกที่ราคาต่ำที่สุดในชีวิต แต่เป็นรถที่ช่วยเราทำมาหากิน หาเงินได้เยอะที่สุด ก็วิ่งไปได้ไกลขึ้น วิ่งขายทุกอำเภอในเพชรบุรี ท็อปปิ้งก็เพิ่มขึ้นเป็น 9 หน้า เช่น น้ำราดชาไทย น้ำราดชาร์โคล น้ำราดทุเรียน ฯลฯ ยอดขายจากหลักพันขึ้นเป็นหลักหมื่น ไลฟ์ไปด้วย ขายไปด้วย ตาดู หูฟัง ปากพูด มือทำ ที่บอกว่าคนดูสูงสุด 8,500 คนก็ตอนเป็นรถฟู้ดทรักแล้วนี่แหละ

นั่งขาย 8 ชั่วโมง บ่ายโมงถึง 3 ทุ่ม ไม่หยุดไม่พัก ไม่กินข้าว ไม่เข้าห้องน้ำ อย่างมากก็ดื่มน้ำ เพราะลูกค้าหน้าร้านเยอะมาก เราให้ความสำคัญกับลูกค้าอันดับหนึ่ง ผมเชื่อว่าทุกคนมีพลังอยู่ในตัวเอง ถ้าเราบาลานซ์ร่างกายตัวเองให้ถูกวิธี มันสามารถทำได้จริง ผมทำมาแล้ว 2 ปีเต็ม”

ร้านกล้วยเถอะคับ
ร้านกล้วยเถอะคับ

สัญจรขาย ลูกค้าอุดหนุนแน่น 

ปัจจุบัน กล้วยเถอะคับ มีให้เลือกถึง 15 หน้า โดยน้ำราดแต่ละชนิด คุณโอฬารทำเองทั้งหมด และยังใช้วัตถุดิบหลักเป็นน้ำตาลโตนด อีกทั้งยังให้แบบล้นๆ ไม่มีกั๊ก ทั้งหมดนี้ก็เพื่อความสุขของลูกค้า

“มีตั้ง 15 หน้าจำได้ยังไง เพราะทำเองทุกหน้า มันอยู่ในหัว มันอัตโนมัติ เป็นความชำนาญและความเอาใจใส่ ผมเอาความสะอาดอันดับหนึ่ง รสชาติเป็นอันดับสอง ผมใส่แมสก์ ใส่ปลอกแขนตลอดเวลาในการขาย บางคนถามทำไมต้องใส่ มันช่วยกันเหงื่อ ถ้าหยดใส่อาหารของลูกค้า มันน่าเกลียดไหม และกันแดดกันไอร้อนจากเตาด้วย และใส่แมสก์มิดชิด ใส่แว่นตากันความร้อน ใส่หมวกเป็นวิก เพราะผมร่วง กันร่วงใส่อาหาร ใส่ถุงมือข้างละสี เพราะต้องการดึงดูดคน จนการแต่งตัวกลายเป็นเอกลักษณ์ของผมไปแล้ว”

อย่างไรก็ตาม หลังจากตระเวนขายในทุกอำเภอของเพชรบุรี ด้วยไลฟ์ตลอดการขายก็ทำให้มีการเรียกร้องของลูกค้า คุณโอฬารจึงขับรถสัญจรขายตามพื้นที่ต่างๆ นอกจังหวัดบ้านเกิด โดยสามารถติดตามรายละเอียดการสัญจรได้ที่ เพจกล้วยเถอะคับ กล้วยปิ้งภูเขาไฟ

ร้านกล้วยเถอะคับ
ร้านกล้วยเถอะคับ

“ยอดขายต่อวันตอนนี้ 2 หมื่นอัป ใช้กล้วยประมาณ 5,000 ลูก จริงๆ ทำได้ 30,000 บาทด้วยซ้ำ แต่เพราะผมให้เยอะ เลยไม่ถึง ผมจะมี 4 ช. ในดวงใจ ช. แรก ชอบในสิ่งที่ทำ ช. สอง ทำแล้วมันใช่ไหม ช. สาม ทำแล้วต้องชำนาญ และ ช. สุดท้าย ช่วยเหลือ ผมทำในราคาถูก คนจะได้ซื้อกินได้ กินอิ่มในราคากล่องละ 45 บาท ทำสะอาด คนกินจะได้ดีต่อสุขภาพ และอีก ช. ที่กำลังสร้างคือแฟรนไชส์สร้างอาชีพ ผมอยากให้ยั่งยืนจริงๆ และจะดูแลให้ดี” คุณโอฬาร ทิ้งท้าย

สามารถติดตามได้ที่ เพจกล้วยเถอะคับ กล้วยปิ้งภูเขาไฟ

ร้านกล้วยเถอะคับ
ร้านกล้วยเถอะคับ