ตัวตึงวงการกาแฟ! อาร์ม กู้ดซันเดย์-มั้ง หอมเอย เผยเทคนิคพลิกยอดขาย ผ่านเสียงหัวเราะ

เมื่อวันที่ 6 กันยายน ในงาน Upskill Thailand 2023 ‘จักรวาลสร้างอาชีพ’ จักรวาลที่จะช่วยปูทางให้คุณมุ่งหน้าสู่เส้นทาง มหกรรมสร้างงาน สร้างอาชีพ ที่รวม 4 ปรากฏการณ์สุดยิ่งใหญ่ ครบทุกมิติของการสร้างอาชีพ จัดโดย เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ หนึ่งในสื่อของเครือมติชน สื่อชั้นนำระดับประเทศที่สนับสนุนการสร้างอาชีพให้กับ SMEs ที่ สามย่านมิตรทาวน์ ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์

ภายในงานมีเวทีเสวนาติดปีกความรู้ อัปสกิลทักษะผู้ประกอบการ หัวข้อ SUCCESS CASE | ตัวตึงวงการกาแฟ “พลิกยอดขายผ่านการสร้างเสียงหัวเราะ ด้วยคอนเทนต์” โดย อาร์ม-กานต์ชนิต สุรินทร์สภานนท์ เจ้าของร้านกาแฟ Goodsunday coffee bar และ มั้ง-พงษ์พันธ์ วิจารย์ประสิทธิ์ ร้านหอมเอย สาขาคุณพระ โดยทั้ง 2 คนมีชื่อเสียงโด่งดังมากทาง TikTok

อาร์ม-กานต์ชนิต สุรินทร์สภานนท์ เจ้าของร้านกาแฟ Goodsunday coffee bar กล่าวแนะนำตัวว่า ไม่ได้ขายแค่กาแฟ ขายเสียงหัวเราะด้วย ทั้งนี้ เธอมีอาชีพเป็นแอร์โฮสเตส โดยร้านกาแฟเกิดจากโควิด-19 ซึ่งกระทบกับงานประจำที่ทำ สายการบินหยุดชะงัก เลยได้ทำธุรกิจที่ชอบ ซึ่งก่อนหน้านี้ เธอกับพี่ชายเปิดร้านอาหาร เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว

“เราดูส่วนของกาแฟ ซึ่งเรามีความรู้อยู่แล้ว เมื่อมีโควิด-19 ก็พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ร้าน Goodsunday เฉิดฉายขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้เฉิดฉายตั้งแต่แรก เพราะวันแรกขายได้ 8-9 ถ้วย ซึ่งเป็นเพื่อนตัวเองแล้ว 6 คน เลือกเปิดร้านกาแฟ เพราะชอบโดยส่วนตัว ชอบกลิ่นกาแฟ ชอบบรรยากาศในร้านคาเฟ่ ร้านกาแฟของเรา เมนูก็เหมือนกาแฟคนอื่น ความแตกต่างก็ไม่ต่างอะไร แต่เราต่างที่ตัวเรา แต่ก่อนตั้งร้านขึ้นมา เราก็ต้องมีความรู้ก่อน มีการไปเรียนไปศึกษา เพื่อจะปรับสูตร ให้เข้ากับลูกค้าโซนที่ร้านตั้งอยู่ โดยโซนนั้น เป็นโซนโรงงาน พนักงานออฟฟิศ ต้องการกาแฟที่ให้ความกระปรี้กระเปร่า”

สำหรับจุดเปลี่ยนที่ทำให้เป็นที่รู้จัก อาร์ม เผยว่า ธุรกิจนี้มีเยอะมาก เอาตัวเราไปแข่งกับแบรนด์ใหญ่ๆ ยาก ไม่ไหว สิ่งที่เราทำได้คือ เราสามารถสร้างตัวตนของเรา สร้างแบรนด์ดิ้งได้ จึงเป็นที่มาของการสร้างคอนเทนต์ในสื่อโซเชียลมีเดีย

“คอนเทนต์ดีคืออะไร หลายคนเวลาทำร้านค้าต่างๆ เชื่อว่า ทุกคนมีเฟซบุ๊กเป็นช่องทางให้ลูกค้ารู้จักเรา แต่ TikTok เป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่น่าสนใจ ตั้งแต่เราเข้าสู่ช่อง TikTok เราไม่รู้ว่า เราจะทำคอนเทนต์แนวไหน ให้ทำไปเรื่อยๆ การทำคลิปลง TikTok 1.เราต้องมีวินัย 2.ลงบ่อยได้ก็ดี เพราะเราไม่รู้ว่า คอนเทนต์ไหนที่คนชอบและทำออกมาได้ดี 3.อย่าท้อ จนถึงวันหนึ่งที่ทำให้ทุกคนรู้จัก Goodsunday คือ คลิปที่สอนการดื่มลาเต้ให้ถูกต้อง ทั้งนี้ เราทำคอนเทนต์เราไม่ได้เริ่มจากคลิป TikTok เราเคยทำคลิปสวยแล้ว แต่ไม่มีคนดู แต่เราก็มีคอนเทนต์ให้ความรู้ด้วย เช่น สูตรกาแฟ สูตรเครื่องดื่ม สำหรับคนอยากเปิดร้านกาแฟ แต่ส่วนที่เป็นคลิปตลก เป็นไวรัลมากกว่า”

สำหรับคลิปแรกที่เป็นไวรัล อาร์ม เผยว่า ตอนแรกทำคลิปต่างๆ มาเยอะมาก แต่พอทำคลิปลาเต้ออกไป เมื่อก.พ.2566 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นคลิปที่มาจากคนใกล้ตัว วันแรกมีคนชมคลิป 3 หมื่น ซึ่งเราก็ดีใจแล้ว พอผ่านไปตอนกลางคืนขึ้นมาหลักล้าน มันไวมากจริงๆ ดีใจมากๆ คนชอบคลิปเรา สร้างความสุขสร้างรอยยิ้มให้ทุกคน Goodsunday มาถึงวันนี้ได้ ก็ต้องขอบคุณทุกคน

“พอคนดูคลิปเราเยอะ ตอนนี้ยอดขายเติบโตขึ้น 100 เปอร์เซ็นต์ คนติดตามเราอยากมาเจอ มาอุดหนุนเรา ร้านเราอยู่นนทบุรีมีลูกค้ามาจากปากช่อง จากภูเก็ต เขาอยากมาโยกลาเต้กับเรา ปลาบปลื้มมากๆ เมนูที่ลูกค้าสั่งส่วนมากเป็นลาเต้ และเรามีวิธีการกินที่ทำให้กาแฟไม่หกออกมาด้วย ฉายาจากแฟนคลับ ก็จะเรียกว่า พี่ลาเต้ หรือนักแสดงท่านหนึ่งที่ชงกาแฟได้นิดหน่อย”

สำหรับการกลยุทธ์การปั้นคอนเทนต์นั้น อาร์ม-กานต์ชนิต แนะนำว่า ไอเดียการทำคลิปสักคลิป ไม่มีสูตรตายตัว ทฤษฎีการตลาดไม่ได้หยิบมาใช้ตลอด เทคนิคของอาร์มที่ทำคลิป เอามาจากสิ่งรอบตัว หรือเอามาจากเรื่องราวของเพื่อน เวลาที่คิดจะทำอะไร เราคิดและวางแผนว่าต้องทำยังไง จะสื่อสารแบบไหนออกมาว่าเป็นคลิปเล่าเรื่องราวอะไร สื่อสารแนวทางไหน ของอาร์มจะเล่าเรื่องราวเป็นละครสั้น มีตัวละคร มีเพื่อนมาเป็นลูกค้าสร้างสีสันให้สนุกสนาน

“เมื่อมีไอเดียแล้วควรทำเลย ไม่ควรปล่อย เพราะจะทำให้ลืม โดยต้องกลั่นกรองก่อนทำ สื่อสารยังไงให้ออกมาในรูปแบบไหน จะเล่นคนเดียวหรือให้เพื่อนมาเล่นบทบาทสมมุติด้วยกัน อาร์มใช้มือถือธรรมดา คุณภาพกล้องที่มาจากมือถือเข้าถึงคนดูได้มากกว่ากล้องตัวใหญ่ มีมือถือเครื่องเดียวทำได้เลย แต่สิ่งที่ต้องนึกถึงเวลาทำคลิป คือ ช่องทางที่เราลงเป็นช่องทางโซเชียลมีเดีย เรื่องกฎหมาย PDPA การถ่ายภาพติดคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต กฎระเบียบของ TikTok เอง จะมีคำที่ห้ามใช้ เช่น บอกสรรพคุณเว่อร์วังเกินไป ศาสนา การเมือง ต้องระวัง”

สูตรในการทำคอนเทน์ของแอร์สาวคนนี้ เผยว่า นอกจากมีคอนเทนต์เรียลแล้ว ด้วยความที่เราชอบแสดง บทบาทสมมุติ จะมีการแสดงเป็นคนขายกาแฟ ลูกค้า เล่นเป็นบทบาทนู้นนี้ สุดท้ายกำลังจะจบสวย จบดีอยู่แล้ว แต่สุดท้ายมาช็อตฟีลตอนท้าย

“เวลาเราทำคลิปอะไรขึ้นมา เราคาดหวังว่าทุกคลิปเป็นไวรัล มีคนดูเป็นล้าน เป็นไปไม่ได้ สิ่งที่อยากฝาก การทำคลิปทำอย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์คือมหาศาล อย่าท้อ ให้เราเรียนรู้จากสิ่งที่เราทำแล้ว ควรปรับตรงไหน ควรเพิ่มตรงไหนดี อย่าท้อ อย่ายอมแพ้ ให้ทำให้ต่อเนื่อง และทำต่อไป อย่างอาร์มเมื่อก่อนอัพเยอะมาก 2-3 คลิปต่อวันก็เคยมี แต่ทุกวันนี้ เหลืออย่างน้อยวันละ 1 คลิป มี 2 ช่วงเวลาในการลงคลิป ช่วง 19.00-20.00 น. เสาร์-อาทิตย์ ลง 10.00 น. แต่ทุกคนก็ต้องไปหาช่วงเวลาที่เหมาะสมของตัวเองอีกที

อาร์ม-กานต์ชนิต กล่าวทิ้งท้ายว่า หลายๆ คนได้ฟังได้ไอเดียไปแล้ว อยู่ที่ว่า เราจะเริ่มต้นเมื่อไหร่ ไม่ใช่สายตลกก็ไม่เป็นไร อยู่ที่สิ่งที่เราเป็น เรามี เราถนัดอะไร เราเก่งเรื่องอะไร ซึ่งทุกธุรกิจต้องมีคู่แข่ง แต่เราอย่ามองคู่แข่งแล้วมาลดทอนสกิลและศักยภาพของตัวเอง การหาลูกค้าทางช่องทางโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางใหม่ที่ไม่ต้องเสียเงินในการโฆษณาร้านค้าเลย เป็นช่องทางที่ฟรี ไม่เสียเงิน และการรักษาลูกค้าเก่าของเรา เป็นอีกหนึ่งอย่างที่เป็นเรื่องสำคัญ ลูกค้ามีประสบการณ์กับร้านเรา ไม่ใช่ว่า จากที่เค้าเดินเข้ามาที่ร้านเรา แต่เค้ามีประสบการณ์จากที่ได้เห็นเราในออนไลน์ ดังนั้น เราต้องใช้ทุกช่วงเวลากับลูกค้าให้เค้ารู้สึกว่า สิ่งที่เค้าได้รับจากเราวันนี้ ดีที่สุด

“จะบอกน้องๆ ในร้านเสมอว่า ความคาดหวังของลูกค้าหนึ่งคนที่เดินมาในร้านกาแฟ นอกจากได้กาแฟกลับไปแล้ว ถ้าเรามีความใส่ใจ ให้ความสำคัญ มีการพูดคุยทักทาย สร้างรอยยิ้มสร้างประสบการณ์ที่ดี ให้บริการที่เหนือความคาดหมายที่ลูกค้าต้องการ เค้าก็จะกลับไปด้วยรอยยิ้ม จากเป็นลูกค้าเค้าจะกลับมาเป็นเหมือนเพื่อนเราคนหนึ่ง นี่คือ เทคนิคที่อาร์มใช้” อาร์ม-กานต์ชนิตกล่าว

อีกหนึ่งแขกรับเชิญ มั้ง-พงษ์พันธ์ วิจารย์ประสิทธิ์ ร้านหอมเอย สาขาคุณพระ กล่าวว่า โอกาสแต่ละคนไม่เท่ากัน โอกาสเกิดจาก “2 วิ” 1.วิสัยทัสน์ 2.วิกฤต ก่อนมาเปิดร้านกาแฟ ผมเป็นลุกจ้างร้านกาแฟและเป็นนักดนตรีมาเวลา 15 ปีเต็ม จากนั้นผมลาออกจากร้านกาแฟบนห้างมาเปิดร้านกาแฟเล็กๆ วันแรกขายได้ 300 บาท ที่เลือกเปิดร้านกาแฟเพราะชอบกลิ่นกาแฟ เป็นพนักงานประจำร้านกาแฟอยู่แล้ว เมื่อครอบครัวถามว่า ทำไมไม่เปิดร้านกาแฟของตัวเอง ก็สะดุดใจ เพราะคนเรากินกาแฟทุกวัน ทั้งที่โควิดทุกอย่างเงียบ แต่กาแฟสั่งไลน์แมนทุกวัน

“จุดเปลี่ยนที่ทำให้เป็นที่รู้จัก ผมเป็นครีเอเตอร์มาสักพัก แต่หยุดไปช่วงโควิด-19 วันหนึ่งมีน้องมาชวน รีช่องใน TikTok ผมก็ตัดคลิปลงไป แค่คลิปเดียวก็บูมเลย ที่บูมเพราะเป็นวิถีการพูดคุยกับลูกค้า คือ ผมพูดไวปากไว ในสายตาทุกคนอาจคิดว่าผมฟลุ๊ค แต่จริงๆ แล้วผมทำครีเอเตอร์ปีนี้ปีที่ 9 แล้ว การที่คลิปเราจะเป็นไวรัลได้ บางครั้งอยู่ที่คอนเทนต์ที่ดี แต่มันไม่จริงเสมอไป คุณจะปังไม่ปัง อยู่ที่ความพยายามที่ดี ข้อนี้สำคัญ ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน อยู่ที่ความพยายามด้วย และบวกกับความคิดวิเคราะห์ คลิปของผมเป็นคลิปที่สร้างเสียงหัวเราะ คลิปตลก คนเห็นง่าย เป็นสิ่งที่เรียล บางครั้งดูครั้งแรกไม่ขำ แต่พอดูอีกครั้ง ขำมาก”

“คลิปแรกที่ทำให้คนรู้จักเป็นไวรัล เป็นคอนเทนต์แซวสาว แซะๆ ผมลงไป 3 ชั่วโมง คนดู 3 .6 ล้านวิว และได้ 15 ล้านวิวภายใน 2 วัน จากมีผู้ติดตาม 7 หมื่น กลายเป็น 3 แสน ตอนนั้น รู้สึก งง ว่าเกิดอะไรขึ้น ขอบคุณทุกๆ คน ผมมาถึงตรงนี้ได้ เพราะมีคนติดตาม ซึ่งจากตรงนี้ ทุกวันนี้ ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ลูกค้ามาจากหลายจังหวัด กำไรเพิ่มขึ้น เมนูฮิตคือ อเมริกาโน่มะพร้าว กับส้ม และมัทฉะ”

สำหรับการทำคอนเทนต์ให้เป็นไวรัล มั้ง-พงษ์พันธ์ แนะนำว่า ต้องมีการกลั่นกรองกระบวนการทางความคิด วางแผนจะสื่อสารอย่างไร แต่จะมีบางมุมที่เราต้องคิดว่า จะไม่พาดพิงถึงใคร อะไรก็แล้วแต่ที่อยู่ในคลิป จะต้องไม่ทำให้ใครสักคนกระวนกระวาย หรือเกิดดราม่า จากนั้นให้หาในช่วงวีคนั้นว่ากระแสคืออะไร เราก็ต้องมี นอกจากนี้ ให้ลองหาเรื่องรอบตัว ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ อาจทำให้เกิดเป็นไวรัลได้ อย่างไรก็ตาม การเกาะกระแส หรือแฮชแท็กดังๆ ผมมองว่า เป็นเทคนิค แต่ผมอยากให้ยึดอะไรที่เป็นตัวเรามากกว่า เพราะรองเท้าเราก็รองเท้าเรา ใครใส่ก็ไม่ใช่เท้าเรา ซึ่งคลิปที่ทุกคนเห็นในช่องคุณพระ ตัดจากมือถือแอนดรอยด์ทุกคลิป เพราะฉะนั้น การต้องมีโปรดักชันใหญ่ คือข้ออ้างของคนขี้แพ้ จำไว้”

“แนวทางการสร้างคอนเทนต์ของผม หยิบอะไรที่มันง่ายๆ คอนเซ็ปต์อยู่ในร้านกาแฟ เกาะกระแสได้นิดๆ หน่อยๆ แต่อย่าเยอะ เพราะคนที่ติดตามเรา เค้ามองที่คาแรคเตอร์ เพราะผมเป็นพ่อค้ากาแฟ ให้ผมไปทำเหมือนดาราท่านหนึ่งคนก็ไม่อิน และความเรียลจะทำให้ดึงดูดหลายๆ อย่าง เอาชนะขาดอยู่แล้ว โดยผมจะลงวันละคลิป ไม่มีเวลาในการลงตายตัว คือตัดเสร็จตอนไหนก็ลงตอนนั้น ที่ตัดต่อเพื่อให้คลิปกระชับ และความโบ๊ะบ๊ะเกิดในคลิป ไม่ได้แต่งเยอะแค่ใส่เอฟเฟคให้มีสีสัน”

“อีกเรื่องหนึ่งคือ สำคัญมาก ทุกคลิปผมตอบคอมเมนต์เอง 70 เปอร์เซ็นต์ เหตุเพราะเค้าตั้งใจมาเมนต์ เค้ามองเห็นเรา เรามองเห็นเค้าบ้าง มันทำให้ผมยิ้มได้ ไม่ใช่เงินหลักล้านที่ทำให้เรายิ้มได้ ผมก็เลยเห็นความสำคัญของการตอบคอมเมนต์ ในแฟนเพจของผม ผมตอบทุกโพสต์ มันสำคัญกับผมจริงๆ ซึ่งแฟนคลับให้ฉายาว่า เฮีย เพราะน้องๆ ในช่องเรียกอยู่แล้ว ส่วนตัวเป็นลูกคนจีนก็คุ้นชินกับคำนี้”

มั้ง-พงษ์พันธ์ ฝากผู้ประกอบการในการทำคอนเทนต์ว่า ผมเป็นเจ้าของธุรกิจที่เล็กมาก ไม่ได้ใหญ่โต ผมเล็กที่สุด แต่ผมใจถึงที่สุด ผมไม่กลัวเจ๊ง ฟังคนอื่นได้แค่ฟัง แต่ถ้าคุณลองทำ มันคือตำราเรียนที่ดีที่สุด เตี่ยผมเป็นเถ้าแก่โรงงานลูกชิ้น สอนว่า ถ้าได้ค้าขายเป็นพ่อค้า 1 บาทคือกำไร 5 บาทคือกำไร กำไรคือกำไร ถ้าไม่หวังกำไร วันหนึ่งก็จะรวย เราอย่าเพิ่งคาดหวัง แค่ตั้งใจทำให้ธุรกิจไปเรื่อยๆ ก็พอ ไม่ให้มันขาดทุนมากมาย ไม่ให้กำไรน้อยเกินไป ให้มันไปต่อ เดินไปเหอะ เดินไปเรื่อยๆ แล้วคุณจะเจอว่าอันนี้ไม่เวิร์ก อันนี้เวิร์ก เพราะคุณฟังคนอื่นเหรอ ไม่ใช่ เพราะคุณลงมือทำ และผมเจ๊งมาไม่รู้กี่รอบ ชินไปแล้ว เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว แต่ผมไม่กลัว สิ่งเดียวที่กลัวคือ กลัวว่าวันหนึ่งจะไม่เห็นแสงแดดและเมฑอีกครั้ง

“ถ้าคิดแล้วทำเลย เพราะมัวจะกลัวไม่ได้ เพราะความกลัวคือกำแพงที่หนาที่สุดให้โลก เอากำแพงนั้นออก แล้วคุณจะพบเจออะไรมากมาย ที่คุณไม่เคยได้เจอ มันคือเรื่องจริง” มั้ง-พงษ์พันธ์ กล่าว