ซื้อวัตถุดิบครั้งเดียว ขายได้ 2 เมนู จากแซนด์วิชต่อยอดทำสลัด แถมเทคนิคจัดเมนูให้โคตรน่ากิน เห็นแล้วต้องซื้อ!

จากขายแซนด์วิชเกาหลีไส้แน่นเป็นอาชีพเสริม ปัจจุบัน คุณเหมียว-วิชุดา หล้าคำแก้ว เจ้าของร้าน 232 Factory ตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาขายแซนด์วิชเต็มตัว และยังต่อยอดขายสลัดโบวล์ สลัดโรลเป็นเมนูทางเลือกให้กับลูกค้า

นอกจากได้ทานแซนด์วิชในมื้อเช้าแล้ว ยังสามารถทานสลัดในมื้อกลางวันได้ด้วย อีกทั้งยังเป็นการบริหารจัดการวัตถุดิบอย่างคุ้มค่า ด้วยการนำวัตถุดิบของแซนด์วิชมาทำสลัด นั่นคือที่มาของแนวคิด 

“เราอยากบริหารจัดการวัตถุดิบที่ซื้อมาทำแซนด์วิช อย่างพวก ผัก แฮม ไส้กรอก อกไก่ ฯลฯ อีกอย่างลูกค้าก็ถามหามาเยอะ ช่วงเช้ากินแซนด์วิช และอยากสั่งมื้อบ่ายมื้อเย็นไปด้วย แบบสั่งทีเดียวให้คุ้มค่าส่ง ก็มาถามเราไม่ทำสลัดขายด้วยเหรอ เราคิดว่ามันก็ดีนะจะได้บริหารวัตถุดิบในร้านด้วย” 

คุณเหมียวเริ่มทำสลัดขายหลังจากทำแซนด์วิชเกาหลีได้สักพัก ซึ่งการทำสลัดมีขั้นตอนไม่ยาก เผลอๆ ง่ายกว่าการทำแซนด์วิชด้วยซ้ำ 

“ผัก ปูอัด ไข่กุ้ง ทูน่า อกไก่ พวกนี้เรามีอยู่แล้ว แค่ซื้อวัตถุดิบเพิ่มบางส่วน และทำน้ำสลัดให้หลากหลาย ไม่ต้องทำบ่อย อาจจะทำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง 2 อาทิตย์ครั้ง หรือเดือนละครั้งก็ได้ เพราะน้ำสลัดจะอยู่ได้ 1 เดือน

ตอนนี้มีน้ำสลัด 10 กว่าอย่างแล้วคือ น้ำสลัดครีม น้ำสลัดงาใสญี่ปุ่น น้ำสลัดครีมงาคั่วญี่ปุ่น น้ำสลัดครีมไข่กุ้ง น้ำสลัดครีมวาซาบิ น้ำสลัดครีมซีฟู้ด น้ำสลัดครีมโยเกิร์ต น้ำสลัดครีมบีทรูท น้ำสลัดครีมเทาซันไอส์แลนด์ น้ำสลัดครีมงาดำ และน้ำจิ้มซีฟู้ดลุยสวน

ทั้งหมดนี้ เราทำเองทุกสูตรนะ ไปเรียนมาจากยูทูบ กว่าจะทำได้ทิ้งไปหลายหม้ออยู่เหมือนกัน พอมาทำขายก็ไม่ได้ทำทีเดียวทุกสูตร เราแบ่งทำเป็นรอบ รอบละ 3 สูตร แล้วหมุนเวียนทำสูตรอื่นๆ เพื่อเป็นตัวเลือกให้ลูกค้าด้วย”

ก่อนเล่าต่อว่า

“ผักสลัดก็มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น กรีนโอ๊ก เรดโอ๊ก คอส 3 ชนิดนี้ถือเป็นตัวหลัก และอยากแนะนำให้มีแคร์รอต บีทรูท มันสามารถทานสดได้และทำน้ำสลัดได้ด้วย ส่วนหน้าก็มีเป็นสิบอย่างคือ อกไก่สไปซี่เส้นโซบะ อกไก่ย่างไข่ต้ม เต้าหู้คินูเส้นโซบะ ผลไม้รวม แซลมอนเส้นโซบะ ทูน่าปูอัด อะโวกาโดไข่ต้ม เบคอนไข่ต้ม กุ้งอกไก่สไปซี่ แฮมปูอัดไข่กุ้ง และสตรอเบอร์รีไข่ต้ม

นำมาจัดเซตให้ดูน่ากิน พยายามวางผักให้สลับสีกัน สัก 4-5 สี กำลังสวย จัดไปบ่อยๆ จะรู้เองว่าอะไรวางคู่กับอะไรแล้วสวย สีแดงจากเรดโอ๊ก ใบหยิกของฟิลเลย์ สีส้มของแคร์รอต สีแดงม่วงของบีทรูทหรือกะหล่ำม่วง แล้วแต่ว่าช่วงนั้นมีผักอะไร เราจะใส่ 5-6 อย่าง และที่สำคัญ วัตถุดิบต้องสดใหม่ด้วย สามารถจัดเซตใส่ถ้วยไว้ได้เลย แช่เย็นไว้สัก 4-5 ถ้วย พอลูกค้ามาสั่งเราแค่เติมท็อปปิ้ง ไม่ได้มีอะไรยากขึ้นเลย

ส่วนสลัดโรลก็สามารถทำแช่เย็นไว้ได้เหมือนกันแต่ไม่ทำข้ามคืน อาจจะทำไว้ในตอนเช้าสักกล่อง สองกล่อง ตอนนี้ที่ทำขายมี แฮม ปูอัด ไข่ ข้าวโพด ไส้กรอก“

ที่กล่าวมาข้างต้นคือการทำสลัดขายในสไตล์คุณเหมียว ถึงกระนั้นการทำสลัดให้อร่อยก็มีเพียง 2 หลักสำคัญ ที่เธอแนะนำมาคือ 1. น้ำสลัด 2. ความสดกรอบของผัก เมื่อนำทุกอย่างคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน จะทำให้ทานแล้วสดชื่นอร่อยมากยิ่งขึ้น

และอีกเทคนิคที่เธอแถมให้ คือการเลือกผักที่อุ้มน้ำเยอะๆ จะเป็นคอสก็ได้หรือกะหล่ำแก้วก็ดี เวลาทานแล้วจะกลมกล่อมด้วยน้ำของผักและครีมสลัด 

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีโปรดักต์แล้วต้องตั้งราคาขาย ด้วยสลัดมีต้นทุนไม่สูง อาจบวกกำไรประมาณ 30-50% โดยให้ดูที่พื้นที่การขายเป็นองค์ประกอบ ในส่วนของร้าน 232 Factory บวกกำไรที่ 50% เผื่อไว้สำหรับราคาวัตถุดิบที่ขึ้นๆ ลงๆ ราคาสลัดโบวล์จึงเริ่มต้นที่ 89 บาท สลัดโรล เริ่มต้นที่ 50 บาท ได้ 6 ชิ้น และ 60 บาท ได้ 8 ชิ้น

ก่อนปิดท้ายด้วยการหาลูกค้า เธอแนะนำให้เริ่มจากกลุ่มเพื่อนในที่ทำงาน กลุ่มของกินหมู่บ้าน กลุ่มจัดเบรก ซึ่งจะได้ทั้งไอเดียและฝากร้าน

“เราต้องไปโชว์ตัว ไปโพสต์บ่อยๆ ให้เขาเห็นว่าเราเคลื่อนไหว เราขายจริง มันจะดูน่าเชื่อถือ และรูปต้องน่ากิน ต้องให้เวลากับการถ่ายรูปหน่อยเพราะมันสำคัญมาก ถ่ายเก็บไว้ก่อน ใช้ไม่ใช้ค่อยว่ากัน เรามองว่าสลัดและแซนด์วิชยังเป็นเมนูที่ทำขายได้ดี มันเป็นเมนูที่ต้นทุนไม่สูง และยังต่อยอดได้หลากหลาย”

และนี่คือเรื่องราวการต่อยอดอาชีพของ คุณเหมียว-วิชุดา หล้าคำแก้ว เจ้าของร้าน 232 Factory หากสนใจอยากทำอาชีพเสริม อยากขายสลัด มาล้วงลึกเคล็ดลับความอร่อยและเทคนิคการขายกับคุณเหมียว ได้ที่ มหกรรมสร้างงาน สร้างอาชีพ สุดยิ่งใหญ่แห่งปี! UPSkill Thailand “จักรวาลสร้างอาชีพ” 

แล้วพบกัน

ตั้งแต่วันที่ 6-9 กันยายน 2566

เวลา 10.00-20.00 น.

สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์