นักข่าวไทยใน LA เริ่มจากงานอดิเรก สู่ ร้านเด็ด อเมริกา พื้นที่สร้างไวรัลอาหารไทย ยอดคนดูหลักล้าน

ร้านเด็ด อเมริกา
ร้านเด็ด อเมริกา

นักข่าวไทยใน LA เริ่มจากงานอดิเรก สู่ ร้านเด็ด อเมริกา พื้นที่สร้างไวรัลอาหารไทย ยอดคนดูหลักล้าน

“…‘ถ้าคุณขี้เกียจอย่ามาอเมริกาเลยอยู่เมืองไทยไปเถอะ ป้าจะขอตายที่อเมริกา’…”

อาท-สุภกิจ ภัทรธีรานนท์ เจ้าของเพจ ร้านเด็ด อเมริกา นักข่าวหนุ่มผู้ซึ่งปักหลักชีวิตในต่างแดนตั้งแต่อายุ 19 กับมีความหลงใหลในเรื่องอาหารมาตั้งแต่เด็ก ก่อนจะผันตัวสร้างงานอดิเรกมาเป็นนักเล่าเรื่องร้านอาหารในอเมริกาตอนที่โควิดเล่นงาน

อาท เล่าให้ฟังว่า คนไทยในอเมริกามองว่าชีวิตที่เลือกนั้นเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่ไปในมุมมองที่มีความสุข ความสะดวกสบาย สวัสดิการต่างๆ ให้กับคนในประเทศทุกคนไม่ว่าจะเชื้อชาติไหนอย่างเท่าเทียม บวกกับตัวคอนเทนต์ที่ทำก็ต้องการนำเสนอวิถีชีวิต และเหล่าธุรกิจตัวเล็กๆ ใน LA

เด็กน้อยวงการสื่อ

“ผมเป็นคนอ้วนมาก่อน”

เขาเปิดประโยคนี้จนทำให้เราสงสัยว่าเพราะอะไรถึงพูดแบบนั้น ซึ่งคนที่สนทนาตรงหน้าคือชายผิวขาว ตาเล็ก สมาร์ท ไม่ได้อ้วนหรือผอมจนเกินไป ก่อนที่เขาจะเล่าต่อ

“ตอนเด็กๆ ที่บ้านจะชอบทำอาหารกันมาก โดยเฉพาะแม่ ผมก็ได้รู้วิธีการทำอาหารมาจากแม่ทุกอย่าง ซึ่งลูกทุกคนก็ทำอาหารเป็นหมด ส่วนผมนอกจากชอบทำก็ชอบกินด้วยเหมือนกัน”

นับตั้งแต่อายุ 19 ใน Thai Town LA เขาอยู่กับสังคมคนไทยมาตั้งแต่ตอนนั้น เห็นทุกชั่วขณะเวลาของที่นั่นทั้งการเติบโตของร้านอาหารไทย เปิดใหม่ ปิดตัว นับว่าคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้มาตลอด พอโตขึ้นก็มีโอกาสได้ทำงานที่ชอบคือการเป็นสื่อ  

“ตอนเด็กๆ ผมอยากเป็นนักข่าวกีฬา แต่พอโตขึ้นก็ได้ทำงานข่าวเหมือนกันแต่ไม่ใช่กีฬา (หัวเราะ) ซึ่งก่อนหน้านี้ทำอยู่ที่ SiamTownUS แต่ปัจจุบันเป็นนักข่าวให้กับสื่อชื่อ VOA Thai”

“ต้องเล่าก่อนว่า สื่อก่อนหน้านี้จะเป็นการเช่าเทปวิดีโอ ส่วนใหญ่เป็นรายการจากไทย ละครจากไทย เช่าตอนหนึ่งก็อยู่ที่ 15 เหรียญ จากนั้นก็ปรับมาเป็นรูปแบบของช่องจากจานดาวเทียม ซึ่งตอนนั้นก็มีรายการเจาะอาชีพ รายการอาหารบ้าง แต่ไม่เหมือนที่ไทยแบบเจาะลึกขนาดนั้น แต่พอยุคสมัยเปลี่ยนการนำเสนอสื่อเปลี่ยน อินเทอร์เน็ตเข้ามาก็ทำให้เราค้นหาข้อมูลได้มากขึ้น รู้สตอรี่มากขึ้น”

ร้านเด็ด อเมริกา

จากประสบการณ์ทำงานสายสื่อนำมาต่อยอดให้เข้ากับสิ่งที่ตัวเองรัก ดูเป็นเรื่องที่เข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ ต่อเมื่อเกิดขึ้นจริงแล้วก็ไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้เลย

อาท เล่าว่า ส่วนตัวเข้าเองนั้นอยากเปิดเพจของตัวเองจริงๆ สักเพจ ประจวบเหมาะกับช่วงโควิดที่ทางอเมริกาประกาศไม่ให้คนออกจากบ้าน เขาจึงตัดสินใจเริ่มทำมันตั้งแต่ตอนนั้น

“ส่วนตัวเราอยากจะมีเพจสักเพจหนึ่งเป็นของตัวเองที่อยากจะนำเสนอเจ้าของร้านอาหาร เพราะเราเห็นว่าคนไทยเก่งซึ่งไม่ได้มีแค่ร้านอาหารแต่ยังมีอาชีพอื่นๆ ด้วยเหมือนกัน ซึ่งการที่เราเคยมีประสบการณ์ทำเพจที่จับฉ่ายมาก่อนทำให้เรารู้เลยว่ายังไงคนก็ดูน้อย เลยตัดสินใจมาเปิดเพจอาหาร”

“ตอนนั้นช่วงโควิด ทางนี้ก็ประกาศไม่ให้ออกจากบ้าน ตอนนั้นมันไม่ได้แล้ว รู้สึกว่าต้องทำแล้ว พอดีผมรู้จักน้องคนหนึ่งก็ออกไปสัมภาษณ์น้อง ซึ่งเราก็ยังไม่รู้แนวด้วยนะว่าเราจะทำยังไง แต่เราพอมีไอเดียจากการที่เราดูคลิปเยอะๆ”

“เรื่องตลกอย่างหนึ่งคือผมไปบอกน้องเขาว่า ‘เนี่ยพี่จะสัมภาษณ์น้องทำคลิป’ น้องบอกโอเค น้องเขาหันสวนกลับมา ‘เฮ้ยพี่…พี่มีเพจละยัง’ ผมก็ตอบกลับไปว่ายังไม่มีเลย โลโก้ก็ยังไม่มี ซึ่งตอนนั้นตัวเรายังไม่พร้อมเลย แต่จะทำอะจะทำก็ต้องทำ ก็ใช้เวลาอยู่นานพอควรเลยตัดคลิปก็ 5 วัน พอลงปุ๊บกระแสตอบรับดีร้านน้องเขาก็มีคนเข้าเยอะขึ้น”

สิ่งสำคัญของคนที่ทำคอนเทนต์คือการได้เห็นคนที่เราพูดคุยด้วยนั้นมีชีวิตเดินไปข้างหน้า เช่นเดียวกับอาทที่ยึดมั่นต่อการนำเสนอเรื่องราวของผู้คนทุกคนให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่าที่จะเป็นได้

“การเล่าเรื่องของผมมันเป็นลักษณะของการเอาเรื่องราวไม่ใช่แค่ว่าเขาขายอะไร กับสิ่งที่เขาทำอยู่ว่าผ่านอะไรมาบ้าง ไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จ อย่างคนขายหมูปิ้งเขาสู้เขายอมขายในราคาแค่ 1 เหรียญทุกคนเชียร์หมด แต่เขาก็ไม่ยอมขึ้น ซึ่งเขาบอกว่า ป้ามีความสุขตรงนี้ ป้าไม่ได้มีบ้าน แต่มันคือความฝันที่ได้อยู่ในอเมริกา”

ผ่านมา 3 ปีเข้าสู่ปีที่ 4 แม้จะเริ่มต้นจากงานอดิเรกแต่สิ่งที่เขาสร้างนั้นมีคุณค่าต่อธุรกิจเล็กๆ ในต่างแดนมหาศาล เพิ่มยอดขาย สร้างชุมชน แลกเปลี่ยนการทำธุรกิจซึ่งกันและกัน ทั้งยังต้องการแบ่งปันกำลังใจสู่ผู้คนอื่นๆ ในการสร้างอาชีพ

อาหารไทยเกินกว่าคำว่าซอฟต์

อาท เล่าว่า ที่ผ่านมาเขาทำคนเดียวทุกอย่าง ทำให้คลิปทุกตัวมีระยะเวลาในการเผยแพร่ไม่สม่ำเสมอ จึงเป็นที่มาว่างานทุกชิ้นผ่านความละเอียดมามากพอสมควร แต่ถึงกระนั้นแนวคิดที่แน่วแน่ต่อเรื่องการช่วยผู้คน ซึ่งพอถึงระยะหนึ่งก็ตกตะกอนได้กับตัวเอง

“พอเราทำเพจไปได้สักระยะ เรารู้สึกว่าเราเป็นตัวช่วยที่ทำให้ธุรกิจเล็กๆ โตได้ในระยะหนึ่ง เราจะดีใจมากเลยที่เขาโทรมาบอกว่า เฮ้ยพี่อาทมันเวิร์กว่ะ ล่าสุดมีน้องร้านเครปในอเมริกาทักมา หลังจากคลิปที่เราทำออกไปได้ 3 วัน คนตามมากินที่ร้านเขาเพียบเลย จากที่ยอดขายค่อยเป็นค่อยไป ตอนนี้ยอดขายเขาพุ่งขึ้นจากเดิมเยอะ”

“หรือจะเป็นร้านส้มตำที่ขายที่วัด พอลงคลิปไปไม่กี่วัน คนต่อแถวยาวไปอีกฝั่งหนึ่ง กับร้านก๋วยเตี๋ยวเรือที่แม่ค้าบอกว่า ไม่เพียงแค่ยอดขายที่เพิ่ม แต่กลับสร้างความมั่นใจในการสู้ชีวิตของเขาในต่างแดนต่อไป”

แม้ว่าเรื่องราวต่างๆ ที่ถูกเล่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนดูแล้ว แต่ทุกครั้งหลังสัมภาษณ์เขาก็จะถามความเห็นพ่อค้าแม่ค้าในเมืองนั้นก่อนจาก

“ส่วนใหญ่ก่อนทิ้งท้ายผมจะถามความเห็นว่าอเมริกาให้อะไรกับเราบ้าง บางคนก็บอกว่าอเมริกาให้โอกาส ให้ชีวิตใหม่ บางคนบอกให้เราได้เรียนรู้ ซึ่งมีป้าคนหนึ่งบอกว่า ‘ถ้าคุณขี้เกียจอย่ามาอเมริกาเลยอยู่เมืองไทยไปเถอะ ป้าจะขอตายที่อเมริกา’ แต่เราก็จะพูดเสริมไปว่าป้าต้องอธิบายเพิ่มนะไม่งั้นทัวร์จะลง (หัวเราะ)”

กลับกันเมื่อคอมเมนต์ในเพจกลับเห็นดีเห็นงามกับความจริงที่ว่านั้น และหลายคนก็ยึดเป็นกำลังใจต่อการสร้างอาชีพของตัวเอง

ท้ายแล้วการที่อาทเปิดเพจ ร้านเด็ด อเมริกา ก็เพื่อต้องการส่งต่อและสนับสนุนคนไทยด้วยกัน อยากรู้ว่าอาชีพแต่ละอาชีพนั้นมีเรื่องเล่าและเรื่องราวอะไรบ้างก่อนจะมาถึงจุดนี้ เช่นเดียวกับอาหารไทยในต่างประเทศก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีว่ามันไกลเกินกว่าคำว่าซอฟต์จริงๆ

“ตอนนี้อาหารไทยไม่ว่าจะถามคนต่างชาติ เขารู้จักหมดแล้ว โอกาสน้อยมากที่ฝรั่งจะไม่รู้จักอาหารไทย แต่เมนูอาหารที่ลงย่อยลงไปอาจจะไม่ใช่ทั้งหมดที่เขารู้จัก ผมมองว่าอาหารไทยมันเลยจุดของคำว่าซอฟต์พาวเวอร์ไปแล้ว มันเป็นจุดแข็งของเราไปแล้ว ไม่งั้นธุรกิจไทยคงไม่โตขนาดนี้”