เมนูสมัยนิยม ข้าวตังไรซ์เบอร์รี่ ทำขายกำไรดี มีสูตรละเอียดมาบอก

ข้าวตังไรซ์เบอร์รี่ ทำขายกำไรดี
ข้าวตังไรซ์เบอร์รี่ ทำขายกำไรดี

เมนูสมัยนิยม ข้าวตังไรซ์เบอร์รี่ ทำขายกำไรดี  มีสูตรละเอียดมาบอก

บรรยากาศสุดยอดครับ ตากข้าวตังไรซ์เบอร์รี่บนกระด้งกลางแจ้ง มีลมพัดตึงๆ ควายเดินอยู่ในนาสีเขียวไกลๆ มีม้าสะบัดขนอยู่ 3-4 ตัว แถมใกล้ๆ โดนัลดั๊ก กับ เดซี่ และลูกๆ เดินตามเป็นขบวนลงเล่นน้ำ ในน้ำยังมีปลาชุมชนิดว่ายชนกัน

ผมและอาจารย์โรงเรียนแม่บ้านทันสมัย มาจัดอบรมให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนวัลลภาฟาร์ม ลพบุรี ช่วยงานของสำนักพัฒนาฝีมือแรงงาน ลพบุรี มีอบรมทำกันหลายอย่างครับ ของดีเมืองวานร เขาคือ ไข่เค็มดินสอพอง มีชื่อเสียงมานานแล้ว เอาดินสอพองมาใส่เกลือ ขยำให้เข้ากันแล้วพอกไข่เป็ด เด็กๆ ที่มาเที่ยววัลลภาฟาร์มชอบทำกันมาก เอกลักษณ์ที่ขาดไม่ได้เลยคือลิง แต่ที่วัลลภาฟาร์ม ลิงมาไม่ถึงครับ อยากดูลิงต้องไปแถวศาลพระกาฬในเมือง ที่นั่นคนอยู่กับลิงได้อย่างสามัคคี แต่ถ้าไปจอดรถแถวนั้นระวังหน่อย ลิงมันชอบดึงยางหลังคาเล่น ไปเดินเที่ยวกลับมายางอาจจะไม่เหลือ

เมื่อมีไข่เค็มดีๆ ไข่แดงเค็มลูกใหญ่สีสด อาหารที่อบรมเลยเอาไข่แดงเค็มมาทำอยู่หลายเมนู อย่าง ข้าวตังไรซ์เบอร์รี่ที่ผมตากเอามาทอดกินกับข้าวตังหน้าตั้งใส่ไข่แดงเค็ม อร่อยมากมายบรรยายไม่ถูก ยังมีน้ำพริกเผาใส่ไข่แดงเค็ม อันนี้ก็อร่อยครับ ทำใส่ขวดขายได้เลย เห็นไข่แดงเค็มเป็นชิ้นๆ ลอยอยู่ในน้ำพริกเผา น่ากินอย่าบอกใคร อีกอย่างเป็นปั้นสิบไส้ไข่แดงเค็ม ยิ่งกิน ยิ่งมัน ยิ่งอร่อย

ตอนนี้ ทำข้าวตังไรซ์เบอร์รี่ก่อน ที่เป็นข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นไปตามสมัยนิยม ด้วยเป็นข้าวที่หอม มีสีแดงน้ำตาล อุดมด้วยวิตามินเอ วิตามินบี ไฟเบอร์ แร่ธาตุอีกนานาชนิด เขาว่ากินแล้วน้ำตาลจะต่ำ ลดความอ้วน ท้องไม่ผูก ไม่เป็นเหน็บชา บำรุงประสาท ตาใสแจ๋ว

กำเนิดข้าวตังนั้น มาจากข้าวกินเหลือ เมื่อก่อนคนจีนหุงข้าวด้วยกระทะใบบัว ใช้วิธีต้มข้าวเอา กะน้ำให้พอดี แล้วปิดฝา ข้าวสุกก้นกระทะเป็นข้าวติดก้นไหม้ๆ หน่อย ตรงนี้แหละแซะเอามาตากแดด เป็นต้นกำเนิดข้าวตัง หรือข้าวเหลือหุงติดก้นหม้อแม่นาค โบราณหุงแบบดงข้าว คือใส่น้ำให้ท่วมข้าวในหม้อดินเผา ตั้งไฟพอเดือด รินน้ำข้าวออก อันนี้เรียกน้ำข้าวหมา หมากินแล้วอ้วนท้วนสมบูรณ์ คนเป็นไข้กินก็ดีหายไว มีแร่ธาตุ โปรตีนจากข้าวละลายอยู่ในน้ำนี้ ได้ชื่อว่าเป็นน้ำยอดข้าวที่แท้จริง พอรินน้ำออกแล้วทีนี้หุงต่อ ราไฟให้ดี ไฟแรงข้าวจะไหม้ก่อนสุก เขาเรียกว่าได้สามกษัตริย์คือ แฉะ ดิบ ไหม้ ต่อไปทำการดง คือ เอียงหม้อและกระดกหม้อกลับข้าว ให้ข้าวโดนความร้อนโดยทั่วกัน ทำอย่างนี้ 3-4 ที ข้าวสุกเสมอกัน แต่ยังไงก็อาจจะมีข้าวติดก้นหม้อได้ การหุงข้าวด้วยหม้อหุงข้าวไฟฟ้ายุคปัจจุบันมักจะมีข้าวติดก้นหม้อเสมอ ยกเว้นหม้อที่เคลือบสารลื่นๆ แรกๆ ก็ไม่ติดหม้อดี ไปๆ พอสารลื่นชักขูดขาด ข้าวติดหม้อเหมือนเดิม

ข้าวตังไรซ์เบอร์รี่

ข้าวติดก้นหม้อนี้อย่าทิ้ง ให้ขูดออกมา หรือเติมน้ำนิดนึงพอขูดได้ นำมาใส่กะละมัง แล้วละลายแป้งมันสำปะหลังกับน้ำ ขึ้นตั้งไฟกวนให้เหนียวขุ่นใสเล็กน้อยแบบทำแป้งเปียก ใส่ลงไปในข้าว ใช้พายไม้คนให้มันจับตัวกัน ถ้าข้าวติดก้นหม้อไม่พอแล้วอยากทำข้าวตัง ทำกินทำขาย หุงข้าวสวยแบบปกติ แล้วผสมแป้งมันวิธีเดียวกัน แป้งเปียกนี้ไม่ต้องใส่เยอะแค่กวนๆ ลงไปในข้าวพอจับตัวกันก็ใช้ได้ เหนียวมากแฉะมากคลึงลำบาก

ต่อไปหาถุงพลาสติกใสมาตัดให้เป็นแผ่นใหญ่พับครึ่ง กางออก ใส่ข้าวลงไปแล้วพับพลาสติกอีกครึ่งลงไปทับ ใช้ขวดน้ำหรือแก้วน้ำคลึงให้เป็นแผ่นบางหนาประมาณครึ่งเซนติเมตร ใช้ปากแก้วกดผ่านพลาสติกให้ข้าวขาดเป็นแผ่นกลม เปิดพลาสติกออก เตรียมถาดทาน้ำมันไว้เล็กน้อยกันติด ย้ำว่าอย่าทาเยอะ ข้าวจะแฉะ ใช้พายพลาสติกแซะข้าวที่ตัดออกไปวางบนถาด ทำจนหมด ตากแดดจัดๆ คอยกลับข้างบ้าง สักแดดเดียวก็แห้งแล้วครับ ถ้าอยากได้เป็นแผ่นสี่เหลี่ยม แค่ใช้ไม้บรรทัดตัดผ่านพลาสติกเช่นกัน แล้วแซะตาก

ข้าวตังดิบ ขายเป็นกิโล โลละ 70-90 บาท ข้าวตังไรซ์เบอร์รี่ ยังไม่เคยเห็นใครขาย น่าจะขายได้ราคาดีกว่าข้าวตังขาว ทำขายกำไรดีครับ

ได้ข้าวตังดิบแล้ว ต้องมีวิธีการทอด น้ำมันท่วม เปิดไฟแรงก่อน พอน้ำมันร้อน ลองโยนเศษข้าวตังลงไปแล้วดีดตัวพองดีใช้ได้ หรี่ไฟเหลือไฟกลาง ใส่ข้าวตังลงทอดครั้งหนึ่งได้หลายแผ่น อย่าให้แน่นกระทะ คอยใช้ตะหลิว หรือ กระชอนกดให้ข้าวตังจมน้ำมันจะพองดี กลับทอดทั้งสองด้าน ทอดจนหมดฟอง คือไม่มีอากาศออกมาจากข้าวตังแล้ว แสดงว่ากรอบดี ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน รอเย็นเก็บใส่ถุง หรือเสิร์ฟได้เลย ทอดพริกขี้หนูแห้งไว้เผื่อประดับและสำหรับคนชอบเผ็ด โยนพริกลงไปคนๆ แว่บเดียว พอพริกเปลี่ยนสีเข้มขึ้น พอง เอาขึ้นได้ อย่าทิ้งไว้นาน มันจะไหม้ครับ

มาถึงหน้าตั้งไข่แดงเค็ม

ส่วนผสม

เนื้อหมูสับ     1 ½ ถ้วย

เนื้อกุ้งสับ         ¼ ถ้วย

รากผักชี             1 ช้อนโต๊ะ

กระเทียม           1 ช้อนโต๊ะ

พริกไทย             1 ช้อนชา

หัวกะทิ              3 ถ้วย

น้ำตาลปี๊บ      3-4 ช้อนโต๊ะ

น้ำปลา            2-3 ช้อนโต๊ะ

น้ำมะขามเปียก 2-3 ช้อนโต๊ะ

ถั่วลิสงคั่วบด        ½ ถ้วย

หอมแดงซอย        ¼ ถ้วย

ไข่แดงเค็มหั่นเล็ก ½ ถ้วย

หน้าตาน่ารับประทาน

วิธีทำ โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย ให้ละเอียด ใส่หมูสับกับกุ้งสับลงผสม พักไว้ หันไปเคี่ยวกะทิ 3 ถ้วยให้เหลือ ครึ่งเดียว แล้วค่อยใส่หมูกับกุ้งที่โขลกไว้ลงไปคน ถ้าเคี่ยวกะทิไม่ข้น หน้าตั้งจะใส ไม่เงา ไม่สวย จากนั้นปรุงรสให้หวาน เค็ม อมเปรี้ยวเล็กน้อย ใส่ถั่วคั่ว หอมซอย แล้วโรยไข่แดงเค็ม เหลือไว้ประดับหน้าด้วย

เวลาจัดเสิร์ฟเอาหน้าตั้งใส่ถ้วย ประดับด้วยไข่แดงเค็ม และพริกขี้หนูทอด อย่าลืมใส่ข้าวตังไรซ์เบอร์รี่พระเอกของเรามาด้วยล่ะครับ หน้าตั้งสูตรนี้รสเข้มข้น มันหวาน แถมซ้ำด้วยมันจากไข่แดงเค็ม กินเพลินจริงๆ

สุดท้ายไม่ต้องถามว่าหน้าตั้งทำไมต้องชื่อหน้าตั้ง บางคนว่า เวลาทอดแล้วข้าวตังมันพองตั้ง ผมเลยเอาหน้ามาใส่บนข้าวตังให้สมชื่อ ข้าวตังหน้าตั้ง ซะเลย

เผยแพร่ครั้งแรก วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2563