กับอาชีพลูกจ้างเคยทำงานอยู่ในบริษัทผลิตจำหน่ายสินค้าอุปโภคเครื่องใช้เครื่องสำอางยักษ์ใหญ่มานานหลายปี จนวันหนึ่งผันตัวสู่ผู้ประกอบการ สร้างโรงงานรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์สปา และต่อมาเปิดตัวสร้างแบรนด์เป็นของตนเอง ผุดผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ชูจุดขายต่างจากท้องตลาดมี นั่นคือ เลือกนำสมุนไพรออร์แกนิกมาเป็นวัตถุดิบหลัก

คุณจักรพงษ์ บุปผานิโรจน์ เล่าว่า “ผมกับน้องสาวทำงานอยู่บริษัทเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคซึ่งผลิตสินค้าหลายรายการโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เครื่องสำอาง โดยผมดูแลฝ่ายปฏิบัติการ จัดซื้อ วางแผน ดูแลคลังวัตถุดิบ รวมถึงจัดส่งสินค้า ส่วนน้องสาวได้ศึกษาต่อระดับปริญญาโทด้านเครื่องสำอาง วันหนึ่งเราสองคนจึงจับมือกันเดินออกจากอาชีพลูกจ้าง แล้วเปิดโรงงานเล็กๆ ที่มีแรงงานคือคนในครอบครัว 3-4 คน รับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์สปา ธุรกิจนี้ทำมาตั้งแต่ปี 2546”

ระยะเวลาผ่าน 10 ปี ธุรกิจรับจ้างผลิตเติบโตขยับขยายสร้างโรงงานบนพื้นที่ 2 ไร่ แรงงานผลิตเกือบ 200 คน แต่ทว่าสองพี่น้องก็คิดถึงการต่อยอดผลิตภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ของตนเอง โดยมีนโยบาย คือ ไม่ทำสินค้าเดียวกับที่รับจ้างผลิต

“ยาสีฟัน” เปิดตัวเป็นสินค้าแรก และต่อมาได้มองถึงกลุ่มเป้าหมายเด็กซึ่งมีสภาพผิวอ่อนโยน ควรค่าได้รับการดูแลเป็นพิเศษ จึงผุดยาสีฟันสำหรับเด็ก ครีมอาบน้ำ+แชมพูสระผม และแชมพูอนามัย

“เราเชื่อว่าตลาดมีความต้องการ ถือเป็นสินค้าทางเลือก ยิ่งในยุคที่คนหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น ยิ่งทำให้เห็นโอกาส แต่ว่าต้องใช้ทุนสูง จึงตัดสินใจขอสินเชื่อจากธนาคาร 10 ล้านบาท แต่หลักทรัพย์ค้ำประกันไม่พอ เมื่อทางธนาคารเห็นว่ามีโอกาสโต จึงแนะนำให้รู้จักกับ บสย. (บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม) เข้ามาเป็นผู้ค้ำประกันให้ จึงได้เงินมาลงทุนซื้อเครื่องจักร วัตถุดิบ และบรรจุภัณฑ์”

กับการตั้งต้นวางจุดขายไว้ชัดเจน ผลิตภัณฑ์ต้องมาจากสมุนไพรปลูกในรูปแบบอินทรีย์ หรือออร์แกนิก เพราะเล็งเห็นตลาดเปิดกว้างและยังไม่มีรายใดผลิต

“ก่อนจะผลิตสินค้าใดขึ้นมา จะดูความต้องการของผู้บริโภค ดูสินค้าที่มีคู่แข่งน้อย หรือยังไม่มีรายใดผลิต อย่างผลิตภัณฑ์สมุนไพรในตลาดมีวางจำหน่าย แต่ว่าที่เป็นสมุนไพรออร์แกนิกไม่เห็น ซึ่งกับวัตถุดิบสามารถรับซื้อจากซัพพลายเออร์ในประเทศ มีใบรับรองคุณภาพสินค้า”

สำหรับผลิตภัณฑ์ได้รับความนิยมดีอีกชนิดหนึ่งคือ แชมพูอนามัย ซึ่งมีส่วนผสมของ ใบฝรั่ง สะเดา หนอนตายหยาก

“ตอนที่น้องสาวคิดสูตรนี้ขึ้นมาเพราะลูกเป็นเหา และต่อมาลูกผมก็เป็น ติดมาจากโรงเรียน จึงไปซื้อยาเคมีมาใช้ ปรากฏว่ากัดมือ กัดหนังศีรษะจนแดง และยังส่งปัญหาเรื่องกลิ่นฉุนรุนแรง น้องสาวจึงศึกษาสมุนไพรแล้วผลิตสินค้าขึ้นใช้เอง ใส่กลิ่นหอมละมุน”

เมื่อทำใช้แล้วชื่นชอบ จึงผลิตเพื่อจำหน่าย กับราคาขายขวดละ 189 บาท ขนาด 100 มิลลิกรัม “เริ่มต้นผลิตในปีแรกเน้นแจกไปตามโรงเรียนของจังหวัดต่างๆ ขายผ่านโซเชียล และนำเสนอขายผ่านแค็ตตาล็อกฟรายเดย์ เพราะเขามีพนักงานขายที่สามารถสื่อสารถึงตัวผู้บริโภค ซึ่งเมื่อลูกค้าเกิดการทดลองใช้ก็เริ่มมีออร์เดอร์กลับมา ซึ่งผลิตภัณฑ์สูตรนี้ยังไม่เห็นตลาดมีวางจำหน่าย จึงถือเป็นโอกาส แต่ทว่าก็ต้องสร้างการรับรู้พอสมควร เพราะเป็นสินค้าใหม่”

กับแชมพูอนามัย คุณจักรพงษ์ เชื่อว่าจะเป็นสินค้าขายดี โดยวางยอดขายไว้เดือนละประมาณ 10,000 ขวด

“แป้งโลชั่น” ป้องกันปัญหาเด็กๆ แพ้ฝุ่นแป้ง เป็นผลิตภัณฑ์อีกรายการที่ผลิตขึ้นจากแป้งข้าวโพด และแป้งสาลี ผสมน้ำมันรำข้าว และน้ำมันดอกทานตะวัน ทำให้สภาพผิวของเด็กเกิดความชุ่มชื่น

“จากที่ผลิตมาเพื่อตอบโจทย์เด็ก กลายเป็นว่าไม่ใช่เด็กเท่านั้นที่ใช้ แต่ยังมีกลุ่มผู้สูงวัย เนื่องจากปัญหาผิวแห้ง”

ผู้ประกอบการคนขยัน ยังเล่าถึงสินค้าอีกหนึ่งรายการของเด็ก นั่นคือ แชมพูอาบน้ำและครีมอาบน้ำในขวดเดียวกัน ซึ่งมีสารทำความสะอาดจากมะพร้าว และข้าวโพด เพิ่มความชุ่มชื่นด้วยสารสกัดจากใยไหม และนมแพะ

“ตอนนี้ไม่ใช่แค่พ่อแม่ซื้อให้ลูกตัวเองใช้เท่านั้น แต่กลายเป็นสินค้าของฝาก หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ซึ่งมีปัญหาผิวบอบบางแพ้ง่ายก็เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา ทำให้มองเห็นโอกาสความเติบโต เพราะถ้ามองในด้านคู่แข่งแทบหาไม่ได้เลย

ฉะนั้น ในปีนี้จึงมุ่งทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพราะเชื่อว่าสินค้าหลายๆ รายการ ตลาดต่างประเทศมีความต้องการสูง เราจึงให้ความสำคัญกับมาตรฐานสินค้า นอกจากจะมีส่วนผสมสมุนไพรออร์แกนิกแล้ว ยังไม่ใส่สารที่ทางอียู หรือประเทศออสเตรเลียห้าม แม้ประเทศไทยจะไม่ได้ห้าม อย่าง พาราเบนส์ หรือแม้กระทั่งน้ำตาลซึ่งไม่ได้มีข้อห้าม แต่จะพบว่าเด็กมีปัญหาฟันผุ ซึ่งหลายคนอาจมองว่ามาจากลูกอมขนมหวาน แต่ในความจริง น้ำตาลจากส่วนผสมของยาสีฟันมีส่วน ยาสีฟันเด็กสูตรเอมไทย จึงใช้ส่วนผสมของนมแพะ และวัตถุดิบมาตรฐานฟู้ดเกรดทั้งหมด” คุณจักรพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย

สนใจผลิตภัณฑ์ “เอมไทย” ติดต่อ บริษัท อควา ปุริ แลบบอราเทอรี่ส์ จำกัด เลขที่ 99 หมู่ 2 ตำบลบึงกาสาม อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี โทรศัพท์ 02-955-9311 หรือ www.aimthai.com, http://www.facebook.com/aimthaiorganic