เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2561 ที่โรงแรมเลยพาเลซ จ.เลย สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จัดประชาพิจารณ์สลากแบบรวมชุดขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งมีผู้ค้าสลากรายย่อย สมาคมผู้พิการทางสายตา จ.เลย ผู้สั่งซื้อและจองสลากล่วงหน้า รวมถึงผู้ค้าสลากในจังหวัดใกล้เคียง เช่น อุดรธานี สกลนคร เข้าร่วมจนล้นทะลักโรงแรมประมาณ 3,600 คน

นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ในฐานะโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยหลังประชาพิจารณ์ว่า ขณะนี้สำนักงานสลากฯ เปิดรับฟังความเห็นในการจัดทำสลากรวมชุดครบ 5 ครั้ง เดินสายทั่วทั้งประเทศแล้ว และหลังจากนี้จะนำไปรวมกับความเห็นจากทางไปรษณีย์ และเว็บไซต์กว่า 1 หมื่นราย เพื่อสรุป ซึ่งส่วนใหญ่สนับสนุนให้สลากฯ ทำลอตเตอรี่รวมชุด 5 ใบจำหน่ายเอง และผู้ค้าส่วนใหญ่ต้องการให้จัดทำเป็นสลากชุดแบบแยกชุดใบละ 80 บาทจำหน่าย เพราะสามารถนำไปแยกขายเป็นชุดเล็ก หรือเป็นใบต่อได้หากงวดไหนขายไม่ดี

ดังนั้น ในการประชุมคณะกรรมการสลากฯ ในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ จะมีการเสนอให้มีการจัดทำสลากรวมชุด 5 ใบ แบบแยกใบ ใบละ 80 บาท ปริมาณ 20-50 ล้านฉบับ ซึ่งเป็นการแบ่งส่วนจากโควตาปัจจุบัน 80 ล้านฉบับออกมาทำ โดยขายต้นทุนชุด 5 ใบ ที่ 352 บาท และขายปลีก 400 บาทให้ประชาชน

ส่วนรูปแบบการจำหน่ายสลากฯ ชุด จะเสนอให้เลือก 4 วิธี 1. ให้ผู้ค้าสลากฯเดิม เข้ามาจองซื้อผ่านระบบอินเตอร์เน็ตธนาคารกรุงไทยทั้งหมด 2. แบบผสมผสานให้ทั้งผู้ค้าสลากฯย่อยเดิม และมูลนิธิองค์กร ได้เข้าถึงสลากชุดพร้อมกัน 3. การเปิดให้มูลนิธิ องค์กร ได้เข้าถึงสลากรวมชุดอย่างเดียว แต่มองว่าวิธีนี้อาจไม่เหมาะสม หรือวิธีที่ 4. การเปิดให้ลงทะเบียนรับผู้ค้าสลากรวมชุดใหม่ แต่อาจต้องใช้เวลาและทำสลากรวมชุดได้ล่าช้ามาก

“จะมีการเสนอข้อดีข้อเสียแต่ละวิธีให้บอร์ดเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่ง แต่ยังระบุไม่ได้ว่าจะเปิดขายสลากรวมชุดได้เมื่อไร เพราะต้องขึ้นอยู่กับวิธีการเลือกจำหน่าย แต่คงไม่ใช่งวดเดือนก.ค.นี้ แต่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นภายในครึ่งปีหลังนี้”

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า การทำสลากรวมชุดจะไม่มีการเพิ่มโควตาสลากฯ รายย่อยจาก 5 เล่ม เพราะเป็นระดับที่เหมาะสมอยู่แล้ว ขณะที่วิธีการใช้เน็ตแบงก์ธนาคารกรุงไทย สามารถกระจายสลากให้เข้าถึงผู้ค้ารายย่อยจำนวนมากถึงงวดละ 100,000 คน ขณะเดียวกัน จะไม่มีการเพิ่มปริมาณสลากต่องวด ซึ่งในสลากรวมชุด 20-50 ล้านใบ จะทดลองก่อนช่วงแรก 20 ล้านฉบับ

ส่วนแนวทางการป้องกันการนำสลากชุดไปรวมชุดขายต่อ ยืนยันว่า มีมาตรการป้องกันการรวมชุดที่ได้ผลแน่นอน เบื้องต้น สลากรวมชุดจะแบ่งแยกสีระหว่างสลากฯ ใบเดี่ยวและรวมชุด รวมถึงมีเทคนิคอื่นอีก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้

ด้านความเห็นจากผู้เข้าร่วม นายทนง สุวรรณสิงห์ อดีตหัวหน้ากลุ่มงานกิจกรรมมวลชน กอ.รมน. จ.เลย ระบุว่า เห็นด้วยกับการทำสลากรวมชุด เพราะผู้บริโภคนิยมซื้อสลากรวมชุด แต่สำนักงานสลากฯ จะต้องดำเนินการขายสลากรวมชุดควบคู่กับการจัดสรรโควตาเพิ่มขึ้นเพื่อทำให้ผู้ค้าได้รับสลากเพียงพอต่อค่าครองชีพ ไม่ต้องหันไปพึ่งพายี่ปั๊วอีก

ด้านนายสีหนารถ อินทร์จา นายกสมาคมคนตาบอดจังหวัดเลย กล่าวว่า อยากให้สำนักงานสลากเพิ่มโควตาให้กับมูลนิธิ องค์กร เพื่อนำไปจัดสรรโควตาให้กับสมาชิกผู้ค้ารายย่อย รายละ 10 เล่ม จากเดิม 5 เล่ม เชื่อว่าจะทำให้ราคาสลากปรับลดลงได้ รวมถึงควรจัดสลากรวมชุด แบบ 5 ใบ เพื่อจำหน่ายในราคา 400 บาทต่อชุดและทำให้ผู้ค้าสามารถแยกขายสลากได้

นางสาวศรัญญา พิลามา ตัวแทนจำหน่ายสลากรายย่อย กล่าวว่า ควรจะเปิดการซื้อสลากแบบเสรีไม่ควรจำกัดโควตาผู้ค้าที่ 5 เล่ม เพราะไม่เพียงพอ ทำให้ผู้ค้าต้องพึ่งตลาดค้าส่ง ซึ่งต้องรับสลากในราคาแพง 80 บาทต่อใบขึ้นไป นอกจากนี้ ผู้ค้าบางส่วนยังเสนอให้ชะลอการจับกุมผู้ค้ารายย่อยออกไปชั่วคราวจนกว่าจะแก้ปัญหาสลากเกินราคาได้

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์