‘ป๊อป’เปิดหัวใจ!! คุณหมอแฟนหนุ่มขอแต่งงาน หัวอกลูกดูแลแม่ป่วย-อาการทรุดเรื่อยๆ(คลิป)

ห่างหายจากการแสดงไปนานกว่า 20 ปี สำหรับอดีตนางสาวไทยอย่าง ป๊อป อารียา โดยเจ้าตัวได้หันไปทำงานเบื้องหลัง เป็นครูสอนโยคะ และต้องดูแลคุณแม่ที่ป่วยเป็นโรคสมองน้อยฝ่อมากว่า 10 ปี ซึ่งที่ผ่านมา ป๊อป ดูแลคุณแม่ดีมาก ไม่ให้ห่างสายตาแม้แต่นิดเดียว ล่าสุดเจ้าตัวได้มานั่งเปิดใจในรายการ คุยแซ่บ Show ทาง one31

ห่างหายจากวงการแสดงไป 21 ปี
“ถ้าเป็นการแสดงน่าจะ 20 ปีค่ะ ตอนนั้นเล่นละครเรื่องแรกกับพี่เบิร์ด ธงไชยค่ะ”

เหตุผลหนึ่งที่ผ่านมา ที่ไม่เลือกรับงานละคร เพราะต้องดูแลคุณแม่จริงมั้ย
“จริงที่แม่ไม่สบายมาระยะหนึ่ง คือตอนนั้นเค้าเป็นโรคคล้ายๆ พาร์กินสัน แต่ไม่ใช่พาร์กินสัน คือเค้าเป็นโรคสมองน้อยที่ฝ่อ มันฝ่อไปเรื่อยๆ แต่เราก็ไม่รู้ว่ามันฝ่อเพราะอะไร อาการค่อยๆ แย่ลงตั้งแต่อายุ 60 แล้ว เซบ้าง ล้มบ้าง ก็คือตอนที่วิ่งมารับโทรศัพท์ที่ห้องเขาที่มิชิแกน ด้วยความที่เขาวิ่งมา เขาก็เซล้ม เราก็ต้องพาเขากลับมาอยู่เมืองไทยกับเรา ตอนที่เขาล้มก็ฟันหัก ซี่โครงร้าว แต่ด้วยความที่คุณแม่เป็นประธานวัดที่มิชิแกน ก็โทรไปที่วัด แล้วทางร้านอาหารก็พาไปโรงพยาบาล”

รู้สึกยังไงที่มันเป็นเพราะโทรศัพท์ของเราทำให้คุณแม่ต้องล้ม
“คือเราต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว เราไม่รู้ว่าอาการของแม่เป็นมาแบบนี้เรื่อยๆ คิดว่าครั้งแรกหมอวิเคราะห์ผิด บอกว่าเป็นน้ำในหูไม่เท่ากัน บอกเป็นแบบนี้มา 5-6 ปี เราก็ค่อนข้างจะรับได้ แต่อาการนี้มันเริ่มแย่ๆ ไปเรื่อยๆ อาการตอนนี้ของคุณแม่มันจะค่อยๆ มืด หายใจเต็มปอดยากขึ้น กล้ามเนื้อที่สายตาก็จะฝ่อๆ มีปัญหา แล้วเงินของแม่อยู่ที่อเมริกา มันก็หลายอย่างอ่ะ เอาออกไม่ได้ แม่เขาก็เซ็นไม่ได้ พูดไม่ได้ สายตาก็จะไปแล้ว”

ค่ารักษาพยาบาลคุณแม่สูงมากเหมือนกัน
“มีช่วงหนึ่งเราพาไปหาหมอ แล้วหาวิธีการรักษาให้ได้ แล้วมีหมอคนหนึ่งแนะนำมาว่าให้ฉีดพลาสม่า เข็มละ 3 แสน ฉีดไป 4 เข็ม ก็ 1.2 ล้าน ฉีดไปก็ไม่มีผลอะไรดีขึ้น แม่เขาก็เอาที่นาไปขายด้วย แต่ไม่มีผลอะไรขึ้นมา เราทำได้ก็แค่เหมือนนั่งมองแม่คนหนึ่งค่อยๆ จากไปจากเรา แล้วเหมือนเขาจะจบสิ้นลง เราต้องทำให้เขาหัวเราะให้ได้ทุกวัน”

กี่ปีแล้ว
“อาการมันจะแย่ไปเรื่อยๆ ช่วง 4 ปีหลังนี้จะหนักขึ้นค่ะ

เรื่องความรักจริงหรือเปล่าที่เราประกาศว่าจะไม่มีลูกไม่มีครอบครัว
“เราไม่ได้เกลียดผู้ชายขนาดนั้น แต่ดวงเราเอง เรารู้สึกว่าชีวิตคู่มันเป็นอะไรที่ยากมาก คนสองคนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เข้าใจกัน ให้เกียรติกัน จะแต่งหรือไม่แต่งก็เป็นเรื่องของเขาสองคน”

เคยมีคนมาขอแต่งงานมั้ย
“มีค่ะ มาขอประจำเลย เป็นหมอค่ะ เป็นคนไทย เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ปี 2000 รู้จักกันมานาน เขาเป็นคนซื่อๆ มั้ง และด้วยความที่เขาอยู่ในวงการแล้วก็เจอคนนั้นคนนี้ ก็ค่อนข้างจะโดนหลอกเยอะ แล้วก็เป็นคนขี้สงสาร คือเรารู้สึกว่า ถ้าเราเป็นผู้หญิงที่ต้องดูแลเขาหมดเลย แล้วเราต้องดูแลแม่ด้วย ถ้าเขาไม่ได้มาเสริมเรา ขอแบบเป็นเพื่อนกันดีกว่า อีกอย่างเขาอยู่เชียงใหม่ เราอยู่กรุงเทพฯ นานๆ เจอที มีอะไรปรึกษากัน คอยเป็นกำลังใจให้กัน เราก็อยู่กับเขาตอนที่แม่เขาเสีย เขาเป็นลูกคนโต เราก็เป็นลูกคนโตเหมือนกัน ต้องดูแลพ่อแม่เหมือนกัน”

อนาคตถ้าทุกอย่างลงตัวจะแต่งงานมั้ย
“อนาคต คือ อนาคต”

เขาน้อยใจมั้ย ขอมาหลายรอบแต่ยังไม่สำเร็จสักที
“ยังไงดีล่ะ คือถ้ามันใช่มันก็ไม่จำเป็นต้องมีพิธีการ แต่อย่างที่บอกไง เราต้องดูแลแม่ นอกจากตื่นมาทุกวัน เราก็ต้องเป็นห่วงทุกอย่าง ตั้งแต่การกินไปจนถึงการขับถ่ายเลยค่ะ”

คุณแม่รู้จักคุณหมอคนนี้
“โอ้โห ปลื้มมากสุดชีวิต เป็นความฝันเขาเลยค่ะ แม่อยากให้มีแฟนเป็นหมอ แล้วเราก็เกลียดหมอมาก เกลียดอะไรได้อย่างนั้นเลย”

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์