ผู้เขียน | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
วันที่ 6 ม.ค. เอพีและเดลีเมล์รายงานถึงสภาพภูมิอากาศโลกแปรปรวนหนักทั้งหนาวจัดและร้อนจัดสุดขั้ว ว่า ออสเตรเลียในฝั่งขั้วโลกใต้ประสบภาวะคลื่นร้อน อุณหภูมิทะยานขึ้นกว่า 40 องศาเซลเซียส เตือนประชาชนให้อยู่ในร่ม ชายฝั่งด้านตะวันออกของออสเตรเลียอากาศร้อนจัดตลอดช่วงสุดสัปดาห์
ชาวเมืองในนครซิดนีย์และเมลเบิร์นเผชิญกับคลื่นความร้อน อุณหภูมิสูงถึง 38-41 องศาเซลเซียส บริเวณพื้นถนนของทางหลวงฮูมไฮเวย์ เชื่อมนครเมลเบิร์นกับซิดนีย์ เริ่มละลายครอบคลุมพื้นที่แล้ว 10 กิโลเมตร ทำให้การจราจรติดขัดขนานใหญ่ เพราะคนขับขี่หลบยางบนถนนที่ละลาย
สถานการณ์ดังกล่าวยังทำให้รัฐวิกตอเรีย ภาคตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศห้ามจุดไฟทั้งในที่แจ้งหรือกิจกรรมอื่นๆ ที่มีจุดประสงค์เพื่อการปรุงอาหารหรือตั้งแคมป์ นอกจากนี้ได้เตือนไปถึงรัฐเซาท์ออสเตรเลียว่าอาจร้อนถึง 46 องศา และกรุงแคนเบอร์รา เมืองหลวงอุณหภูมิอาจถึง 38 องศาเซลเซียส หน่วยรับมือไฟเตรียมพร้อม
ส่วนที่สหรัฐอเมริกา ฝั่งขั้วโลกเหนือ พื้นที่ฝั่งตะวันออกเผชิญความหนาวเย็นจัดจากปรากฏการณ์บอมบ์ไซโคลน หนาวเหน็บตั้งแต่รัฐเวอร์จิเนียไปจนถึงรัฐเวอร์มอนต์ อุณหภูมิจะติดใกล้ศูนย์องศาตั้งแต่รัฐฟิลาเดลเฟียไปจนถึงนครบอสตันตลอดทั้งคืนวันเสาร์ที่ 6 ม.ค. ทำให้รู้สึกหนาวเหน็บเหมือนอุณหภูมิติดลบ 10-20 องศา
ส่วนแถบเทือกเขาเบิร์กไชร์ในรัฐแมสซาชูเสตส์ อาจติดลบ 35 องศา หลายพื้นที่ในรัฐนิวแฮมเชอร์และรัฐเมนอาจติดลบ 45 องศา ขณะที่เวอร์มอนต์อาจรู้สึกเหมือนอุณหภูมิติดลบ 50 องศา โดยครั้งสุดท้ายที่อากาศหนาวสุดขั้วแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อก.พ.2558
ส่วนจีนประสบความหนาวเย็นเช่นกัน จนน้ำตกมากกว่า 20 แห่งกลายเป็นน้ำแข็ง โดยเห็นเป็นภาพน้ำตกที่แข็งตัวกำลังตกลงพื้นล่าง ในเขตอุทยานป่าไม้แห่งชาติภูเขาเทียนเหมิน มณฑลเหลียวหนิง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ที่มา ข่าวสดออนไลน์