มายังไง! โคมลอยยักษ์รูปจั่นเจาจากพม่า มาตกลำปาง พร้อมผ้าห่มนับ 100 ผืน-เงินจ๊าด พระพม่าแนบจม.ให้ผู้โชคดีโทรกลับ(คลิป)

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีชาวบ้านในหมู่บ้านกล้วยม่วง ต.กล้วยแพะ อ.เมือง จ.ลำปาง พบโคมลอยขนาดใหญ่มาก ตกมาอยู่บนหลังคาบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ได้เก็บลงมาแล้ว และพบของได้ผูกติดมากับโคมลอยขนาดใหญ่ดังกล่าวด้วย จึงได้เข้าไปตรวจสอบพบบ้านที่โคมลอยตกบนหลังคาเป็นบ้านเลขที่ 99 บ้านกล้วยม่วง ต.กล้วยแพะ อ.เมือง จ.ลำปาง โดยเป็นบ้านของ นายอิทธิพันธิ์ คำมีอ่อน อายุ 38 ปี และได้พาผู้สื่อข่าวดูซากของโคมลอยที่กองอยู่ลานหลังบ้าน

เมื่อผู้สื่อข่าวได้พบ พร้อมกับชาวบ้านที่เดินทางไปดูก็ต้องตกใจ เมื่อซากโคมลอยดังกล่าว ซึ่งเป็นพลาสติกมีขนาดที่ใหญ่มาก เมื่อชาวบ้านช่วยกันกางออกมาก็เต็มลานในบ้าน นับเป็นโคมลอยที่ชาวบ้านหลายคนที่สูงอายุแล้วไม่เคยพบเห็นมาก่อนตั้งแต่เกิดมา เมื่อดูใกล้ๆ พบเป็นโคมลอยที่ใช้วัสดุเป็นแผ่นพลาสติกรูปองครักษ์จั่นเจาในหนังเปาปุ้นจิ้นติดด้วยเทปกาว โดยพบเชื้อเพลิงที่ใช้เป็นเศษไม้ที่ใช้ลวดมัดรวมกันไว้ขนาดเท่าต้นขายาวประมาณ 1 เมตร มีรอยไหม้ โดยมีกลิ่นน้ำมันก๊าซคละคลุ้งออกมา ซึ่งเมื่อดูจากภาพโคมลอยที่ติดอยู่บนหลังคาบ้าน พบว่ามีขนาดความกว้าง และสูงกว่า 15 เมตร

ที่น่าตกใจ คือ โครงฐานของโคมลอยลูกใหญ่นี้ใช้ต้นไม้ไผ่ทำเป็นวงกลม และเสริมด้วยเหล็กเส้นขนาด 1 เซนติเมตร ยาว 5 เมตร จำนวน 2 เส้น จึงทำให้โครงฐานของโคมลอยแข็งแรง

ชาวบ้านคาดว่า จากเชื้อเพลิงที่มีขนาดใหญ่ และโครงฐานที่แข็งแรงจึงทำให้ลอยขึ้นได้สูง และลอยมาไกลจากประเทศเมียนมา เนื่องจากใต้โคมลอยมีการผูกจดหมาย ซองใส่เงิน และผ้าห่มเกือบ 100 ผืนผูกติดเชือกให้เป็นหางโคมลอยยาวกว่า 500 เมตร เมื่อตกลงมาชาวบ้านในหมู่บ้านต่างรีบตัดเชือก และรีบเก็บผ้าห่มที่ตกลงมาไป

ส่วนบริเวณหางโคมลอยที่ผูกติดอยู่กับฐานไม้ มีจดหมายบอกบุญถูกเขียนด้วยภาษาเมียนมา และเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งคนที่รู้ภาษาเมียนมาได้แปลว่า เป็นโคมลอยบุญที่ถูกปล่อยมาจากประเทศเมียนมา หากใครเก็บได้จะโชคดี และภายในจดหมายยังระบุว่าให้โทรศัพท์ตอบกลับไปแจ้งบุญตามหมายเลขที่เขียนไว้ด้านใน ซึ่งเป็นลายมือชื่อของเจ้าอาวาสวัดที่มีการจัดงานบุญ และปล่อยโคมขึ้นสู่ท้องฟ้า นอกจากนี้ ยังมีซองใส่ธนบัตร จำนวน 14 ใบ ใบละ 1,000 จ๊าด รวมเป็น 14,000 จ๊าด ซึ่งหากแลกเปลี่ยนเป็นเงินไทยจะตกอยู่ที่ 341.06 บาท

นายอิทธิพันธิ์ คำมีอ่อน อายุ 38 ปี เจ้าของบ้านที่โคมลอยตกใส่หลังคา บอกว่า ขณะโคมลอยตกลงมานั้นไฟที่เชื้อเพลิงได้ดับหมดแล้ว เหลือแต่ควันที่ลอยอยู่ด้านใน เชื่อว่าจากเชื้อเพลิงที่ดับจึงทำให้ร่วงลงมา ซึ่งคาดว่าตอนลอยจะลอยขึ้นสูงมาก โดยขณะที่กำลังจะใกล้ตกลงมานั้นพบเห็นเมื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 31 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา ชาวบ้านในหมู่บ้านต่างเห็นเป็นจำนวนมากก่อนที่จะตกลงมาบนหลังคาบ้านตัวเอง ซึ่งขณะนี้ตนเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร แต่ได้นำซากโคมลอยมากองไว้หลังบ้าน ส่วนที่จะโทรศัพท์ไปหาตามหมายเลขที่ระบุไว้ในจดหมายหรือไม่นั้นก็ยังไม่ได้ตัดสินใจ