วันที่ 25 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ว่า ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 46-47 ถ.นเรศวร ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อพบกับ นางวาว หรือทวดวาว วงษ์ไทย อายุ 104 ปี ยายทวด 5 แผ่นดิน หลังรับแจ้งจากนายอิทธิพนธ์ ตรีวัฒนสุวรรณ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครอุดรธานี ว่าพบคุณทวดวาวฯ ขณะหลานพามาดูพระเมรุมาศจำลอง และบอกว่าอยากมาถวายดอกไม้จันทน์ แต่กลัวว่าคนจะมากเข้าไม่ได้ จึงแจ้งว่ามีช่องทาง คนชรา พิการ และเด็กเล็ก พร้อมประสานให้เจ้าหน้าที่ แนะนำการใช้ช่องทางดังกล่าว

ที่บ้านพักที่อยู่ด้านข้างร้าน “ก๋วยเตี๋ยวฮองเฮา” ได้พบกับ “ทวดวาว” นั่งพักผ่อนอยู่หลังบ้าน ที่ยังมีสภาพแข็งแรง ความจำยังดี พูดคุยฟังได้ชัดเจน มีปัญหาเพียงการได้ยิน สามารถใช้เก้าอี้พลาสติก พยุงตัวเองเดินไปมาได้ พร้อมแสดงบัตรประชาชน เกิดวันที่ 27 ตุลาคม 2457 โดยมีนางวราภรณ์ คำจันทร์ อายุ 72 ปี บุตรสาว อดีตข้าราชการครู มาร่วมพูดคุยให้ข้อมูล การเตรียมเดินทางเข้าร่วม พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระเมรุมาศจำลอง สนามทุ่งศรีเมืองอุดรธานี

นางวราภรณ์ คำจันทร์ บุตรสาวเล่าว่า แม่อยากจะไปถวายดอกไม้จันทน์ แต่ลูกชายตนเองมีภารกิจถ่ายภาพ ในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพที่ท้องสนามหลวง วานก่อนจึงมาชวนแม่ไปที่ทุ่งศรีเมือง ขับรถออกไปไม่นานก็กลับมา บอกว่าเสื้อที่ใส่ไปไม่เหมาะสม เพราะเป็นเสื้อลายไม่ใส่สีดำทั้งหมด แล้วก็กลับไปสนามทุ่งศรีเมืองอีก กลับมาถึงบ้านแม่ดีใจมาก ยิ้มแย้มอารมณ์ดี พูดให้เราฟังว่าไปเห็นอะไรบ้าง ทั้งตัวพระเมรุมาศ ทั้งดอกดาวเรือง กำลังหาคนพาท่านไปถวายดอกไม้จันทน์

“ทวดวาว” เล่าว่า เป็นลูกสาวคนโตของ “ขุนแววประสาท วงษ์ไทย” เกิดที่ จ.ราชบุรี ติดตามคุณพ่อไปรับราชการ จ.ประจวบคีรีขันธ์ , พิจิตร , พิษณุโลก , อุตรดิษฐ์ , มหาสารคาม และมาเกษียณที่ จ.อุดรธานี ในตำแหน่งนายอำเภอเมือง จากนั้นได้รับเลือดตั้งเป็นนายก ทม.อุดรธานี แต่งงานแต่ไม่ได้เปลี่ยนนามสกุล เคยตามสามีไปรับราชการที่ อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย ตอนนั้นไป อ.บึงกาฬ ต้องนั่งเรือไปตามแม่น้ำโขง ก่อนจะกลับมาปักหลักที่อุดรธานี

“ เคยรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 รวม 2 ครั้งๆแรก เป็นครั้งแรกที่พระองค์เสด็จมาศาลากลาง จ.อุดรธานี และสนามทุ่งศรีเมือง ได้นั่งอยู่แถวหน้าใกล้พระองค์มาก พระองค์ท่านตัวเล็ก ภาษาพูดไพเราะ วันนั้นมีผู้หญิงอายุมากแล้ว เอาผ้าเช็ดหน้ามากางที่พื้น ขอให้พระองค์เหยียบให้เป็นมงคล พระองค์หันไปหาสมเด็จพระราชินี ให้มาเหยียบก่อนพระองค์ก็เหยียบตาม คนอื่นก็ทำตามบ้างไปตลอดทาง เราก็ได้แต่ตกใจทำอะไรไม่ถูก ยกมือไหว้อย่างเดียว ครั้งที่สองไปรับเสด็จที่วัดหนองสวรรค์ ต.เชียงพิณ อ.เมือง ”ทวดวาว กล่าว

ทวดวาว  ยังกล่าวต่อว่า ติดตามข่าวในหลวงรัชกาลที่ 9 มาตลอด โดยเฉพาะช่วงพระองค์ประชวร เมื่อมีข่าวแจ้งสวรรคตก็ใจหายมาก ตั้งใจอยากจะไปถวายดอกไม้จันทน์ บอกไม่ถูกว่าทำไมถึงอยากไป แต่ก็ไม่รู้ว่าลูกหลานจะพาไปไหม เพราะต่างคนต่างมีงานต้องทำ วานก่อนโน้นหลานพาไปดูพระเมรุมาศจำลอง คิดว่ามีแรงพอน่าจะไปได้ ถ้ามีใครมาพาไปก็จะไป เสื้อผ้าก็มีได้เตรียมไว้แล้ว