เมื่อเวลา 12.40 น. วันที่ 25 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบริเวณประตูเทวาภิรมย์ ข้างกำแพงพระบรมมหาราชวัง ถ.มหาราช ประชาชนเริ่มทยอยเข้ามาจับจองพื้นที่บนทางเท้าแล้ว โดยบริเวณนี้เป็นจุดรับส่งของรถชัตเติลบัสแต่ยังไม่หนาแน่นมาก นอกจากนี้ มีประชาชนจิตอาสานำอาหาร เครื่องดื่ม ยาดม รวมถึงอาหารเจมาคอยแจกจ่ายให้กับประชาชนที่เฝ้ารอเข้าร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในวันที่ 26 ต.ค.นี้

แม่ชีสมจิตร ธรรมโชติ หนึ่งในกลุ่มแม่ชีกว่า 40 คน ที่เดินทางมาจับจองที่นั่งบริเวณดังกล่าว กล่าวว่า ตนและเหล่าแม่ชีมาจากกลุ่มปฏิบัติธรรมที่วัดมหาธาตุฯ ช่วงงานพระราชพิธีที่มาจากศูนย์ปฏิบัติธรรมทั่วประเทศ คาดว่าจะอยู่จนถึงวันที่ 27 ต.ค.นี้ โดยในครั้งนี้อยากจะอยู่ให้ใกล้กับในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นครั้งสุดท้ายให้มากที่สุด แม้จะเป็นเวลาที่พระองค์จากไปแล้วก็ตาม

แม่ชีสมจิตร กล่าวต่อว่า พระองค์ทรงทำหลายอย่างให้พสกนิกรชาวไทยมากมาย เพื่อให้พวกเรามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แม้ว่าต้องเหน็ดเหนื่อยมากสักเท่าใด ก็ไม่เคยหยุดยั้ง ซึ่งเมื่อตอนเป็นเด็กตนก็เคยเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จพระองค์ ครั้งเสด็จฯ เยี่ยมเยียนประชาชน ที่จ.พิจิตร และมาในงานครั้งนี้ก็เพื่อจะมาบอกลาพระองค์เป็นครั้งสุดท้าย แต่จะยังเก็บพระองค์ไว้ในใจตลอดไป

ด้าน นายนิโค ทิมเมอร์ส อายุ 43 ปี ชาวเนเธอร์แลนด์ และน.ส.สุวดี เพ็ชรรุ่ง อายุ 56 ปี คู่หมั้นคนไทย โดยทั้งคู่เดินทางมาจากประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยนายนิโค เปิดเผยว่า ตนได้รับรู้เกี่ยวกับพระราชประวัติของในหลวงรัชกาลที่ 9 ผ่านทางคู่หมั้นของตน โดยทราบว่าพระองค์ทรงทำหลายอย่างให้กับคนไทยเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ดังนั้น ในวันนี้จึงถือเป็นวันหนึ่งที่สำคัญมากสำหรับตนและภรรยา แม้ว่าจะเพิ่งรู้จักพระองค์อย่างละเอียดเพียงไม่นานก็ตาม

น.ส.สุวดี กล่าวว่า นายนิโคเริ่มผูกพันกับพระองค์ท่านผ่านทางตน และการเริ่มเล่นดนตรีไทยที่สถานทูตไทยในเนเธอร์แลนด์ และยังเคยเล่นดนตรีไทยต่อหน้าพระพักตร์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ก่อนจะมีโอกาสเล่นที่สถานทูตไทย ณ กรุงลอนดอน เมื่อ 2 ปีที่แล้ว

“ครอบครัวของตนใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นกว่า 30 ปี แต่สายสัมพันธ์ระหว่างในหลวงรัชกาลที่ 9 ยังแน่นแฟ้นไม่ต่างจากคนไทยคนอื่น อาจจะด้วยมีพ่อเป็นทหาร ประจำอยู่ที่ค่ายอดิศร จ.สระบุรี ที่คอยเล่าเรื่องของพระองค์ท่านอยู่ตลอดเวลา ในครั้งนี้ได้เดินทางมาพร้อมคู่หมั้นตั้งแต่เมื่อวาน (24 ต.ค.ที่ผ่านมา) โดยมานอนพักตามซอกตึกในบริเวณนี้ ซึ่งตนและนายนิโคก็ไม่ค่อยได้นอนพักผ่อน รู้สึกเหนื่อยเพลียบ้าง แต่หากเทียบกับความเหน็ดเหนื่อยที่พระองค์ทรงทำให้แก่เราก็เทียบไม่ได้แม้แต่น้อย และอยากจะเป็นส่วนหนึ่งในพิธีสำคัญเช่นนี้” น.ส.สุวดี กล่าว

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์