ไอคอนสยามผุดรถไฟฟ้าไร้คนขับ”สายสีทอง”

ครม.กดปุ่มไฟเขียว กทม.ลุยรถไฟฟ้าสายสีทองกว่า 3 พันล้าน “กรุงธน-ประชาธิปก” สั่งส่งพิมพ์เขียวเคลียร์พื้นที่รอบเกาะรัตนโกสินทร์ กรุงเทพธนาคมเร่งเครื่องสุดลิ่ม เปิดประมูลคู่ขนาน EIA ดันตอกเข็ม ธ.ค.นี้ เปิดใช้พร้อมไอคอนสยามปลายปี”60 บีทีเอสผนึกเกาหลีลงทุน 30 ปี

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง (สถานีกรุงธนบุรี-สถานีประชาธิปก) ระยะทางรวม 2.7 กม. มี 5 สถานี เงินลงทุน 3,845 ล้านบาท ซึ่งแนวเส้นทางจะเชื่อมกับรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีกรุงธนบุรี กับสายสีม่วง (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) ที่สถานีประชาธิปก และสายสีแดง (หัวลำโพง-มหาชัย) ที่สถานีคลองสาน

จะแบ่งก่อสร้าง 2 ระยะ เฟสแรกจากสถานีกรุงธนบุรี-โรงพยาบาลตากสิน 1.7 กม. เริ่มต้นจากสถานีบีทีเอส วิ่งไปตามถนนกรุงธนบุรี เลี้ยวเข้าถนนเจริญนคร ผ่านวัดสุวรรณาราม ไปตามถนนเจริญนคร ถนนเจริญรัถ แยกคลองสาน สิ้นสุดหน้าโรงพยาบาลตากสิน มี 3 สถานี ได้แก่ กรุงธนบุรี ไอคอนสยาม และสถานีคลองสาน เงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท

ส่วนเฟส 2 จากโรงพยาบาลตากสิน-วัดอนงคารามวรวิหาร ระยะทาง 1 กม. มี 2 สถานี ได้แก่ สถานี G4 อยู่ก่อนถึงโรงเรียนจันทรวิทยา และสถานี G5 อยู่ก่อนถึงวัดอนงคารามวรวิหาร ส่วนศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า (เดโป้) จะสร้างอยู่ในสถานีกรุงธนบุรี โดยมอบให้ บจ.กรุงเทพธนาคม (เคที) เป็นผู้ดำเนินการและหารือร่วมกับกระทรวงคมนาคมในจุดเชื่อมต่อ และให้บรรจุโครงการไว้ในแผนแม่บทรถไฟฟ้าระยะที่ 2 ด้วย

สำหรับการก่อสร้างที่พาดผ่านพื้นที่ 25 ตร.กม. รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ไม่ให้สร้างสิ่งบดบังทัศนียภาพ ทาง ครม.ยังไม่ได้พิจารณายกเว้นให้เพราะยังไม่เห็นแบบรายละเอียดก่อสร้าง ซึ่งข้อเสนอของ กทม.จะสร้างเป็นทางยกระดับ และเข้าข่ายจะต้องทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) หากเป็นการร่วมทุนของเอกชน ก็ต้องเข้าพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ร่วมทุน 2556

นายมานิต เตชอภิโชค กรรมการผู้อำนวยการ บจ.กรุงเทพธนาคม (เคที) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลัง ครม.อนุมัติรถไฟฟ้าสายสีทอง บริษัทจะเริ่มร่างทีโออาร์เปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอการลงทุนให้เสร็จใน 15 วัน ซึ่งเอกชนที่สนใจต้องยื่นข้อเสนอการลงทุนทั้งงานก่อสร้าง จัดหาระบบและเดินรถพร้อมซ่อมบำรุงเป็นเวลา 30 ปี เงินลงทุน 2,080 ล้านบาท เพื่อเป็นการเปิดกว้างให้เอกชนรายอื่นเข้าร่วม นอกเหนือจาก บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (บีทีเอสซี) ที่สนใจจะเข้าร่วมแล้ว คาดว่าจะได้เอกชนภายใน 30 วัน จากนั้นเริ่มก่อสร้างเดือน ธ.ค. 2559 เปิดใช้บริการวันที่ 5 ธ.ค. 2560 พร้อมกับโครงการไอคอนสยาม

“เนื่องจากโครงการนี้กลุ่มไอคอนสยามเป็นผู้สนับสนุนแหล่งเงินก่อสร้างเฟสแรกมาจากรายได้สัมปทานพื้นที่โฆษณาในสถานี30 ปี คาดว่าจะมีปริมาณผู้โดยสาร 47,300 เที่ยวคนต่อวัน”

สำหรับระบบรถไฟฟ้าที่ใช้ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง เป็นระบบ AGT เป็นระบบนำทางอัตโนมัติ ไม่มีคนขับ เหมือนรถ APM วิ่งเชื่อมสนามบิน โดยรถไฟฟ้า 1 ตู้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 80-100 คน สามารถต่อพ่วงได้ถึง 6 ตู้ วิ่งด้วยความเร็ว 3 นาทีต่อขบวน หากเกิดเหตุฉุกเฉินระบบจะทำการหยุดรถอัตโนมัติ และมีรถมารับผู้โดยสารทันที

แหล่งข่าวจาก กทม.กล่าวว่า จากมติ ครม. กทม.จะต้องนำแบบรายละเอียดเสนอกลับไปอีกครั้ง โดยเตรียมข้อมูลที่ระบุถึงสาเหตุที่โครงการไม่สามารถก่อสร้างลงใต้ดินได้ เพราะต้นทุนก่อสร้างจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกิโลเมตรละ 3-4 พันล้านบาท ขณะนี้โครงการนี้ได้ดำเนินการคู่ขนานกับการอนุมัติอีไอเอ อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการ ซึ่งมั่นใจว่าการก่อสร้างยังเป็นไปตามเดิมเริ่มสร้างปลายปีนี้ เปิดใช้ปลายปี 2560

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.บีทีเอสซี กล่าวว่า จะเข้าร่วมลงทุนรถไฟฟ้าสายสีทองให้กรุงเทพธนาคม ในส่วนงานระบบ จัดหาขบวนรถ และเดินรถให้ 30 ปี มีข้อสรุปใช้ระบบอาณัติสัญญาณของบอมบาดิเอร์และรถของวูจิน (Woojin) จากเกาหลีใต้ จำนวน 2 ขบวน ขบวนละ 3 ตู้ รวม 6 ตู้ สามารถจุผู้โดยสารได้ 80-120 คน/ตู้

“รูปแบบการลงทุนจะเสนอเป็นแพ็กเกจรวมกับงานก่อสร้างที่กลุ่มไอคอนสยามเป็นผู้ลงทุนให้ เนื่องจากรถไฟฟ้าเป็นระบบที่ผู้ก่อสร้างและติดตั้งระบบต้องเป็นรายเดียวกัน”

นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการไอคอนสยาม เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า รถไฟฟ้าสายสีทองที่ร่วมกับ กทม.จะเริ่มสร้างปลายปีนี้ และเปิดใช้ปลายปีหน้าพร้อมกับโครงการไอคอนสยาม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้มาใช้บริการภายในโครงการ จะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ

“ปีหน้าโครงการของเราจะเสร็จ ซึ่งภายในโครงการนี้จะมีคอนโดมิเนียม แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ ที่จะกลายเป็นตึกที่สูงที่สุด ด้วยความสูง 70 ชั้น หรือ 315 เมตร จำนวน 379 ยูนิต”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการไอคอนสยามเป็นการร่วมทุนของ 2 ตระกูล ลงขันกันกว่า 5.5 หมื่นล้านบาท เนรมิตที่ดิน 50 ไร่ ติดแม่น้ำเจ้าพระยา พัฒนาเป็นรูปแบบมิกซ์ยูส ประกอบด้วย ที่อยู่อาศัย ศูนย์การค้า พิพิธภัณฑ์ และคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักเซอรี่ จะสร้างเสร็จปลายปี 2560