วันที่ 25 ก.ย. ที่ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ แพท-ณปภา ตันตระกูล อุ้มน้องเรซซิ่ง ลูกชาย มาร่วมเดินแฟชั่นโชว์คู่กันครั้งแรกในงานแถลงข่าว Junior Run way Autumn 2017 จากนั้นแพทให้สัมภาษณ์ถึงที่เรื่องตนได้เล่าอัพเดตพัฒนาการน้องเรซซิ่ง ลูกชาย วัย 7 เดือน ให้เบนซ์ สามี ฟังตลอดทุกครั้งที่ไปเยี่ยม และยังเผยว่าสามีหนุ่มกลัวลูกชายจะจำหน้าพ่อไม่ได้ แต่ก็มีความหวังจะได้ออกไปเลี้ยงลูกด้วยตัวเองอีกครั้ง

แพท เผยว่า “พัฒนาการน้องดีค่ะ แต่วันนั้นที่พาน้องไปเจอเจ๊เปาซึ่งพูดเก่งมาก ก็แอบคิดว่าหรือลูกเราไม่ฉลาด แล้วตอนพาน้องไปหาหมอฉีดวัคซีนคำถามแรกเลยที่ถามหมอ เรซซิ่งพัฒนาการช้ามั้ย หมอบอกไม่ช้านะ โอเคแล้ว แต่ที่ยังพูดไม่ได้เพราะกำลังเอาเรซไปเทียบกับเจ๊เปาใช่มั้ย อย่างน้องเป่าเปาเขาเป็นกรณีพิเศษ เขาพูดเร็ว แต่โดยปกติเด็กผู้ชายพูดช้าอยู่แล้ว จะมีพัฒนาการด้านอื่นเร็ว เช่นการคลาน เกาะยืนแล้ว ถามว่าเครียดไหม คนเป็นแม่ก็มีกังวลในตอนแรกว่าลูกเราช้าไปมั้ย จะทันคนอื่นมั้ย พอคุยกับหมอก็โอเค เขานั่งแข็งแล้ว ข้ามขั้นไปอยากจะยืนแล้ว”

“ส่วนเรื่องการพูด เราก็ไม่แน่ใจว่าเด็กจะเริ่มพูดวัยไหน บางคน 9 เดือนเริ่มพูด ยิ่งเป็นผู้ชายอาจจะพูดช้าหน่อย สำหรับคำท้าให้น้องเรียกชื่อ บอกเลยว่าเลิกท้าเถอะ ยอมแล้ว คุณหมอบอกว่าเด็กจะพูดสระอามาก่อน กับเรื่องที่มาริโอ้จะอุ้มก็ต้องเสียตังค์ ไม่ใช่อย่างนั้น เป็นการรับขวัญหลาน โอ้ยังไม่เคยเจอหลานไม่เคยรับขวัญหลานเลย ให้เรซเล็กๆน้อยๆกำลังดี ไม่ค่อยหนักเท่าไหร่ ไม่ทุกคนมีน้อยให้น้อยมีมากให้มาก ที่บอกว่าถ้าอุ้มหอมแก้มต้องเสียตังค์มันไม่ใช่แบบนั้น จริงๆมันเป็นมุก ใครอุ้มก็ให้อุ้มหมด เพียงแต่คุณลุงคุณป้าอยากจะให้หลานเองอยู่แล้ว อย่างเจ๊เปามาเยี่ยมเฮียเรซก็เอาทองมาให้ ซึ่งเราไม่ได้บอกไม่ได้ขอเลย เราแค่แซวแต่จริงๆไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่เขาเอ็นดูลูกเราก็ชื่นใจแล้ว”

ตอนนี้ความฮอตของเรซซิ่ง
“ตอนนี้ดังกว่าแม่แล้ว เราเป็นแม่เพิ่งรู้ว่าเวลามีคนมาเอ็นดูลูกเรามันเป็นความรู้สึกที่พูดไม่ถูก ทุกวันนี้แพทไปห้างคนเรียกเฮียเยอะมาก ไม่มีใครเรียกเราเลยหรือเรียกก็เพราะอยากเห็นเฮียเรซ บางคนมาขอถ่ายรูปกับน้อง เราก็ถามว่าเอาแม่ด้วยมั้ยหรือเอาแต่น้อง อย่างเรื่องงานของน้องก็มีบ้าง ไม่ได้เยอะมาก อย่างงานเดินแบบวันนี้ก็คิดว่าลูกเราจะทำได้มั้ย จะงอแงแล้วทำให้ทำงานไม่ได้หรือเปล่า วันนี้เราเห็นแล้วว่ามันเป็นก้าวแรกของเขา งานก็มีเข้ามาบ้างส่วนใหญ่จะเป็นรีวิวมากกว่าพวกของใช้เด็ก ให้เรซซิ่งรีวิวทุกอย่างที่เป็นของเด็ก พวกเสื้อผ้าก็ส่งมาให้”

น้องทำเงินได้มากแค่ไหน
“ยังหรอก ส่วนใหญ่แค่ส่งมาให้น้องใช้เราก็แฮปปี้แล้ว แต่บางแบรนด์ถ้าคุณอยากให้ลงให้เห็นแบบนี้นะอันนี้ไม่ใช่แล้ว คุณก็ต้องให้ค่าขนมค่านมน้องเขาไปอันนี้พูดตรงๆ แต่ถ้าคุณไม่ได้ขออะไรเราเยอะแค่ให้น้องได้ใส่อย่างนี้เราจะโอเคมาก ถ้าคุณอยากให้น้องใช้ไม่ได้คาดหวังเห็นน้องใช้เมื่อไหร่คุณจะเอาไปรีโพสต์เราโอเค สินค้าแบรนด์ไหนถ้าส่งให้เรารับทุกแบรนด์แต่ถ้าน้องจะใช้เมื่อไหร่ก็แล้วแต่”

“เรทการลงไอจีของน้องกับแพทไม่เท่ากันค่ะ ของน้องเราย่อมเยาว์ถูกกว่าเยอะ ไม่ได้ขึ้นเพราะน้องมีชื่อเสียง ประเด็นคือน้องได้ใช้ของที่ส่งมาให้อยู่แล้ว ของเด็กจะไปเอาอะไรกับลูกค้ามากมาย เราก็เอาเท่าที่เขาให้”

พาน้องไปจัดรายการด้วยเป็นอย่างไรบ้าง
“คือแพทติดลูกมาก เราอยู่กันสองคนไม่ได้มีพี่เลี้ยงจะเอาไปไว้กับใครล่ะ แพทก็เลยต้องเอาเขาไปทำงานด้วยทุกวัน งานแค่ชั่วโมงเดียวต่อวันรวมแต่งหน้าทำผมก็เป็นชั่วโมงครึ่ง มันไม่ได้กินเวลานาน ตอนแพทถ่ายรายการน้องก็นั่งอยู่หน้าเซ็ตก็อยู่กับเรา พี่โปรดิวเซอร์และพิธีกรทุกคนแม่ไปทำงานยังไม่ตื่นเต้นเท่าลูกเรามาด้วย ถามหาตลอดลูกเธออยู่ไหน เขาเริ่มชินแล้วนะแต่ก่อนเขาไม่ค่อยเอาใคร ตอนนี้เริ่มพัฒนาการดีขึ้น แพท ไม่ได้เลี้ยงให้เขาติดแพทเพราะเดี๋ยวเราจะทำงานลำบาก เราก็พยายามเลี้ยงให้เขาอยู่กับคนได้ง่ายขึ้น เวลาเราทำงาน เขาอยู่กับคนอื่นได้ไม่งอแง ที่เขาร้องเพราะแอกติ้ง มีท่าประจำ แพทก็หันไปถามน้ำตาล่ะลูก น้ำตาอยู่ไหน เวลาเขาไปทำงานกับเรา คนที่อยู่รอบข้างเขามีความสุขเราก็เลยอยากพาเขาไป ทุกคนอยากเลี้ยงเขาหมดเลย เราแฮปปี้ที่สุด”

ได้อัพเดตพัฒนาการลูกให้เบนซ์ สามีฟังมั้ย
“แพท ก็อัพเดตพัฒนาการของลูกให้พี่เบนซ์ฟังตลอด เราเข้าใจเขาเลย เวลาเราไปเยี่ยมก็จะอธิบายให้ฟังว่าลูกเขาเก่งขนาดไหน เขาก็อยากออกมาเลี้ยงลูกเขาเอง เราก็บอกให้รอก่อน มันก็ต้องมีวันนั้นแหละ อย่าถามว่าเมื่อไหร่แพท ก็ตอบไม่ได้ เขาจะนับวัน เขาจะจำได้รายละเอียดทั้งหมดตั้งแต่วันแรกที่ลูกเขาเกิด เขาจะถามเราว่าครบ 7 เดือนแล้วฉีดวัคซีนหรือยัง ตอนนี้เดินหรือยัง ฟันขึ้นหรือยัง ตามปกติแพทไปเยี่ยมเขาอาทิตย์ละวันมันได้แค่นี้”

เบนซ์ ยืนยันจะไม่เจอน้องในช่วงนี้
“ยังค่ะ เราก็บอกว่าไม่เป็นไร เราก็บอกว่าเราเข้าใจเขานะ เพราะว่าทุกคนเห็นเฮียเรซเขาน่ารัก แล้วเขารู้สึกว่าถ้าเขาเจอลูกแล้วไม่ได้อุ้ม ไม่ได้อยู่ใกล้ๆมันยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยโอเค เราก็บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็ต้องมีวันนั้นแหละ จะช้าหรือเร็วยังไงคุณก็ต้องได้ออกมาเลี้ยงลูกอยู่แล้ว แพท ไม่ได้เอาคลิปลูกให้เขาดู ทำไม่ได้ เอาโทรศัพท์เข้าไม่ได้อยู่แล้ว”

เติมเต็มให้ลูกยังไง
“แพท ก็จะสอนให้เขาเรียก ปะป๊า แพทจะบอกว่ามันเติมกันไม่ได้จริงๆ ถึงแม้ว่าเราให้รูปเขาดูแต่เด็กเขาไม่ได้สัมผัสจากรูป เขาสัมผัสจากการใกล้ชิดว่าใครอุ้มเขา ตอนนี้เขาจำหน้าคนรู้ว่าคนนี้ให้อุ้มได้ แต่กับอีกคนให้อุ้มแค่แป๊บเดียว แล้วเขาก็จะหันหาแม่ เขาเริ่มจำแล้ว”

เบนซ์ กลัวว่าลูกจะจำหน้าตัวเองไม่ได้
“ที่สุด แพทเข้าใจเลย เขาพูดตลอดว่าลูกจะจำหน้าเขาได้มั้ย ลูกจะยอมให้เขาอุ้มมั้ย แพทก็บอกว่าทุกอย่างมันต้องใช้เวลา พอคุณออกมาก็ต้องทำหน้าที่ตรงนี้อยากให้เขาเล่นด้วยก็ต้องทำ ไม่ใช่ว่าเสกปุ๊บจำพ่อให้ได้ลูก”

“ส่วนคดี ณ ตอนนี้แพทยังตอบอะไรไม่ได้เพราะคุณที่ดูแลหลักๆคือฝั่งของคุณแม่และพี่ชายพี่เบนซ์ ส่วนเรามีหน้าที่หลักๆทำงานเลี้ยงลูก แพททำงานเกือบทุกวัน เขาก็คิดว่าให้เราทำงานให้เต็มที่ ส่วนเรื่องนั้นเขาจะดูเอง เราก็ไม่ค่อยได้ถามเท่าไหร่ แพทวิ่งสองบ้านวิ่งมาบ้านแพทเพื่อดูแลแม่ แล้วเวลากลับไปอีกบ้านเวลามันเหลือบกัน เดี๋ยวเขามีอะไรก็คงมาเล่าให้ฟัง”

“มีแนวโน้มทิศทางไหน แพทก็หวังทุกวันว่ามันต้องดีสักวันหนึ่ง ณ ตอนนี้เราก็ทำในสิ่งที่จะต้องทำให้หมดทุกทางไปก่อน แต่บางอย่างมันก็ต้องให้เวลา มันไม่ใช่ว่าแค่ปุ๊บปั๊บแล้วมันต้องเป๊ะๆอย่างที่เราคิด มันมีเวลาของมัน”

เลี้ยงลูกคนเดียวพร้อมกับดูแลคุณแม่
“การมีเขาก็เหมือนมีเพื่อน ทุกวันนี้แพทมีความสุขมากเพิ่งเข้าใจเหมือนกันว่ามันเติมเต็มเป็นแบบนี้นี่เอง หน้าที่แพทเหมือนเดิมดูแลคุณแม่เป็นหลัก ครอบครัวเป็นหลักและเอาเขามาเติมเต็มในส่วนของเราซึ่งมันก็ดีค่ะเวลาไปไหนก็เหมือนมีเพื่อน ถึงเขาจะตอบโต้กับเราไม่ได้ทุกอย่างแต่แพทไม่เคยเหงาเลย เวลาผ่านไปเร็วมาก แป๊บเดียวลูกเรา 7 เดือนแล้วหรอ มีอะไรเข้ามาทุกวันให้เราผ่านมันไปได้”