สงขลาหนุนปลูก “มัลเบอร์รี่” พืชทางเลือกใหม่ มีตลาดรองรับสร้างรายได้งาม 4 หมื่นบาทต่อเดือน

สงขลาหนุนปลูก “มัลเบอร์รี่” พืชทางเลือกใหม่ มีตลาดรองรับสร้างรายได้งาม 4 หมื่นบาทต่อเดือน

วันที่ 1 ก.ย. นายเสกสรร ชูเขียว ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปมัลเบอร์รี่ บ้านป่างาม ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ จ.สงขลาเปิดเผยว่าหลังจากยางราคา 3 กก.ต่อ 100 บาท ตนได้ตัดสินใจโค่นยางพาราทิ้ง หันมาปลูกมัลเบอร์รี่ ซึ่งเป็นพืชที่สามารถสร้างรายได้และมีตลาดรองรับ ตาที่เกษตร อ.จะนะชี้ทางให้ จนประสบความสำเร็จและทำเกษตรแบบผสมผสานตามรอยพ่อหลวง รัชกาลที่ 9

“มีผลผลิตส่งขายได้อย่างต่อเนื่องทุกวัน ในช่วงนี้ได้ทำการตอนกิ่ง มัลเบอร์รี่ส่งขายให้กับเกษตรกรที่สนใจปลูกมัลเบอร์รี่ ใน 3 ราคา คือ กิ่งขนาดเล็ก 100 บาท กิ่งขนาดกลาง 300 บาทและ กิ่งขนาดใหญ่ 500 บาท ซึ่งเป็นรายได้เสริมอย่างงามในแต่ละเดือนที่มีลูกค้าสั่งเข้ามาประมาณ 100 กิ่ง”

นายเสกสรรเปิดเผยว่าเครือข่ายกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปมัลเบอร์รี่ ตลิ่งชันมี สมาชิก 11 คน มีพื้นที่ปลูกประมาณ 30 ไร่ ทุกวันสามารถเก็บมัลเบอร์รี่ขายได้วันละ 10-20 กก.ต่อคน หรือเฉลี่ยเดือนละประมาณ 200 กก. ราคา กก.ละ 200 บาท มีรายได้เฉลี่ย 4 หมื่นบาทต่อเดือน ยังแปรรูปเป็นน้ำมัลเบอร์รี่ขายด้วย

“ผมปลูกมัลเบอร์รี่ 4 ปี เนื่องจากเป็นพืชตัวหนึ่งที่สามารถเพิ่มรายได้เนื่องจากตนเป็นชาวสวนยางอยู่แล้ว อยากที่จะเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง สามารถเก็บผลผลิตได้ประมาณ 10 – 20 กก. ขึ้นอยู่กับลูกค้าสั่ง เฉลี่ยเดือนละ 200 กก.ๆละ 200 บาท เป็นอาชีพเสริมอีกอาชีพหนึ่ง คิดว่าอยู่ได้และสามารถเลี้ยงครอบครัวได้”

ทางด้าน นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการ จ.สงขลาเปิดเผยว่า จ.สงขลาได้เล็งเห็นว่ามัลเบอร์รี่เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของ จ.สงขลา ตลาดรองรับยังกว้าง สนับสนุนงบพัฒนาจังหวัดปี 59 เข้ามาส่งเสริมการปลูกมัลเบอร์รี่ผลสดแซมสวนยาง สวนมัลเบอร์รี่ บ้านป่างาม ต.ตลิ่งชันเป็นแปลงต้นแบบ

ที่มา : มติชนออนไลน์