ก.พาณิชย์ หนุนผู้ค้าในกรุงกู้รายละ 2 หมื่น ปลอดดอก 10 ปี

เมื่อวันที่ 1 กันยายน พล.ต.ท.ชินทัต มีศุข รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะที่ปรึกษาและคณะทำงานร่วมส่งเสริมและพัฒนารูปแบบการค้า เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการในชุมชนและลดภาระค่าครองชีพประชาชน ว่า ที่ประชุมได้หารือแนวทางการสนับสนุนเงินทุนและสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการรายย่อยรายละไม่เกิน 20,000 บาท วงเงิน 100 ล้านบาท ปลอดดอกเบี้ย 10 ปี และมีระยะปลอดหนี้ 3 ปี ทั้งนี้ ได้ประสานกับสถาบันการเงิน สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อให้ผู้ค้ารายย่อยสามารถยกระดับตนเอง สร้างรายได้ที่มั่นคง มีสถานที่ค้าขายที่เป็นหลักแหล่งถูกต้อง และสามารถคืนพื้นที่ให้ กทม. เมื่อครบระยะเวลา 3 ปี ส่วนขั้นตอนพิจารณาหลักเกณฑ์และการอนุมัติสินเชื่อให้เป็นไปตามกระบวนการของสถาบันการเงินผู้ให้สินเชื่อ ตั้งเป้าให้ได้ร้านหนูณิชย์ 5,000 ร้าน จาก 3,800 ร้าน ภายในปี 2560

“กระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือ กทม. สำรวจและคัดเลือกร้านอาหารทั่วไปที่เข้าหลักเกณฑ์มีเมนู 35 บาท เป็นสมาชิกร้านอาหารหนูณิชย์ และหนูณิชย์ ฟู้ดทรัก เพื่อคัดเลือกเป็นหนูณิชย์ติดดาวต่อไป และ กทม. จะร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์จัดหาสถานที่ขายสำหรับผู้ค้าจากจุดผ่อนผันต่างๆ เบื้องต้นจะให้จำหน่ายสินค้าที่บริเวณแยกพงษ์พระราม เขตปทุมวัน” พล.ต.ท.ชินทัต กล่าวและว่า นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะสนับสนุนตลาดในพื้นที่ กทม. ให้เป็นตลาดต้องชม 6 ตลาด ประกอบด้วย 1. ตลาดพระยาสุเรนทร์ เขตคลองสามวา 2. ตลาดสองคลองวัดตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน 3. ตลาดน้ำคลองบางหลวง เขตภาษีเจริญ 4. ตลาดน้ำวัดไทร เขตจอมทอง 5. ตลาดพลู เขตธนบุรี และ 6. ตลาดนางเลิ้ง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย พร้อมจัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าธงฟ้า ร้านอาหารหนูณิชย์ และฟู้ดทรักพรีเมี่ยม ในพื้นที่ชุมชน รวมทั้งจะถ่ายโอนอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ชั่ง ตวง วัด ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ กทม. มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบและดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐาน โดยขณะนี้ได้ดำเนินการนำร่องจัดอบรมไปแล้ว 2 เขต คือ เขตพระนคร และเขตสัมพันธวงศ์

ที่มา มติชนออนไลน์