เผยแพร่ |
---|
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พิจิตร หลังจากเกิดฝนตกชุกในพื้นที่ และน้ำจากจังหวัดตอนบนทั้งจาก จ.สุโขทัยและพิษณุโลก ไหลสะสม ลงมาในพื้นที่ จ.พิจิตร ส่งผลให้แม่น้ำยมเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนล้นตลิ่ง เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่หมู่ 11 บ้านปากคลอง ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร กว่า 60 หลังคาเรือน น้ำสีแดงขุ่น ปริมาณน้ำที่มีจำนวนมากระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการสัญจร เนื่องจากน้ำท่วมเส้นทางในหมู่บ้านจนไม่สามารถใช้งานได้
สำหรับแม่น้ำยมที่เพิ่มระดับสูง จนท่วมบ้านเรือนในพื้นที่หมู่ 11 ตำบลรังนก นับเป็นอุทกภัยที่เกิดขึ้นซ้ำรอบ 2 ในระยะเวลาเพียง 2 เดือน โดยก่อนหน้านี้ แม่น้ำยมประสบปัญหา น้ำล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ลุ่ม พื้นที่ทางการเกษตร สถานการณ์คลี่คลายได้ไม่นาน น้ำก็ท่วมซ้ำอีกครั้งเป็นรอบที่ 2 คาดว่าหากระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้น จะส่งผลกระทบพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดพิจิตร ที่แม่น้ำยมไหลผ่าน ได้แก่ อ.สามง่าม โพธิ์ประทับช้าง บึงนาราง และโพทะเล
นายสุวิทย์ เดชครุฑ นายอำเภอสามง่าม กล่าวว่า หลังจากฝนตกลงมาต่อเนื่องประกอบกับ น้ำป่าจากกำแพงเพชรไหลมาสมทบต่อเนื่องประกอบกับน้ำยมเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ตำบลรังนก หมู่ 11 บ้านปากคลอง 60 หลังคาเรือน ชาวบ้านต้องใช้เรือเป็นพาหนะ ไร่นาส่วนใหญ่ถูกน้ำท่วม แต่เก็บเกี่ยวไปแล้ว 80% ยังคงเหลืออีก 20% ที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว ซึ่งทางอำเภอกำลังเร่งสำรวจความเสียหาย และเร่งประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้คอยเฝ้าระวัง โดยให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน อบต. ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลัน แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่าหมู่ 11 ตำบลรังนก เป็นหมู่ที่ลุ่มต่ำ น้ำท่วมแก้ปัญหาไม่ได้ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว สำหรับปีนี้
ทางด้าน นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ได้สั่งการให้นายอำเภอ ปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทุกแห่ง ในพื้นที่เสี่ยงภัยแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำยม ในพื้นที่ 4 อำเภอ คืออำเภอสามง่าม โพธิ์ประทับช้าง บึงนาราง และอำเภอโพทะเล ให้เฝ้าระวังมวลน้ำเหนือจากจังหวัดสุโขทัย และพิษณุโลก ไหลบ่าลงมา ประกอบกับในพื้นที่มีฝนตกหนักติดต่อกันในระยะนี้อีกทั้งพายุ “เซนกา” จะเข้าภายในวันที่ 25-26 กรกฎาคม ซึ่งอาจทำให้ระดับแม่น้ำยมมีปริมาณเพิ่มขึ้น เกิดล้นตลิ่งท่วมฉับพลันได้ ดังนั้น ได้ประสานชลประทาน เร่งระบายมวลน้ำจากแม่น้ำยม สู่แม่น้ำน่าน ที่คลอง DR-2.8 เพื่อลดระดับความแรงของน้ำยมตอนล่าง ส่วนสถานการณ์น้ำป่าที่ไหลหลากจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ในพื้นที่ตำบลทับคล้อ อำเภอทับคล้อ นั้นสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ระดับเริ่มลดลงบางส่วนแล้ว โดยเฉพาะบนทางหลวงหมายเลข 113 คงเหลือจุดท่วมขังบ้านเรือนประชาชน ในบริเวณชุมชนตลาดใต้ ชุมชนลับแล ชุมชนสวนโพธิ์ 200 หลังคาเรือน ยังมีระดับน้ำท่วมสูง 70-80 เชนติเมตร อย่างไรก็ตาม หากไม่มีฝนตกซ้ำบนเทือกเขาเพชรบูรณ์และตกในพื้นที่อีกคาดว่า 3-4 วัน จะเข้าสู่ภาวะปกติ