แรงงานนวดไทยถูกลอยแพในจีนได้รับการช่วยเหลือแล้ว ปรับ5หมื่นบ. เตรียมส่งตัวกลับ

จากกรณี นางแสงจันทร์ แก้วบุญเรือง อายุ 45 ปี หญิงชาว ต.บ้านเอื้อม อ.เมือง จ.ลำปาง ที่เดินทางไปทำงานร้านนวดในสาธารณรัฐประชาชนจีนกับเพื่อนชาวไทย รวม 10 คน แต่หลังไปทำงานนาน 10 เดือน กลับถูกนายจ้างลอยแพ ไม่สนใจ ทำให้ทุกคนต้องอยู่แต่ในบ้าน โดยไม่ได้ไปไหน เพราะไม่รู้ภาษา และไม่รู้เส้นทางในมณฑลเทียนจิน สาธารณรัฐประชาชนจีน จึงได้แชทไลน์หา นายอนุพงษ์ ตาจินะ หลานชาย ที่ จ.ลำปาง ก่อนที่จะมีการนำเสนอข่าวโด่งดังออกไป โดยที่ทางญาติได้วอนขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย เพื่อพากลับประเทศไทย เนื่องจากห่วงความปลอดภัยของทุกคน เพราะขณะนี้ร้านนวดแห่งนี้ ได้ปิดกิจการลงแล้ว และนายจ้างก็ไม่ยอมนำพาสปอร์ตไปต่ออายุให้ ทำให้ขณะนี้ทุกคนกลายเป็นแรงงานเถื่อน

วันที่ 14 มิถุนายน 2560 สำหรับความคืบหน้าในเรื่องนี้ นายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า หญิงชาว จ.ลำปาง และแรงงานไทยทั้งหมดรวม 10 คน ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว หลังจากที่เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา มีข้อมูลว่า นางแสงจันทร์ หญิงชาว จ.ลำปาง ได้ส่งข้อความเสียงผ่านทางไลน์มาหาญาติอีกครั้ง และบอกว่าลูกน้องของนายจ้างได้มาพาทุกคน ออกจากคอนโดที่พักในมณฑลเทียนจิน เพื่อขึ้นรถไฟไปยังกรุงปักกิ่ง แต่ยังไม่รู้จุดหมายปลายทาง ซึ่งทุกคนหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

โดยข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ทราบว่า ลูกน้องของนายจ้างได้พาทุกคนไปส่งยังสถานีรถไฟปักกิ่ง เพื่อส่งให้กับทางเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงปักกิ่งดำเนินการช่วยเหลือต่อ กระทั่งทาง นายสงบการณ์ มุ้งทอง เลขานุการเอกประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง ได้เดินทางมารับตัวแรงงานไทยทั้งหมดออกจากสถานีรถไฟปักกิ่ง เพื่อไปดูแลที่สถานทูตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ยังกล่าวอีกว่า สำหรับแรงงานไทยที่ได้รับการช่วยเหลือในครั้งนี้ รวม 10 คน เป็นหญิงทั้งหมด โดยเป็นชาว จ.ลำปาง 2 คน จ.เชียงใหม่ 2 คน จ.พะเยา จ.มหาสารคาม จ.นครสวรรค์ จ.ชัยภูมิ และชาวกรุงเทพมหานคร จังหวัดละ 1 คน ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง ยังแจ้งว่า หลังจากพบตัวแรงงานไทยทั้หมดแล้ว หลังจากนี้ ทางการจีนจะปรับค่าพำนักในประเทศแบบผิดกฎหมายคนละ 10,000 หยวน หรือประมาณ 50,000 บาท ส่วนค่าตั๋วเครื่องบิน เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย จะตกคนละประมาณ 12,000 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้น ทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง จะใช้เงินสำรองทางราชการในการดำเนินการช่วยเหลือแบบเร่งด่วน เพื่อพาแรงงานไทยทั้งหมดกลับประเทศก่อนในวันที่ 14 มิถุนายน 2560 จากนั้นทุกคนก็ต้องรับสภาพหนี้ และต้องผ่อนชำระคืนให้ทางราชการต่อไป