ฝ่าวิกฤตมลพิษ! อินเดียตั้งเป้าขายเฉพาะ “รถยนต์ไฟฟ้า” ให้ได้ภายในปี 2030

ขณะที่รัฐบาลสหรัฐ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศถอนตัวจากความตกลงปารีสว่าด้วยการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ข้ามมาฝากฝั่งเอเชีย รัฐบาลอินเดียตั้งเป้าจะขายเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ทั้งหมด ภายในปี 2030 เพื่อลดมลภาวะทางอากาศ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ พร้อมลดการใช้รถยนต์พลังงานน้ำมัน

เป็นที่ทราบกันดีว่าอินเดียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีมลพิษมากที่สุดของโลก  ด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจก่อให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่ๆ ขึ้นมามากมาย พ่วงมาด้วยการปล่อยมลพิษมหาศาล ผู้คนที่อยู่อาศัยในอินเดียกว่า 1,300 ล้านคนกำลังตกอยู่ในความทรมานทางอากาศ

รายงานระบุว่าปัญหามลพิษทางอากาศของอินเดีย เป็นปัจจัยที่มีส่วนทำให้ผู้คนเสียชีวิตกว่า 1.2 ล้านคนต่อปี โดยเเพทย์เคยกล่าวไว้ว่าการสูดอากาศในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดียนั้นเปรียบเสมือนการสูบบุหรี่วันละ 10 มวน

โดยนาย Piyush Goyal  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของอินเดีย เปิดเผยเมื่อเร็วๆนี้ว่า ทางรัฐบาลมีนโยบายช่วยอำนวยความสะดวกให้เเก่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เเละมีจะการเสนองบประมาณอุดหนุนให้บางส่วนเป็นเวลา 2-3 ปี ขณะเดียวกัน รัฐบาลต้องการผลักดันยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเเละไฮบริดให้ได้ 6-7 ล้านคัน ภายในปี 2020

ขณะที่ “เทสลา” บริษัทผู้พัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้ารายใหญ่ของโลก ยังไม่ได้เจาะตลาดอินเดียอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม “อีลอน มัสก์” ซีอีโอเเห่งเทสลาก็มักพูดถึงเเผนการเข้าไปเปิดศูนย์การขายในอินเดียอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเขาเคยบอกว่าอาจเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนปีนี้ เเต่ดูเหมือนว่าแผนดังกล่าวมีอันต้องล่าช้าออกไป

ว่ากันว่า อินเดียกำลังเฝ้ารอการมาถึงของเทสลา เเม้กระทั่งผู้นำด้านการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเจ้าใหญ่ที่สุดของอินเดียอย่าง Mahindra ก็บอกว่ายินดีต้อนรับตลาดเเข่งขันนี้ เพื่อส่งเสริมความเป็นมิตรต่อสิ่งเเวดล้อม

เเผนการจะเพิ่มจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าบนท้องถนนเป็นเพียงหนึ่งวิธีการที่รัฐบาลอินเดียพยายามจะลดปัญหามลพิษทางอากาศ ขณะเดียวกันรัฐบาลก็กำลังดำเนินการผลักดันเพื่อขยายกำลังการผลิตพลังงานเเสงอาทิตย์ไปพร้อมๆกัน ซึ่งนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียได้เเสดงความมุ่งมั่นของเขาในความตกลงปารีสว่าด้วยการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกเพื่อประโยชน์ของคนรุ่นหลัง

ที่มา : India to sell only electric cars by 2030