เริ่มจากเท้าเปล่า ขยันขายทุกวัน ไก่แดงปิ้ง ฟรี แจ่ว-ผักสด กำไรพลิกชีวิต

ควันไฟจากเตาปิ้งบนรถพ่วงข้าง ที่แทรกตัวอยู่ในสวนหย่อมใกล้กับหน่วยงานแห่งหนึ่งริมถนนวิภาวดีขาออก ย่านดินแดง กับ รถแท็กซี่มิเตอร์ จักรยานยนต์ของเหล่าไรเดอร์ แบรนด์ต่างๆ จอดเรียงรายเป็นระเบียบ อาจเป็นภาพคุ้นตาของใครหลายคนที่ขับรถผ่านไปละแวกนั้น

…

“เขามีประท้วงอะไรกันรึเปล่า  ทำไม่รถจอดกันเป็นแถว”

“ไม่มีอะไรหรอก เขาจอดกินไก่ปิ้งกัน”

นั่นคือบทสนทนาที่ชักพาให้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ เดินทางไปพูดคุยกับเจ้าของกิจการต้นเรื่อง

…

“ขายดีที่สุด คือ ตูดไก่ ค่ะ ” คุณกุ้ง-สมสวย ทับทิมใส เจ้าของกิจการวัยสี่สิบปลาย เริ่มต้นบทสนทนากับ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ด้วยอัธยาศัยยิ้มแย้ม

ด้วยสำเนียงและลีลาการพูดดูมีเอกลักษณ์ จึงถามไถ่ถึงบ้านเกิด คุณกุ้ง เล่าด้วยเสียงหม่นเล็กน้อย

“บ้านเดิมอยู่บุรีรัมย์ สมัยก่อนทำนาอย่างเดียว แต่มันค่อนข้างแล้ง เลยเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ ตั้งแต่สาวๆ เข้ากรุงเทพฯ มา ตอนนั้นรองเท้าไม่มีใส่เลยนะ ไปหาเพื่อนอยู่แถวปทุมฯ เขาเลยซื้อรองเท้าให้ใส่”

ทำงานเป็นลูกจ้างอยู่หลายที่ กระทั่งไปได้งานในโรงปักแถวเจริญนคร จังหวะชีวิตช่วงนี้เอง ที่ทำให้เธอได้เจอกับสามีคู่ชีวิต

คุณกุ้ง ย้อนความทรงจำให้ฟัง พอมีลูกคนที่ 2 เลยออกจากที่ทำงาน ให้แฟนมาขายของก่อน เขาก็ออกจากที่ทำงานแถวมหาชัย แล้วมาขายหมูทอด เนื้อทอด อยู่แถวประตูน้ำอินทรา ทำได้ไม่นานโดนไล่ที่ เลยย้ายไปขายแถวถนนรัชดาภิเษก ทำได้ไม่นานก็โดนไล่อีก ก่อนจะมาได้ทำเลค้าขายล่าสุด ที่ทำอยู่ทุกวันนี้

“ขายตรงนี้มาประมาณ 15 ปีแล้ว ตอนแรกเป็นที่น้องสาว แต่เขาไปทำโรงน้ำที่เพชรบูรณ์ เลยให้เรามาขายแทน” คุณกุ้ง บอกมาอย่างนั้น

แล้วทำไมต้องเป็นไก่แดงปิ้ง เธอยิ้มน้อยๆ ก่อนเผย

“มีคนบ้านเดียวกันเขาขายก่อน เขาฮิตกัน เขามาเราก็มาตามเขา”

เมื่อถามว่า รู้ไหมหลายคนยกให้ร้านเราเป็น ของกินริมทาง ขวัญใจเหล่าไรเดอร์ คุณกุ้ง หัวเราะร่วน ก่อนพยักหน้า

“พอได้ๆ ถามว่าเพราะอะไร น่าจะเพราะร้านเรามีผัก มีน้ำพริก ให้กินฟรี นี่แหละ”

ตูดไก่ เมนูไฮไลต์ วันละ 13 กิโล ขายหมดทุกวัน

มีแจ่ว มีผัก ให้ฟรี บริการนี่เริ่มมาตั้งแต่เมื่อไหร่ คุณกุ้ง บอก ทำแบบนี้มาตั้งแต่ต้น ประมาณ 15 ปีก่อน ผักสด เปลี่ยนไปตามฤดูกาล ส่วนแจ่ว มี 2 แบบคือ ปลาร้าสับ กับ น้ำพริกสดคั่วใส่ปลาร้า

นึกสงสัยขายไม้ละ 10 บาท มีทั้งผัก ทั้งแจ่ว ให้แบบไม่อั้น อย่างนี้จะมีกำไรเหลือหรือ เจ้าของร้านท่านเดิม ยิ้มกว้าง ก่อนบอก แรกๆ ได้เยอะอยู่ เพราะต้นทุนของถูก แต่ทุกวันนี้ของมันแพง กำไรก็ยังได้ แต่อาจได้น้อย อาศัยขายเยอะเอาจำนวน เพราะทั้งตัวเองกับแฟน ก็อายุเยอะแล้ว ไม่รู้ไปทำอะไรกิน

นอกจาก “ตูดไก่ปิ้ง” ที่เป็นไฮไลต์แล้ว ยังมีอะไรบ้าง คุณกุ้ง แจงให้ฟัง

“มี ไส้อั่ว มีแหนมหมู แหนมปลา มีปลาดุก แล้วก็มีหนังไก่ เนื้อไก่ ตับ กึ๋น ที่มีหลากหลาย เพราะอยากให้ลูกค้าได้เลือกเยอะๆ เลยเอามาอย่างละนิดละหน่อย 10 โล 5 โล ประมาณนี้ ส่วนตูดไก่ ลงเยอะสุด วันละ 13 โล”

กระซิบถามถึงสูตรหมักไก่ คุณกุ้ง เผย ใส่เกลือ ใส่น้ำตาล นี่แหละ ใส่อย่าหวานมาก อย่าเค็มมาก ส่วนสีสัน ได้มาจากซีอิ๊วดำกับสีผสมอาหาร

“ภารกิจทุกวันนี้ ตื่นเช้าตี 5 นึ่งข้าว นึ่งข้าวเสร็จ ปั่นน้ำพริก หั่นผัก ส่วนแฟน ย่างไก่อยู่นอกบ้าน หนูจะอยู่ข้างในบ้าน เขาจะย่างไก่ ตี 5 ยกไก่มาย่างแล้ว สายๆ ก็มาตั้งร้านแล้ว ขายทุกวันไม่มีวันหยุด แล้วก็หมดทุกวันค่ะ” คุณกุ้ง บอกอย่างนั้น ด้วยสีหน้าภูมิใจ

ก่อนลากันไป ขออนุญาต ถามไถ่ อาชีพนี้ให้อะไรกับเธอและครอบครัวบ้าง คุณกุ้ง ตอบเสียงดังฟังชัด น่าภูมิใจแทน

“ได้ส่งเสียลูก 2 คน จนเรียนจบ ได้ต่อเติมบ้านให้พ่อแม่ ได้รถไถ ได้ซื้อนาจากพี่น้องที่เขาแบ่งขายนิดๆ หน่อยๆ ได้พอไว้ให้ลูก”

พิกัด ร้านไก่แดงปิ้ง-แจ่วฟรี ของคุณกุ้ง อยู่ริมถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งขาออก ใกล้กับวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล เริ่มขายประมาณ 10 โมงเช้า จนกว่าของจะหมด ไม่มีวันหยุด