วันที่ 3 มี.ค. นางคำปอง เหลาคำ อายุ 66 ปี เดินทางเข้าพบร.ต.อ.สุริยา ผลชู รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อแจ้งความว่าลืมกระเป๋าสะพายสีดำไว้ในรถแท็กซี่ ภายในมีสร้อยคอทองคำหนัก 14 บาท และเงินสด 5,000 บาท หลังเรียกใช้บริการให้ไปส่งที่หมู่บ้านกฤดานคร 19 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงเดินทางมาแจ้งความดังกล่าว

ต่อมาพ.ต.อ.สามารถ ศรีสิริวิบลูย์ชัย รรท.ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.นิมิตร นูโพนทอง รอง ผกก.สส.สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งว่ามีคนขับรถแท็กซี่มาตามหาคุณป้าที่ลืมกระเป๋าสะพายไว้ที่หมู่บ้านกฤดานคร 19 จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.คลองหลวง ให้ไปรับตัวมา

จากการสอบถามนางคำปอง บอกว่าตนได้นั่งรถแท็กซี่มาจากตลาดรังสิต หลังจากกลับมาจากหาหมอที่โรงพยาบาลประชาธิปัตย์ และได้ให้รถแท็กซี่มาส่งที่หมู่บ้านกฤดานคร 19 เมื่อถึงบ้านก็ได้ลงจากรถทันทีโดยไม่ได้นำกระเป๋าสะพายลงมาด้วย แต่เมื่อตนนึกขึ้นได้ว่าลืมกระเป๋าสะพายไว้จึงได้มาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ด้านนายสมศักดิ์ แก้วสอนดี อายุ 47 ปี โชเฟอร์แท็กซี่โตโยต้า สีเขียว หมายเลขะเบียน มช 8541 กรุงเพมหานคร บอกว่า หลังตนไปส่งคุณป้าแล้ว ก็ขับรถไปรับผู้โดยสารไปส่งที่ตลาดสำโรง แต่ระหว่างขับรถอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงกระเป๋าสะพายหล่นลงมาอยู่ที่วางเท้า ซึ่งตนก็เข้าใจว่าเป็นของคุณป้าที่พาไปส่งในหมู่บ้านนครกฤษดา 19 แน่นอน ตนจึงได้รีบเอามาให้คุณป้าที่บ้าน โดยที่ไม่ได้เปิดออกดูว่าภาพในกระเป๋าสะพายมีของมีค่าหรือไม่เพราะเป็นการไม่เหมาะสม ในใจคิดแต่เพียงว่าคุณป้ามาหาหมอ ต้องได้รับประทานยาเพียงเท่านั้น จึงได้ขับรถมาที่หมู่บ้านกฤษดานคร 19 อีกครั้ง แล้วพบกับน้องสาวของคุณป้า จึงได้ทราบว่าคุณป้ามาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่สภ. คลองหลวง ก่อนจะมีตำรวจมาตามให้ไปที่โรงพัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังทั้ง 2 คน พบกัน จึงได้เปิดกระเป๋าดูก็พบว่าทรัพย์สินยังอยู่ครบ ไม่มีสิ่งใดสูญหาย ซึ่งนางคำปองได้กล่าวขอบคุณและดีใจมากที่ในสังคมไทยปัจจุบันนี้ยังมีรถแท็กซี่และคนน้ำใจงามอย่างนายสมศักดิ์ อยู่อีกหนึ่งคน