เข้าใจหัวอก คนไม่มีทุน อิ่มปัง ใจดี เปิดโอกาสให้คนอยากมีอาชีพ

ขนมปัง หรือเบเกอรี่ชนิดต่างๆ เป็นสินค้าที่พบเห็นได้ทั่วไปตามท้องตลาด ส่วนมาก พ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้าเหล่านี้จะไม่ได้เป็นคนผลิตขนมขึ้นมาเองแต่มักไปซื้อมาจากโรงงานที่ผลิตในปริมาณมากแล้วนำมาขายต่อโดยที่พวกเขาก็ต้องแบกรับความเสี่ยงที่จะเสียต้นทุนสำหรับต่อยอดธุรกิจไปหาก ขายไม่หมด

กิจการ ‘อิ่มปัง’ ซึ่งมีหน้าร้านและครัวผลิตอยู่ที่ อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี มองเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้ออกแบบ “โมเดลธุรกิจ” ขายส่งในรูปแบบที่แตกต่าง โดย ให้พ่อค้าแม่ค้าที่เพิ่งเริ่มต้นกับ ‘อิ่มปัง’ ในครั้งแรกและไม่มีเงินทุน เปิดรับออร์เดอร์ก่อน แล้วมารับขนมไปขายก่อนแล้วค่อยมาจ่ายค่าต้นทุนทีหลัง

แต่ก่อนที่จะลงรายละเอียดถึงแนวคิดในการทำธุรกิจของร้านนี้ มาทำความรู้จักกับจุดเริ่มต้นของ ‘อิ่มปัง’ กันก่อน ผู้ก่อตั้งธุรกิจนี้ คือ 2 อดีตเชฟจากโรงแรมชื่อดังในพัทยา คือ คุณน็อต-บดินทร์ บุญรอด และ คุณเบสท์-วรรณฤดี โชติกันตะ ที่ต้องการมองหารายได้เสริมหลังเลิกงาน จึงเริ่มใช้ทักษะการเข้าครัวที่มีทำสินค้าขายเอง

คุณเบสท์ เล่าว่า ช่วงแรกๆ ยังไม่ได้ทำขนมขาย แต่ทำขนมจีบขาย ส่งให้กับลูกค้าที่เป็นบริษัทแคเทอริ่ง สำหรับใช้ออกงานอีเวนต์ต่างๆ อยู่มาวันหนึ่ง เขาสอบถามว่าสามารถทำแนวเบเกอรี่ให้ได้ไหม จึงบอกไปตามตรง “ทำได้แต่ไม่มีอุปกรณ์” รบกวนให้ช่วยจ่ายค่ามัดจำก่อนครึ่งหนึ่งก่อน เพื่อจะได้ไปซื้ออุปกรณ์มาเริ่มต้น

และด้วยความที่เคยค้าขายด้วยกันมานาน ลูกค้าดังกล่าว จึงเชื่อใจ และโอนเงินมาให้ก่อนตามที่ขอไป และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของขนมสูตรแรกของ ‘อิ่มปัง’

ที่เรียกว่า “สูตรแรก” เพราะเป็นการทำขนมขายครั้งแรกของทั้ง 2 คน เนื่องจากงานที่เคยทำที่โรงแรม ต่างประจำในส่วนของครัวร้อนและครัวเย็น แต่ที่สามารถทำขนมออกมาได้ เพราะเคยศึกษาจากเชฟเบเกอรี่ที่เป็นเหมือนอาจารย์ ให้คำปรึกษาตลอด

อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้ง 2 คน ไม่ได้เริ่มทักษะที่ศูนย์ เนื่องจากเรียนจบจาก วิทยาลัยดุสิตธานี ทั้งคู่ จึงทำให้มีพื้นฐานและมีสูตรการทำ ที่สามารถนำไปผสมผสานกันได้

นอกจากจะเป็นการทำขนมขายครั้งแรกแล้ว ความท้าทายที่ทั้งคู่เผชิญในครั้งนั้นคือ การผลิตให้ทัน 10,000 กล่องภายใน 1 สัปดาห์

ประเด็นนี้ คุณน็อต ช่วยเล่าว่า เป็นช่วงที่เหนื่อยพอสมควร ตอนนั้นเช่าห้องแถวในพัทยาเพื่อทำขนม ตั้งโต๊ะไว้วางกล่อง นำเตาอบไปไว้หน้าบ้าน ทำกันแบบโฮมเมด นวดแป้งเอง ตีไข่เอง ซึ่งคุณเบสท์ เมื่อเลิกจากภารกิจงานประจำ ก็ต้องหาซื้อวัตถุดิบมาทำต่อ ส่วนตัวเขาก็ช่วยลุยทำเต็มตัว ในฐานะหุ้นส่วนชีวิตและธุรกิจ

สำหรับขนมตัวแรกๆ ที่ทยอยทำออกมานั้น ได้แก่ ชิฟฟอนเค้กมะพร้าวอ่อน แต่หน้าตาต่างจากที่เห็นทั่วไป ที่มักทำเป็นทรงสามเหลี่ยม แต่เขาทำเป็นทรงสี่เหลี่ยม 4 ชิ้นเล็กๆ พอดีคำแล้วใส่กล่อง 4 ช่อง เป็นดีไซน์ตอบโจทย์กับขนมจัดเบรกเพราะเป็นชิ้นเล็กๆ กินง่าย ถ้าทานไม่หมดเก็บกลับบ้านได้ สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทุกกลุ่ม

เมื่อออร์เดอร์ใหญ่ครั้งแรกผ่านไปด้วยดี จึงมีออร์เดอร์ใหม่ทยอยเข้ามาเรื่อยๆ ทั้ง 2 คน จึงเริ่มวางแผนที่จะลงทุนขยายทั้งอุปกรณ์และชนิดสินค้า ซื้อเครื่องนวดแป้ง ลงทุนกับวัตถุดิบเพิ่มขึ้น แล้วช่วงนั้นมีขายในตลาดนัดด้วย เปิดแผงด้วย ขายส่งด้วย ลูกค้าเริ่มถามมีหน้าร้านอยู่ที่ไหน จึงตัดสินใจเปิดเป็นหน้าร้าน เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าพร้อมกับทำให้มีขนมหลากหลายขึ้น

กระทั่งมาได้ตึกแถวที่อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี ที่ขับรถจากพัทยามาถึงใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

คุณน็อต บอกอีกว่า เลือกทำเลหน้าร้านที่อำเภอพานทอง เพราะอยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรมกับตลาด พ่อค้าแม่ค้าหรือพนักงานโรงงานแถวนั้นจะได้มารับขนมจากเราได้สะดวก หรือพ่อค้าแม่ค้าที่อยู่อำเภอพนมสารคาม จังหวัดปราจีนบุรี หรือพื้นที่รอบๆ สามารถมารับของไปขายได้ง่าย ด้วยความที่บางคนอาจมีต้นทุนน้อยหรือไม่มีทุนตั้งต้นเลย พวกเขาจึงออกแบบโมเดลการขายแบบที่สะดวกลูกค้ารายใหม่

คือ ใช้วิธีมารับขนมจากเราไปขายตามจำนวนออร์เดอร์ที่พวกเขาได้มา ยังไม่ต้องจ่ายต้นทุน ส่วนพวกเขาจะเอาไปบวกกำไรเท่าไหร่ก็แล้วแต่ แค่จ่ายทุนคืนมาก็พอ แต่จะมีทำสัญญาด้วยเหมือนกัน ว่าเขาจะต้องคืนต้นทุนภายในกี่วัน เป็นเหมือนระบบเครดิตให้เขา หรืออาจเป็นกลุ่มพนักงานโรงงาน ที่ต้องการหารายได้เสริม สามารถเปิดรับออร์เดอร์จากเพื่อนๆ แล้วมารับไปขาย

“ดีใจที่ช่วยสร้างโอกาสสร้างรายได้ให้พวกเขา ที่ผ่านมา จึงพยายามเพิ่มขนมที่หลากหลายให้พ่อค้าแม่ค้าไปขาย จะได้เพิ่มโอกาสทำเงินมากขึ้นด้วย เพราะคนทานคงไม่ชอบของเดิมๆ ถ้ามีตัวเลือกเยอะ คนทานก็จะสนใจสินค้ามากขึ้น” คุณน็อต กล่าว

และว่า

“ผมโตมากับตลาดนัดบ้านๆ คลุกคลีพ่อค้าแม่ค้า จึงทราบดี พวกเขาหลายคนต้องกู้เงินเพื่อซื้อของมาขาย ขายได้กำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง เป็นธรรมดา แต่เป็นอาหารหรือขนม ยิ่งลำบาก ถ้าขายไม่หมดต้องทิ้งบ้างแจกบ้าง จากกำไรขายของน้อยอยู่แล้ว อาจติดลบไปอีก”

“ช่วงที่พวกเราเพิ่งเริ่มทำธุรกิจ เคยมีเงินเหลือกินข้าวแค่ 100 บาท เพราะต้องเก็บเงินไว้ซื้อวัตถุดิบ จึงเข้าใจหัวอกคนรายได้น้อย ทำให้ทุกวันนี้พวกเราตั้งใจขายขนมที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือในราคาเอื้อมถึงได้ และสร้างโมเดลธุรกิจที่ช่วยให้เปิดทางให้ใครหลายคนทำอาชีพได้ด้วย” คุณน็อต บอกอย่างนั้น

สนใจชิมรสชาติหรือรับขนมของ ‘อิ่มปัง’ ไปขายต่อ เพื่อหารายได้เสริมจากงานประจำหรือต้องการสร้างเป็นอาชีพที่มั่นคง ติดต่อได้ที่ www.facebook.com/the.aimpang โดยมีขนมให้เลือกหลากหลาย อาทิ ชิฟฟอนเค้กมะพร้าวอ่อน ขนมปังนมฮอกไกโดหลายรสชาติ รวมทั้งขนมเค้ก ที่สั่งทำพิเศษตามออร์เดอร์

 

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ 18 กันยายน 2023