โมเดิร์นเทรด รุกขยายสาขา กระทบ SMEs จำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เผชิญการแข่งขันสูง

โมเดิร์นเทรด รุกขยายสาขา กระทบ SMEs จำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เผชิญการแข่งขันสูง
โมเดิร์นเทรด รุกขยายสาขา กระทบ SMEs จำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เผชิญการแข่งขันสูง

โมเดิร์นเทรด รุกขยายสาขา กระทบ SMEs จำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เผชิญการแข่งขันสูง

การแข่งขันของธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้างในปี 2566 เข้มข้นขึ้น เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดที่ยังเติบโตได้จำกัด โดยเฉพาะกำลังซื้อของเศรษฐกิจฐานรากในภาคเกษตรกรรมซึ่งคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญต่อเนื่องจนถึงปีหน้า

กอปรกับการขยายสาขาของผู้เล่นโมเดิร์นเทรดรายใหญ่ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่รองรับการเติบโตของเมืองและการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ ทำให้ผู้ประกอบการ SMEs ที่มีสายป่านสั้นกว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ และมีศักยภาพในการปรับตัวน้อยกว่า ต้องเผชิญกับทั้งการแข่งขันด้านราคา การบริหารจัดการต้นทุนที่ยังยืนตัวสูง

ซึ่งอาจทำให้ SMEs มีความสามารถในการทำกำไรลดลงและสูญเสียความสามารถการแข่งขันในระยะยาว ในขณะที่รายได้รวมทั้งปีของกลุ่มโมเดิร์นเทรดน่าจะยังเติบโตได้ แต่ชะลอลงจากปีก่อนตามแนวโน้มกำลังซื้อที่ยังเปราะบาง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ยอดขายรวมของธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ปี 2566 อยู่ที่ราว 1.07 ล้านล้านบาท เติบโต 1.8% (YoY) ชะลอลงจากปีก่อน เนื่องจากราคาสินค้าหลักอย่างเหล็กมีแนวโน้มลดลง และความต้องการใช้ที่อาจโตไม่มากนัก สอดคล้องกับมูลค่าการลงทุนก่อสร้างที่เติบโตต่ำ ขณะเดียวกัน ยังต้องติดตามทิศทางการจัดตั้งรัฐบาลและแนวนโยบายที่จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนโดยรวม

มองไปข้างหน้า ธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้างยังมีโจทย์ท้าทายเฉพาะหน้าเรื่องต้นทุนสินค้าที่คาดว่าจะปรับฐานสูงขึ้นตามต้นทุนในการปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อความยั่งยืนและต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น ทั้งค่าขนส่ง แนวโน้มค่าแรงขั้นต่ำที่อาจขยับขึ้น ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญของผู้ประกอบการ และยังมีอัตราค่าไฟฟ้าภาคธุรกิจที่ยังยืนสูง นอกจากนี้ ธุรกิจยังมีความท้าทายในระยะยาวตามเทรนด์ด้านสิ่งแวดล้อมและด้านเทคโนโลยี ซึ่งจะมีผลต่อต้นทุนในการปรับตัวของธุรกิจในอนาคต