ผู้เขียน | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
ม.รังสิต เปิดโอกาสสู่อาชีพ แพทย์แผนไทย โดยไม่จำกัดอายุ-การศึกษา
อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ถูกก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2545 โดยเป็นวิสัยทัศน์ของ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยรังสิต ปัจจุบันได้รับการสานต่อมาถึง ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ อธิการบดีคนปัจจุบัน
โดยนับตั้งแต่การเกิดโรคระบาดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ได้มีความชัดเจนมากว่าภูมิปัญญาของโลกตะวันออกได้มีความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะการพึ่งพาตัวเองด้วยสมุนไพรได้มาก โดยการแพทย์แผนตะวันออกที่ได้รับความสนใจและมีงานวิจัยที่พัฒนาเพิ่มขึ้นในเวทีโลกทั้งการแพทย์แผนจีน การแพทย์อายุรเวทอินเดีย โดยเฉพาะในประเทศไทย ทั้งการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ หมอพื้นบ้าน รวมถึงการพึ่งพาตัวเองของชาวบ้านด้วยสมุนไพรได้มีบทบาทมากขึ้นเป็นลำดับ
จากข้อมูลของ Euromonitor พบว่า การค้าปลีกผลิตภัณฑ์สมุนไพรทั่วโลกในปี พ.ศ. 2564 มีมูลค่า 54,960 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.9 ล้านล้านบาท) โดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีมูลค่าการค้าปลีกผลิตภัณฑ์สมุนไพรสูงที่สุด เป็นอันดับ 1 มีมูลค่าสูงถึง 31,930 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท)
ตลาดของผลิตภัณฑ์สมุนไพรในประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2564 มีมูลค่าสูงถึง 45,640 ล้านบาท นอกจากนั้น ประเทศไทยมีการ “ส่งออกวัตถุดิบสมุนไพรคุณภาพและผลิตภัณฑ์สมุนไพร” เป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 12,211 ล้านบาท และกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าในปี พ.ศ. 2569 มูลค่าตลาดสมุนไพรในประเทศไทยจะมีมูลค่ามากถึง 59,500 ล้านบาท
โดยเฉพาะตลาดผลิตภัณฑ์กัญชา กัญชง นั้น สมาคมสหอุตสาหกรรมพืชกัญชงและกัญชาเพียงสมาคมเดียว ซึ่งมีผู้ประกอบการรวมตัวกัน 20 แห่ง มีการลงทุนไปแล้วกว่า 10,000 ล้านบาท และยังมีสมาคมที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการอีกหลายแห่งที่เดินหน้าในการลงทุนเรื่องกัญชา กัญชง ไปแล้วอีกจำนวนมาก
และเนื่องจากทิศทางตลาดกัญชา กัญชง ได้มีการยอมรับการใช้ทางการแพทย์มากขึ้น บทบาทของผู้ที่จะจ่ายยากัญชาในหมู่แพทย์แผนปัจจุบันที่บูรณาการภูมิปัญญาสมุนไพรอยู่ในวงจำกัดเพียงไม่กี่คน โดยการจ่ายยากัญชาทางการแพทย์ในระบบสาธารณสุขที่ผ่านมาในประเทศไทยจึงกลายเป็นบทบาทของการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ หมอพื้นบ้าน การแพทย์แผนจีน ให้กับประชาชนในประเทศไทยมากที่สุด
ด้วยสถานการณ์ที่มีความต้องการแพทย์แผนตะวันออกมากขึ้น วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ได้เปิดรับนักศึกษาใหม่ หลายหลักสูตร ดังนี้
หลักสูตรแรก หลักสูตรปริญญาตรี การแพทย์แผนจีนบัณฑิต เรียนควบ 2 ปริญญาบัตร โดยเรียนที่มหาวิทยาลัยรังสิต 3.5 ปีการศึกษา และไปเรียนที่มหาวิทยาลัยนานกิง สาธารณรัฐประชาชนจีน อีกประมาณ 2.5 ปีการศึกษา เมื่อจบแล้วได้ปริญญาบัตร 2 ใบ คือ ของมหาวิทยาลัยรังสิต และมหาวิทยาลัยนานกิง ซึ่งมหาวิทยาลัยนานกิงเป็นมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนที่มีชื่อเสียงติดอันดับต้นๆ ของจีน
หลักสูตรที่สอง หลักสูตรปริญญาตรี การแพทย์แผนไทยบัณฑิต 4 ปี เมื่อจบแล้วสามารถสอบใบประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยของสภาการแพทย์แผนไทยได้
ความน่าสนใจคือ ผลการสอบใบประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยของนักศึกษาที่เรียนจาก วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ของมหาวิทยาลัยรังสิต ปี 2565 ปรากฏว่าอัตราการสอบผ่านการสอบของสภาการแพทย์แผนไทยในระดับสูง กล่าวคือ การนวดไทยสอบผ่าน 100%, ผดุงครรภ์ไทยอัตราการสอบผ่าน 94.17%, เวชกรรมไทยอัตราการสอบผ่าน 86.8%, เภสัชกรรมไทยอัตราการสอบผ่าน 84.62% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการสอบผ่านอยู่ในระดับสูง
นอกจากหลักสูตรดังกล่าวจะมีโอกาสได้รับสอบได้รับใบประกอบวิชาชีพในระดับที่สูงแล้ว ยังได้เรียนการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกัญชาศาสตร์ทางการแพทย์ เป็นแหล่งฝึกประสบการณ์วิชาชีพการแพทย์แผนไทย และยังมีครูบาอาจารย์แพทย์แผนไทย ซึ่งเป็นทายาทที่สามารถสืบทอดราชสกุลหมอหลวงคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ในประเทศไทย เป็นผู้บริหารในหลักสูตรการแพทย์แผนไทยอีกด้วย
เมื่อจบการศึกษาและสอบใบประกอบวิชาชีพได้แล้ว สามารถเป็นแพทย์แผนไทยในโรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาลเอกชน และคลินิกแพทย์แผนไทย หรือเปิดสถานพยาบาลด้านการแพทย์แผนไทย (คลินิก) ของตนเอง หรือทำงานในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (สปา นวดเพื่อสุขภาพ) หรือเป็นเภสัชกรแผนไทย ประจำร้านขายยา และโรงงานผลิตยาสมุนไพร
หรือเป็นผู้ประกอบธุรกิจการผลิตตำรับยาแผนไทย/แผนโบราณ และผลิตภัณฑ์สุขภาพในระดับอุตสาหกรรม หรือเป็นนักวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร ซึ่งรวมถึง ยาแผนไทย อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์สุขภาพ เครื่องสำอาง
หลักสูตรที่สาม หลักสูตรปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาการแพทย์แผนตะวันออก หลักสูตรนี้ยังคงได้รับสิทธิในการสอบใบประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย (ประเภท ก.)
แต่จุดเด่นของหลักสูตรนี้คือ มุ่งเน้น “นวัตกรรมสมุนไพรสร้างเศรษฐกิจ” โดยศึกษาเทคโนโลยีสมุนไพรสำหรับการสร้างนวัตกรรมสมุนไพรเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจบนพื้นฐานความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและตลาดโลก โดยการบูรณาการองค์ความรู้เทคโนโลยีสมุนไพรและนำไปพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาสมุนไพรไทยที่มีความหลากหลาย และภูมิปัญญาการแพทย์แผนตะวันออก รวมถึงกัญชาศาสตร์ทางการแพทย์เพื่อให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลอันจะส่งผลให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจที่อิงกับจุดแข็งของประเทศไทย
และ หลักสูตรที่สี่ คือ หลักสูตรที่เปิดสำหรับทุกคน ไม่จำกัดอายุหรือระดับการศึกษาคือ การเรียนหลักสูตรแพทย์แผนไทย ประเภท ก. ของมหาวิทยาลัยรังสิต เรียนเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ เป็นเวลา 3 ปี แม้จะไม่ได้ปริญญาบัตรใดๆ แต่ได้สิทธิในการสอบใบประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ซึ่งจะได้เรียนจากการใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ คลินิกในระดับอุดมศึกษาที่ได้มาตรฐานสูง
เมื่อได้ใบประกอบวิชาชีพแล้วสามารถเป็นแพทย์แผนไทยได้ เปิดคลินิกการแพทย์แผนไทยให้การรักษาผู้ป่วยได้ เปิดร้านขายยาสมุนไพรได้ ซึ่งก็จะได้เรียนในเรื่องกัญชาด้วยเช่นกัน ซึ่งปรากฏว่าผู้ที่เรียนจบหลักสูตร มีอัตราการสอบได้ใบประกอบวิชาชีพสูงกว่าโรงเรียนการแพทย์แผนไทยทั่วไปอีกด้วย
ตัวอย่างเช่น ในปี 2566 มีผู้สอบผ่านใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมแผนไทยภาคทฤษฎีประเภท ก. (เพื่อเป็นหมอแผนไทย) ทั่วประเทศสอบผ่านประมาณ 45% แต่ผู้ที่เรียนหลักสูตรนี้รุ่นที่ 2 ของมหาวิทยาลัยรังสิต (รุ่นล่าสุด) มีอัตราการสอบผ่านใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมแผนไทยสูงถึง 73% อันสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพการเรียนการสอนการแพทย์แผนไทยที่ได้มาตรฐานกว่าค่าเฉลี่ย
นอกจากนั้น วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออกยังเปิดรับการเรียนปริญญโท วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการแพทย์แผนตะวันออก 2 ปี เรียนเฉพาะเสาร์และอาทิตย์ มีวิชาเลือก 6 แขนง ได้แก่ ด้านการพัฒนาการรักษาโรค, ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร, ด้านการประเมินความปลอดภัยและประสิทธิผล, ด้านการประเมินคุณภาพ, ด้านการควบคุมการผลิตและการค้าผลิตภัณฑ์สมุนไพร, ด้านสุขภาพและความงาม
ท่านใดสนใจสามารถติดต่อได้ที่เว็บไซต์วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต หรือติดต่อที่หมายเลขโทรศัพท์ 089-770-5862 หรือ Line เพิ่มเพื่อนแล้วพิมพ์คำว่า @188rzbsz หรือ inbox ที่เพจ วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต https://www.facebook.com/orientalmedrsu/