เพิ่มค่า “สำรับครอบครัว” ผ่านวัฒนธรรม อาจกลายเป็นขุมทอง สร้างรายได้

เพิ่มค่า “สำรับครอบครัว” ผ่านวัฒนธรรม อาจกลายเป็นขุมทอง สร้างรายได้

ผศ.ดร.อภิลักษณ์ เกษมผลกูล อาจารย์ประจำสาขาวิชาภาษาไทย คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้รับผิดชอบรายวิชา “คติชนวิทยา” (Folklore) ของสาขาวิชาภาษาไทย ที่ว่าด้วยการศึกษาวัฒนธรรมจากรากเหง้า ต่อยอดสู่รายวิชา “อาหารและวัฒนธรรม” ที่เปิดกว้างให้นักศึกษาระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยมหิดลจากทุกคณะ

ได้มีโอกาสลงทะเบียนเรียนร่วมกัน พร้อมขยายผลสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) ให้ประชาชนทั่วไปได้ศึกษาด้วยตัวเองผ่านช่องทางออนไลน์ MUx ของมหาวิทยาลัยมหิดลในอนาคต

เนื้อหาที่น่าสนใจของรายวิชาฯ ได้แก่ การบอกเล่าถึงที่มาของอาหารไทย ซึ่งอาจไม่ได้มาจากวัฒนธรรมไทยโดยตรง แต่เกิดจากการประยุกต์ดัดแปลงจนกลายมาเป็นอาหารไทย และเป็นที่นิยมจวบจนปัจจุบัน อาทิ ขนมที่น้อยคนนักจะทราบว่ามาจากวัฒนธรรมมลายู อย่าง ขนมชั้น ขนมสังขยา

ผศ.ดร.อภิลักษณ์ เกษมผลกูล

และการเปิดโอกาสให้นักศึกษาในชั้นเรียน รู้จักกับอาหารไทยที่มีชื่อเรียกจากการสังเกตสิ่งรอบตัว อาทิ ขนมถั่วแปบ ที่มีชื่อเรียกจากการทำให้ขนมมีรูปร่างคล้ายฝักถั่วแปบ และขนมกลีบลำดวน ที่มีชื่อและลักษณะตามดอกลำดวน เป็นต้น

เสน่ห์ของรายวิชา “อาหารและวัฒนธรรม” ที่ทำให้ได้รับความสนใจจากผู้เรียนอยู่ที่ การเปิดกว้างทางความคิดโดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้กลับไปลองรวบรวมสำรับอาหารของที่บ้านมาแลกเปลี่ยน “เคล็ดลับความอร่อย” กันในชั้นเรียน

รวมทั้งได้มีการเปิดมุมมองทางด้านอาหารที่เรียนรู้และเชื่อมโยงกับศาสตร์ด้านต่างๆ ตามความถนัดของนักศึกษาจากแต่ละคณะ อาทิ นักศึกษาจากคณะแพทย์เชื่อมโยงกับเรื่องสุขภาวะ นักศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์เชื่อมโยงกับการสร้างนวัตกรรม และนักศึกษาศาสนศึกษาเชื่อมโยงกับมุมมองทางด้านศาสนาและความเชื่อที่แตกต่างกันไปตามหลักคำสอนของแต่ละศาสนา เป็นต้น

เรียนรู้

รวมทั้งการได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมนอกห้องเรียน จากการลงพื้นที่จริงสัมผัสกับครัวไทยโบราณ และทดลองทำอาหารไทยพื้นบ้านด้วยตัวเองกับปราชญ์ชุมชนโดยตรง

ทั้งหมดนี้ เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า “อาหาร” มีความเกี่ยวข้องกับ “วัฒนธรรม” หรือวิถีชีวิตของมนุษย์เพียงใด ซึ่งอาหารชนิดเดียวกัน อาจมีรสชาติที่ไม่เหมือนกัน แต่สามารถทำให้เกิด “ความแตกต่าง” ได้ โดยไม่จำเป็นต้องหาความเป็นมาตรฐานของรสชาติ

สำรับไทย

ด้วยเคล็ดลับในการทำอาหารที่เป็นมรดกตกทอดกันมาของแต่ละครอบครัว อาจ “สร้างมูลค่า” ได้จากความสามารถในการสร้างสรรค์ทำให้อาหารชนิดเดียวกันมีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันตามแบบฉบับของแต่ละครอบครัว ต่อยอดสร้างเป็นธุรกิจอาหาร ลดการนำเข้าและความนิยมอาหารจากต่างประเทศ ตลอดจนลดมลพิษซึ่งเป็นผลกระทบจากการใช้เทคโนโลยี โดยการหันมาทำอาหารแบบดั้งเดิม ที่ไม่เบียดเบียนต่อสิ่งแวดล้อม