รักนิรันดร์…ไม่ใช่แค่เพชร เทรนด์แหวนหมั้นใหม่กำลังมา

เข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ที่มีวันแห่งความรักเป็นไฮไลต์ พลอยให้หลายคนรู้สึกสดชื่นไปด้วย ที่สำคัญ เทศกาลนี้ยังคงถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ผู้คนพร้อมจับจ่ายมากที่สุดในแต่ละปี

ข้อมูลจากสมาคมค้าปลีกแห่งชาติสหรัฐ ประเมินว่า เทศกาลวาเลนไทน์ในปี 2559 ชาวอเมริกันใช้จ่ายมากถึง 1.97 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งการซื้อของขวัญและความบันเทิงต่างๆ

นอกจากนี้ ตัวเลขใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนก็เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าด้วย โดยเพิ่มเป็น 146.84 ดอลลาร์สหรัฐ จากเมื่อปี 2558 ที่อยู่ที่ 142.31 ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับสินค้ายอดนิยมท็อปทรีในเทศกาลวาเลนไทน์ ได้แก่ ช็อกโกแลต ที่ยังคงครองแชมป์ในฐานะทางเลือกของการแสดงความรักให้คนรอบข้าง ตามด้วยจิวเวลรี่ที่ชาวอเมริกัน 1 ใน 5 ซื้อให้คนสำคัญ โดยเฉพาะทองคำที่ความต้องการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และสุดท้าย ดอกไม้ ที่ยังคงเป็นสัญลักษณ์สำคัญในเทศกาลแห่งความรักนี้

ขณะเดียวกัน เทศกาลวาเลนไทน์ยังเป็นช่วงเวลาที่คนจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะคุกเข่าขออีกฝ่ายแต่งงาน เพราะเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสวีทหวานชื่น

แต่น่าสังเกตว่า แหวนหมั้นที่ฝ่ายชายใช้ขอหมั้นฝ่ายหญิง ไม่จำเป็นต้องมี “เพชร” ชูโดดเด่นอยู่ตรงกลางวงอีกต่อไป สะท้อนค่านิยมของหนุ่มสาวที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย

เว็บไซต์สเตรตไทม์สของสิงคโปร์ รายงานว่า ทุกวันนี้มีคู่รักหลายคู่ที่ไม่เลือกเพชรประดับบนแหวนหมั้นของพวกเขา แต่กลับมองหาอัญมณีอื่นๆ เป็นทางเลือก เช่น ทับทิม ไข่มุก และแซฟไฟร์ ที่มีราคาไม่แพงมาก

เมื่อเทียบกับเพชร 1 กะรัต ที่มีราคาแถวๆ 4,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 100,000 บาท ทับทิมขนาดเท่ากันจะมีราคาประมาณครึ่งหนึ่ง ขณะที่แหวนบางแบบที่เรียบง่ายอาจมีราคาไม่กี่ร้อยดอลลาร์สิงคโปร์

“โจโจ ลิน” แฟนสาวของ “เบอร์แทรนด์ ซิม” ที่หมั้นกันเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว และมีกำหนดจะแต่งงานในเดือนกรกฎาคมปีนี้ บอกว่า เธอกับแฟนเลือกแหวนธรรมดาๆ แบบไม่มีอัญมณีเม็ดเด่นตรงกลาง ที่มีราคาราว 500 ดอลลาร์สิงคโปร์

เธอให้เหตุผลว่า ไม่อยากให้เปลืองเงินเปลืองทอง และก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อแหวนหมั้นที่มีเพชร แค่อยากได้แหวนที่เรียบง่าย แต่มีเอกลักษณ์ และสามารถสวมใส่ได้ทุกวัน

ส่วน “ลอรา อัว” ก็บอกแฟนหนุ่มว่า เธอต้องการแหวนทองคำที่มีไข่มุกตรงกลาง ล้อมรอบด้วยทับทิมเล็กๆ 3 เม็ด เพราะเธอไม่อยากได้เพชร แต่อยากได้อัญมณีที่มีสีสัน

เช่นเดียวกับ “มิเชล ตัน” ที่แต่งงานกับสามี “สตีฟ” โดยเลือกสั่งทำแหวนจากร้านจิวเวลรี่ในสิงคโปร์ ที่ใช้ทองคำและพลอยทัวร์มาลีนสีเขียว

เธอบอกว่า ไม่ได้ฝันถึงการครอบครองเพชร และมองว่า เพชรไม่ได้มีราคาเพิ่มขึ้นจริงๆ อย่างที่คิด แต่ได้ลดค่าลงหลังจากซื้อ

บริษัทจิวเวลรี่หรู “ทิฟฟานี แอนด์ โค” ของสหรัฐ ที่เปิด 5 สาขาในสิงคโปร์ ก็มีลูกค้าไถ่ถามมากขึ้นเกี่ยวกับแหวนหมั้นที่ไม่ใช่เพชร แต่ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขยอดขายในส่วนนี้

ด้าน “ซาราห์ ซิม” โฆษกของแบรนด์จิวเวลรี่ “ซิตี้เจมส์” กล่าวถึงเทรนด์นี้ว่า หนุ่มสาวยุคใหม่ชื่นชอบความแปลกใหม่มากขึ้นในการเลือกแหวนหมั้น

เธอเล่าว่า คู่รักหลายคู่เข้าร้านมาเพื่อมองหาแหวนที่มีนวัตกรรม และไม่ใช่แหวนเพชรแบบเดิมๆ แต่ให้ความสำคัญกับเรื่องราวและความหมายที่อยู่เบื้องหลังดีไซน์และวัสดุที่ใช้ทำแหวน

“แคโรลิน คัน” นักออกแบบจิวเวลรี่ชาวสิงคโปร์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์แคร์รี เค กล่าวว่า ยอดขายแหวนหมั้นแบบที่ไม่ใช่เพชรกำลังมาแรง โดยขยายตัวราว 15 เปอร์เซ็นต์ ในปีที่แล้ว

แหวนที่ใช้อัญมณีทางเลือกอื่นๆ เช่น แซฟไฟร์ ทับทิม มรกต และอะความารีน ได้รับความนิยมมากสุด แม้จะยังมีสัดส่วนไม่มากนัก แต่มีอัตราเติบโตที่น่าสนใจ ในฐานะทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ไม่อยากได้แหวนเพชร

“ลินดา วี” อาจารย์ด้านการตลาดและธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยนันยาง เทคโนโลยี อธิบายว่า ปัจจุบัน มีลูกค้า 2 ประเภท ประเภทแรกจะยังให้ความสำคัญกับประเพณีแบบดั้งเดิม และมองหาแหวนเพชรให้คนรัก ส่วนลูกค้าอีกกลุ่มจะมีความสร้างสรรค์และต้องการหาทางเลือกใหม่ๆ เพื่อแสดงออกถึงความรัก ซึ่งไม่ใช่แค่เพชร

เพราะลูกค้าบางคนต้องการสิ่งที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะเพื่อบอกเล่าเรื่องราว และพวกเขาก็มีทางเลือกที่จะเข้าถึงอัญมณีและการออกแบบที่หลากหลายขึ้นกว่าเมื่อก่อน

 

ที่มาภาพ

www.icytales.com

https://i.kinja-img.com

www.straitstimes.com

http://images.askmen.com

http://www.doublejj.com

www.ibtimes.com