เผยแพร่ |
---|
มาแล้ว! วิธีลงทะเบียน เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 เริ่มใช้สิทธิ ก.พ.-ก.ย. 66
ตามที่คณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 อนุมัติโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 วงเงินรวม 2,016,000,000 บาท เพื่อดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยด้านการท่องเที่ยว โดยจะเริ่มให้ใช้สิทธิได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-กันยายน 2566
มาดูรายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 ดังนี้
โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 ให้สิทธิแก่ประชาชนในการสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยภาครัฐสนับสนุนค่าใช้จ่าย 2 ส่วน คือ
- สนับสนุนค่าที่พัก 40% (ไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน) สูงสุด 5 ห้อง
- คูปองอาหาร/ท่องเที่ยว (e-voucher) 600 บาท/วัน
- กำหนดจำนวนสิทธิเข้าโรงแรมที่พักจำนวนห้องพัก 560,000 สิทธิ/ห้อง
- 1 คน สามารถใช้สิทธิได้สูงสุด 5 สิทธิ
- จำนวนสิทธิในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 นี้ จะไม่นับรวมกับสิทธิที่เคยได้รับในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4
การลงทะเบียนร่วมโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 มีดังนี้
- อายุ 18 ปีขึ้นไป
- ลงทะเบียนร่วมโครงการที่เว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com
- ทำได้ทั้งผู้ใช้สิทธิรายใหม่ และผู้ใช้สิทธิรายเดิมที่เคยได้รับสิทธิในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4
- ผู้ใช้สิทธิรายเก่า : ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ และกดให้ความยินยอม (Consent) เพื่อรับสิทธิได้ทันที
- ผู้ใช้สิทธิรายใหม่ : ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ และยืนยันตัวตนตามขั้นตอน
- ใช้สิทธิผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”
- ทำการจองห้องพักล่วงหน้าก่อนเดินทาง 7 วัน
แนวทางป้องกันการทุจริต เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5
สำหรับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 ภาครัฐมีการวางแนวทางป้องกันการทุจริต โดยธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสาขาในประเทศ ในการจัดให้มีระบบแสดงจำนวนห้องพักของแต่ละโรงแรม/ที่พัก หากมีการจองเกินจำนวนห้องที่แจ้งในระบบ ระบบจะสามารถจำกัดการจองได้
พร้อมทั้งจัดให้โรงแรม/ที่พักที่ร่วมโครงการ มีการระบุคำยินยอมในแบบฟอร์มให้ชัดเจน สำหรับการป้องกันปัญหาการขึ้นราคาห้องพักเกินจริง โดยหากโรงแรมที่พักเจตนาขึ้นราคาห้องพักเกินจริง สามารถเอาผิดเรียกเงินคืน และระงับการจ่ายได้ รวมทั้งต้องได้รับโทษถึงการตัดสิทธิในการเข้าร่วมทุกโครงการของรัฐบาล
สำหรับการป้องกันการทุจริตในส่วนผู้ใช้สิทธิ จะมีการจัดระบบสแกนใบหน้าของผู้ใช้สิทธิในการเช็กอินเข้าพักและการใช้ e-voucher เพื่อป้องกันการใช้บัตรประชาชนผู้อื่นสวมสิทธิ
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ