วันที่ 25 มกราคม 2560 นายสมควร ปิยพงษ์ธาดา หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์ปศุสัตว์จังหวัดนครปฐม นายเจษฎา จารีบูรณะภาพเลขาฯฝ่ายปศุสัตว์หอการค้าจังหวัดนครปฐม นายสมคิด เรืองวิไลทรัพย์ ประธานสหกรณ์ผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดนครปฐม นำเนื้อสุกรเกรดเอชำแหละมาจำหน่ายให้แก่ประชาชนในราคากิโลกรัมละ 89 บาทตามโครงการสืบสานความดีตามรอยพ่อรัชกาลที่ 9 เพื่อช่วยลดภาระและแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้กว่า 3,500 กิโลกรัม ที่ริมคลองเจดีย์บูชา ซอย1 ตรงข้ามสำนักงานเทศบาลนครนครปฐมหลังเก่า ในวันที่25-26 มกราคม

นายสมควร ปิยพงศ์ธาดา กล่าวว่าสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครปฐมได้ร่วมกับสหกรณ์ผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดนครปฐมหอการค้าจังหวัดนครปฐม พาณิชย์จังหวัดนครปฐม จัดกิจกรรม สืบสานความดีตามรอยพ่อ รัชกาลที่ 9ในครั้งนี้ได้นำเนื้อาุกรชำแหละ เกรด A มาจำหน่ายในราคาถูกที่ 89 บาทต่อ 1 กิโลกรัม เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ที่ต้องจับจ่ายหาซื้อเนื้อสุกรชำแหละใช้ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวนี้ได้รับการตอบรับจากประชาชนที่ต้องการบริโภคเนื้อสุกรชำแหละในราคาถูกเป็นจำนวนมากจึง ได้พร้อมกันจัดกิจกรรมนี้ขึ้นบริเวณริมคลองวิชาซอยหนึ่งข้างเทศบาลนครนครปฐมในวันนี้ 25 มกราและวันพรุ่งนี้ 26 มกรารวมสองวัน

ด้านนายเจษฎา กล่าวว่า หอการค้าได้สนับสนุนกิจกรรมการจำหน่ายเนื้อหมูชำแหละราคาถูกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนได้ซื้อและบริโภคเนื้อสุกรคุณภาพ ในราคาย่อมเยาอีกทั้งเป็นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเลี้ยงสุกรได้นำเนื้อสุกรชำแหละ มาขายให้กับผู้บริโภคโดยตรง ทำให้เพิ่มราคา จากหน้าฟาร์ม ที่ต่ำมากมาเป็นราคาที่จำหน่ายตรงกับผู้บริโภค 89 บาท ทำให้มีรายได้เพิ่ม มากขึ้นจากที่ฟาร์ม ขายสุกรหน้าเล้าให้กับพ่อค้าคนกลาง แม้นจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็เป็นการกระตุ้นเศรศฐกิจได้

ขณะที่นายสมคิด กล่าวว่าปัจจุบันราคาสุกรเป็น หน้าฟาร์มราคาต่ำซึ่งถือว่าเป็นกระบวนการต้นน้ำและต้องส่งให้กับผู้ค้าคนกลางซึ่งเป็นระดับกลางน้ำ เป็นฝ่ายขายตรงราคาจะได้กำไรมาก ในส่วนของปลายน้ำคือผู้บริโภคก็จะได้รับสินค้าที่มีราคาแพงมากขึ้นซึ่งปัจจุบันนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 130 ถึง 140 บาทต่อกิโลดังนั้นสหกรณ์ผู้เลี้ยงสุกรได้เล็งเห็นว่าเมื่อต้นน้ำได้ราคาที่ต่ำกว่า 80 บาท/กก. แต่ปลายน้ำต้องมาซื้อ 130 จึงอยากให้ผู้บริโภคมาได้ราคาที่กิโลกรัมละ 89 บาทซึ่งผู้ประกอบกาญจน์เลี้ยงสุกรก็ได้ราคาที่สูงขึ้นผู้บริโภคก็ได้ราคาที่น้อยลงถือว่าได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

ที่มา มติชนออนไลน์