เจาะข่าวเด่นเศรษฐกิจรอบปี’59

6 ส.ค. 2559 ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดเดินรถไฟฟ้ามหานคร (เอ็มอาร์ที) สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) บางใหญ่-เตาปูน ระยะทาง 23 ก.ม. ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ (รฟม.) หวังใช้แก้ปัญหารถติดในพื้นฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ช่วงรอยต่อนนทบุรีและกรุงเทพฯ นับเป็นรถไฟฟ้าคนกรุงสายที่ 2 ของรฟม. ที่รอคอยมานานถึง 12 ปี แต่เนื่องจากเส้นทางยังไม่เชื่อมต่อไปถึงสถานีบางซื่อของรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน หรือสายเฉลิมรัชมงคล โดยขาดช่วงไป 1 สถานี ต้องต่อรถเมล์หรือรถไฟ ทำให้คนใช้บริการน้อยกว่าที่คาด แม้ว่ารฟม.จะลดค่าโดยสาร โดยปัจจุบันขาดทุนจากการให้บริการเดือนละ 4 ล้านบาท ขณะที่ล่าสุดคมนาคมพยายามแก้ปัญหา โดยคาดว่าจะเปิดเดินรถขาดช่วงได้ราวเดือนส.ค. 2560

 

ปราบศูนย์เหรียญเขย่าท่องเที่ยว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่ถือเป็นมะเร็งร้ายบ่อนทำลายอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย นำไปสู่การเข้าจับกุมเจ้าของบริษัท ฝูอัน จำกัด และ บริษัท ซินหยวน จำกัด เกี่ยวพันกับทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยสวมบัตรประชาชนคนไทยเข้ามาจดทะเบียนจัดตั้งบริษัททัวร์ ก่อนขยายผลไปถึงบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัททัวร์ยักษ์ใหญ่และมีเครือข่ายกว้างขวาง กระทั่งส่งผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวจีนและปัญหาต่างๆ ตามมาจำนวนมาก ทัวร์ศูนย์เหรียญ คือทัวร์ราคาถูก ที่นำคนจีนเข้ามาเที่ยวด้วยแพ็กเกจราคาถูก ก่อนนำทัวร์จีนไปเที่ยวถอนทุนคืน ตามแหล่งซื้อของร้านในเครือข่ายของตัวเอง อาทิ ร้านจิวเวลรี่ ร้านเครื่องหนัง ร้านอาหาร ฯลฯ บวกค่าบริการเพิ่มอีกประมาณ 35-50% ของราคาสินค้า แต่ก็ประสบปัญหานักท่องเที่ยวจีนลดวูบเช่นกัน

 

‘มหานคร’อาคารสูงสุดในไทย

สุดยอดข่าวอสังหาริมทรัพย์ในรอบปี 2559 คงต้องยกให้การเปิดตัวสุดยอดอาคารมิกซ์ยูส ระดับไฮเอนด์ “มหานคร” ของบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทย 314.2 เมตร จำนวน 77 ชั้น ทุบสถิติความสูง 304 เมตร ของอาคารใบหยก 2 ที่ครองแชมป์สูงที่สุดมายาวนาน ประกอบด้วย 5 ฟีเจอร์หลัก ที่ถือว่าเป็นสุดยอดไม่พ้น “เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก” ที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ จำนวน 209 เรสซิเดนซ์ ห้องแพงที่สุดชั้น 72-73 พื้นที่รวมประมาณ 1,500 ตร.ม. ราคาขาย ณ ขณะนั้นอยู่ที่ประมาณ 320,000 บาท/ตร.ม. หรือคิดเป็นราคาต่อยูนิตเกือบ 500 ล้านบาท ขณะที่ขนาดห้องล่าสุดที่ขายอยู่เป็นห้องขนาด 531 ตร.ม. ราคาขายอยู่ที่ 443,000 บาท/ตร.ม. หรือคิดเป็นยูนิตละ 235 ล้านบาท

 

ทุกภาคส่วนรุมช่วยชาวนา

หลังจากเกิดปัญหาราคาข้าวตกต่ำ จนเกิดปรากฏการณ์ชาวนานำข้าวบรรจุถุงออกมาขายผ่านช่องทางต่างๆ ด้านกระทรวงพาณิชย์ให้ความช่วยเหลือชาวนาตามโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2559/60 ในหลายมาตรการ เช่น การลงพื้นที่รณรงค์ให้ชาวนาตากข้าวเพื่อลดความชื้น ส่งเสริมตลาดค้าข้าวในแต่ละพื้นที่ให้ชาวนานำข้าวมาจำหน่ายเองโดยไม่ผ่านคนกลาง สนับสนุนให้ชาวนาผลิตข้าวที่มีคุณภาพ เป็นต้น ขณะเดียวกันกระทรวงต่างๆ ภาครัฐ-รัฐวิสาหกิจ เอกชน และคนมีชื่อเสียงในหลายวงการ ร่วมกันรณรงค์ซื้อข้าวโดยตรง หรือเปิดพื้นที่ให้ชาวนาขายข้าวได้ฟรี ถือเป็นครั้งแรกที่ทุกภาคส่วนช่วยชาวนามากที่สุดครั้งหนึ่ง

 

ปิดตำนาน‘แจสโมบาย’เบี้ยว 4 จี

ปิดตำนานประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการโทรคมนาคมไทยไปตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้น เมื่อบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด บริษัทลูกของบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) สามารถชนะประมูลใบอนุญาต 4 จี บนคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิร์ตซ์ ด้วยจำนวนเงิน 75,654 ล้านบาท ซึ่งถือว่าประมูลในราคาแพงจนช็อก แต่ไม่สามารถนำเงินประมูลงวดแรกจำนวน 8,040 ล้านบาท พร้อมกับหนังสือรับรองค้ำประกันทางการเงินจากสถาบันการเงิน (แบงก์ การันตี) มาชำระได้ทันกำหนดวันที่ 21 มี.ค.2559 จึงต้องปิดฉาก ผู้ประกอบการโทรคมนาคมรายที่ 4 ของตลาดเมืองไทย นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ให้เหตุผลว่า “เพราะข้อจำกัดเรื่องระยะเวลา” จึงต้องตัดสินใจสละใบอนุญาต 4 จี และสุดท้ายใบอนุญาตดังกล่าวตกเป็นของขาใหญ่อย่าง “เอไอเอส” จากการจัดประมูลใหม่ในวันที่ 27 พ.ค.2559

 

‘เสี่ยเจริญ’ฮุบบิ๊กซีแสนล้าน

ในปี 2559 ปฏิบัติการล่าซื้อกิจการของเสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี สร้างเสียงฮือฮาไปทั่วเมื่อบริษัท ทีซีซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด เข้าซื้อหุ้นของ คาสิโน กรุ๊ป กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 58.56% คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายรวมประมาณ 3,460 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.22 แสนล้านบาท เป็นอีกหนึ่งซูเปอร์ดีลครั้งประวัติศาสตร์ค้าปลีกไทย ต่อจากปฏิบัติการของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ที่ส่งซีพีออลล์เข้าซื้อแม็คโครในประเทศไทย เมื่อปี 2556 ด้วยมูลค่ากว่า 1.88 แสนล้านบาท แม้มูลค่าจะน้อยกว่าแต่จากนี้เสี่ยเจริญ จะมีธุรกิจครบตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำในเมืองไทย

 

‘รถเมล์เอ็นจีวี’สุดวิบาก

เป็นมหากาพย์ให้สังคมต้องถกเถียงถึงบทสรุป การจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพราะมีแผนมานานกว่า 10 ปี เริ่มตั้งไข่ตั้งแต่พ.ศ.2549 ยุคที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างก็โดนปฏิวัติเสียก่อน ในขณะที่รัฐบาลยุคต่อๆ มาก็ปลุกปั้นไม่สำเร็จ จนล่วงเข้าสู่ยุคพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขสมก.ลงนามจัดซื้อรถเมล์ 489 คัน วงเงิน 3.3 พันล้านบาท กับบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด รถบางส่วนก็จัดส่งมาถึงไทยต้นเดือนธ.ค. 2559 แต่ถูกกรมศุลกากรกักไว้ที่ท่าเรือแหลมฉบัง เพราะอ้างว่าประกอบและส่งมาจากมาเลเซีย เพื่อใช้สิทธิ์ภาษี 0% ของประชาคมอาเซียน แต่ศุลกากรสงสัยว่าจะผลิตจากจีนแล้วมาแปะไว้ที่มาเลย์ก่อนส่งเข้าไทย จึงขอเรียกเก็บภาษี 40% ของราคารถ หรือตกคันละ 1.2 ล้านบาท สุดท้ายเอกชนต้องยอมจ่ายภาษี-ค่าปรับเกือบ 1 พันล้านบาท

 

‘พร้อม-เพย์’ยังไม่พร้อมใช้

ความหวังของรัฐบาล ในยุค “นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์” เป็น รมว.คลัง ผลงานเด่นในรอบปีคงไม่พ้นการผลักดันระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ “อีเพย์เมนต์” ที่คาดหวังให้ระบบการชำระเงินของคนไทยจากนี้มาอยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด ประชาชนใช้จ่ายไม่ต้องพกเงินสดใช้จ่ายผ่านบัตร ภาครัฐตรวจสอบการจัดเก็บภาษีได้ง่าย และการจ่ายสวัสดิการต่างๆ ของรัฐให้กับผู้มีรายได้น้อยไม่ผิดฝาผิดตัว ภายใต้โครงการ “พร้อมเพย์” เปิดให้ประชาชนมาลงทะเบียนกับธนาคาร เพื่อผูกบัญชีกับหมายเลขบัตรประชาชน หรือหมายเลขโทรศัพท์ ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.2559 มีผู้มาลงทะเบียนกว่า 18 ล้านบัญชี แต่ยังไม่ได้ใช้เพราะเจอโรคเลื่อนมาตลอดจากความไม่พร้อมในหลายๆ ด้าน ต้องเลื่อนไปเปิดในปี 2560

 

ปลายปี‘ขาขึ้น’ราคาน้ำมัน

หลังจากคนไทยได้ใช้น้ำมันราคาต่ำมานาน และสนุกกับการผลาญน้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ในช่วงปลายปี 2559 ราคาน้ำมันค่อยๆ ขยับขึ้นเรื่อยๆ เหตุผลหลักมาจากกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (โอเปก) ประชุมและมีมติปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เหลือ 32.5 ล้านบาร์เรล นับตั้งแต่เดือนม.ค.2560 และบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มประเทศนอกโอเปกลดปริมาณการผลิตน้ำมันลง 5.58 แสนบาร์เรลต่อวัน ผลทำให้ราคาน้ำมันชิงปรับตัวขึ้นไปล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงเดือนธ.ค. 2559 จากระดับกว่า 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขึ้นไปเป็น 50-54 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล กลายเป็นของขวัญปีใหม่ที่คนไทยและทั่วโลกไม่อยากได้มากที่สุด ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า ปีหน้าราคาน้ำมันตลาดโลกจะค่อยๆ ปรับขึ้นไปแตะระดับ 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในช่วงครึ่งหลังของปี 2560