ด้วยความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในเทคโนโลยีของโทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทโฟน รวมถึงระบบเกี่ยวเนื่องต่างๆ และที่สำคัญความเร็วในการใช้งานซึ่งปัจจุบันเมืองไทยก้าวเข้าสู่ ‘4จี’ และ‘4.5จี’เข้าไปแล้ว ทำให้บรรดาผู้ใช้งานรวมไปถึงร้านค้าต่างๆ ต้องปรับตัวให้รวดเร็วเท่ากัน ไม่เช่นนั้นอาจตกขบวน

สิ่งหนึ่งที่กำลังจะกลายเป็นอดีตไม่พ้น‘บัตรเติมเงิน’ ของโทรศัพท์มือถือในกลุ่ม‘พรีเพด’(prepaid) หรือการเติมเงินก่อนแล้วใช้ทีหลัง

‘พรีเพด’(prepaid) ถือว่าเป็นระบบใช้งานยอดนิยมของเมืองไทย จากข้อมูลมีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในเมืองไทยราวๆ 90 ล้านเลขหมาย ในจำนวนนี้เป็นระบบ‘พรีเพด’ ประมาณ 75 ล้านเลขหมาย ที่เหลือประมาณ 15 ล้านเลขหมาย เป็นระบบ‘โพสต์เพด’(postpaid) หรือจ่ายรายเดือน

ข้อดีของพรีเพด คือสามารถควบคุมการใช้จ่ายได้ง่าย เหมาะกับการใช้งานที่ไม่มากนักในแต่ละเดือน เงินในโทรศัพท์หมดก็เติมใหม่ หากมีปัญหาเช่นเน็ตรั่ว หรือถูกขโมยใช้งาน จะเสียเพียงเงินที่เติมเอาไว้เท่านั้น จึงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่

ในอดีตผู้ใช้งานระบบพรีเพด จะมีเพียงวิธีซื้อบัตรเติมเงินจากร้านขายโทรศัพท์มือถือ หรือร้านสะดวกซื้อ เท่านั้น

แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีสมัยใหม่และระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ทำให้สามารถเติมเงินระบบออนไลน์ หรือเติมผ่านตู้ต่างๆ อาทิตู้เอทีเอ็ม หรือตู้บริการของเอกชนอื่นๆ

ในส่วนของร้านสะดวกซื้อก็ใช้ใบเสร็จออนไลน์เติมเงินเช่นกัน ด้วยเทคโนโลยีดังกล่าวทำให้บัตรเติมเงิน ค่อยๆ ลดบทบาทลง แม้จะยังมีขายอยู่บ้างแต่ก็ไม่แพร่หลายนัก

หนึ่งในแหล่งใหญ่เกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ต่างๆ ไม่พ้น‘มาบุญครอง’ ซึ่งรวมสารพัดอุปกรณ์เกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือตั้งแต่ยุคแรกๆ จนถึงปัจจุบัน แม้วันนี้มาบุญครองจะไม่เฟื่องฟูเหมือนก่อน แต่ภาพลักษณ์เดิมๆ ยังไม่จางหายไป ยังเป็นแหล่งซื้อขายโทรศัพท์มือถือและบัตรเติมเงิน อุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับมือถือ จุดหมายแรกๆ ที่คนส่วนใหญ่นึกถึง

บรรดาเจ้าของร้าน หรือเจ้าของ‘ตู้’ขายโทรศัพท์มือถือ หลายรายที่เปิดมาตั้งแต่ยุคโทรศัพท์มือถือเพิ่งเข้ามาใหม่ๆ บอกเล่าถึงความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วโดยเฉพาะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

เจ้าของร้านเก่าแก่รายหนึ่งในมาบุญครองที่เปิดร้านมากกว่า 10 ปี เล่าว่าจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือและจำพวกบัตรเติมเงินเป็นรุ่นแรกๆ ของมาบุญครอง สมัยก่อนมาบุญครอง ถือเป็นศูนย์รวมโทรศัพท์มือถือจริงๆ เพราะไม่ค่อยมีที่ไหนขาย แต่ปัจจุบันมีแหล่งขายโทรศัพท์มือถือกระจายทั่วประเทศ มีร้านตู้อยู่ทั่วไป แต่มาบุญครองก็ยังคงเป็นศูนย์รวมอยู่ เพราะมาที่นี่มีทุกรุ่นทุกแบรนด์ให้เลือก

ส่วนเรื่องบัตรเติมเงินตั้งแต่ช่วงแรกๆ จนถึงปัจจุบันก็ยังเจอปัญหาอยู่ หลักๆ ไม่พ้นราคาที่ไม่นิ่งของค่ายต่างๆ รับมาบางทีก็ไม่คุ้มแต่ยังพอไปไหว เพราะเราตั้งในกทม. แต่คนที่มาจากต่างจังหวัดแล้วมารับไปขายต่อก็บ่นๆ เหมือนกัน เพราะมันไม่คุ้ม บางคนบอกจะเลิกขาย แล้วไปขายเติมเงินออนไลน์อย่างเดียวแล้ว

“ที่ผ่านมาบัตรเติมเงินค่ายไหนขายดีก็รับเยอะ หรือค่ายไหนทำให้ต้นทุนนิ่งและถูกกว่าก็รับตัวนั้นเยอะ อย่างไรก็ตามในช่วงหลังๆนี้ ยอดขายบัตรเติมเงิน ลดลงเรื่อยๆ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เนื่องจากผู้ใช้หันไปเติมเงินผ่านระบบออนไลน์กันหมดแล้ว ที่ขายได้ก็แค่ตามจังหวัดไกลๆ อีกอย่างเรื่องต้นทุนที่รับมา การควบคุมราคาของค่ายโทรศัพท์ถือว่าสำคัญมาก หากดูแลให้อยู่ในราคาที่ดี ที่เหมาะสมได้ ร้านค้ายังสู้ไหว แต่ก็มีบางค่ายที่ควบคุมไม่ค่อยได้”

ทั้งราคาที่ผันผวนของบัตรเติมเงินจนทำให้ผู้ค้าเริ่มไม่คุ้มทุน รวมไปถึงช่องทางเติมเงินที่สะดวก รวดเร็ว และง่ายดายผ่านระบบออนไลน์ต่างๆ

ปัจจัยเหล่านี้ทำให้พอมองเห็นภาพ‘บัตรเติมเงิน’โทรศัพท์มือถือ ว่าในอนาตตอันใกล้คงเป็นแค่‘อดีต’ให้ระลึกถึงเท่านั้น

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์