รายได้หลักแสนต่อเดือน! จากยิมมวย สู่กล้วยทอด 9 นิ้ว ร้านเล็กๆ ริมฟุตปาธ แต่ดังมากที่บรรทัดทอง

“ผมตั้งใจสร้างแบรนด์ กล้วยทอด 9 นิ้ว ให้เข้าถึงทุกคน มีความตลก สนุก กำกวม ช่วงแรกคนเดินผ่านอาจจะยังไม่ซื้อ แต่อย่างน้อย ลูกค้าเดินผ่านแล้วต้องหัวเราะ ชี้ให้แฟนดู ชี้ให้เพื่อนดู มี Interaction กับร้านเรา” 

คุณวี-จิราวัฒน์ ตั้งกิจชัยวัฒน์ เจ้าของร้านกล้วยทอด 9 นิ้ว เมนูสุดฮิตย่านบรรทัดทอง ที่ใส่ไอเดีย เพิ่มมูลค่า จากกล้วยทอดธรรมดาเป็นกล้วยทอด 9 นิ้ว ที่ใครๆ ก็อยากลิ้มลอง

เรื่องราวของร้านกล้วยทอด 9 นิ้ว เป็นมาอย่างไร แนวคิดในการสร้างรายได้หลักแสนเป็นแบบไหน ติดตามได้ในบทสัมภาษณ์ของเส้นทางเศรษฐีออนไลน์

อยากมีธุรกิจของตัวเอง ความฝันวัยเด็ก

คุณวีมีความฝันอยากสร้างธุรกิจของตัวเองตั้งแต่วัยเด็ก จนถึงวัยทำงานเขาได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการทำงานประจำด้าน Business Development ก่อนเปลี่ยนไปทำ Personal Training และเปิดยิมมวยสากล ธุรกิจที่ร่วมลงทุนกับกลุ่มเพื่อน แต่ก็ได้ปิดตัวลงเพราะวิกฤตโควิด จากนั้นจึงหันไปทำธุรกิจสตาร์ตอัปกับเพื่อน 1 ปี ก่อนตัดสินใจทำธุรกิจของตัวเองในสเกลเล็กๆ ลงทุนไม่เยอะ

“รุ่นพี่ที่ผมรู้จักส่งคลิปกล้วยทอดของต่างประเทศมาให้ดู ลักษณะเป็นแท่งยาวๆ ผมมองว่าเมนูนี้สามารถต่อยอดและเพิ่มมูลค่าได้ เลยให้คุณแม่ที่ชอบทำอาหารและชอบกินกล้วยทอดมากๆ ช่วยคิดสูตรให้ สูตรแป้งตัวนี้มีส่วนผสมถึง 11 อย่าง ใช้เวลาพัฒนา 1-2 เดือน”

มาถึงการเลือกทำเล ในตอนแรกแนวคิดของคุณวีคือการเปิดร้านบนห้าง แต่ด้วยเป็นแบรนด์หน้าใหม่ ทำให้ไม่ได้รับความสนใจจากห้างไหน เขาจึงหันมาสร้างชื่อเสียงจากข้างนอก โดยเลือกเปิดหน้าร้านริมฟุตปาธ บนถนนบรรทัดทอง เพราะมองเห็นโอกาสเติบโตคล้ายถนนเยาวราช

“ผมขายบนฟุตปาธ ไม่ใช่พื้นที่เป็นหลักเป็นแหล่งของตัวเอง แต่ด้วยงบที่จำกัด ด้วยโมเดลที่วางไว้ เราคิดว่ามันตอบโจทย์ร้านกล้วยทอดมากที่สุด ก็เดินไปคุยกับเจ้าของพื้นที่ขอเปิดขายหน้าร้านเขา เดินไหว้ เป็น ส.ส. เลย ไปเกือบอาทิตย์จนได้ที่ขาย

แต่ทำเลร้านผมค่อนข้างจำกัด การจะเพิ่มกระทะเพิ่มเตามันยาก ทำให้ลูกค้ารอนาน ซึ่งผมก็พยายามรันคิวให้ลูกค้าทุกคน เป็นไปได้ผมก็อยากมีหน้าร้าน มีที่เก็บของเป็นกิจจะลักษณะ เพราะจะได้จัดการง่าย เพิ่มเมนูได้ และลูกค้าไม่นั่งร้อน” คุณวี บอกถึงความตั้งใจ

กล้วยทอด 9 นิ้ว ยาวสมชื่อ 

ในการทำเมนู กว่าจะได้กล้วยทอด 9 นิ้ว หลักๆ คือการเลือกใช้กล้วยน้ำว้าพันธุ์มะลิอ่อง และคัดขนาดกับความสุกเป็นสำคัญ

“กล้วยต้องมีความยาว 4.5 นิ้วขึ้นไป เพราะกดออกมาแล้วจะได้ความยาว ถ้าลูกเล็กหรือผอม ถ้ากดแล้วนำไปทอดก็จะไม่ได้ความยาวตามที่ต้องการ เราต้องบริหารจัดกาสต๊อกกล้วยให้ดี เลยต้องมีหลายๆ สวน มีตลาดเจ้าประจำสำหรับส่งวัตถุดิบ เพราะปัจจุบันใช้กล้วยประมาณ 200 ลูกต่อวัน”

ขั้นตอนการทำ เริ่มจากกดกล้วยให้ยาว แล้วชุบแป้งทอดรอบแรก เสร็จแล้วทอดรอบสองให้อยู่ทรงและมีความกรอบ เมื่อสุกได้ที่ให้สะเด็ดน้ำมัน แล้วใช้ไดร์เป่าผมเป่าเพื่อคลายความร้อน จากนั้นจัดเซตเมนูตามที่ลูกค้าสั่ง เช่น กล้วยทอดซิกเนเจอร์ 69 บาท แต่ถ้าจับคู่กับไอศกรีม และราดซอสช็อกโกแลต หรือนมข้นหวาน ราคา 109 บาท

“ผมควบคุมคุณภาพด้วยการเทรนพนักงานทุกอย่าง เช่น การทอด ถ้าอมน้ำมันดูยังไง ใช้ไฟประมาณไหน และผมจะอยู่ด่านสุดท้ายคอย QC ให้ลูกค้าอีกครั้ง

เอาตรงๆ ผมเองก็ยังห่วงหน้าร้าน เพราะลูกค้าค่อนข้างเยอะ แล้วกลัวว่าจะมีอะไรติดขัด พอเราขายของกิน ถ้าคุณภาพไม่ดี ลูกได้รับประสบการณ์แย่ๆ ไปครั้งหนึ่ง ก็แย่เลย เลยพยายามคุมให้นิ่งที่สุดก่อน”

นอกจากกล้วยทอดแล้ว ตอนนี้คุณวีกำลังให้คุณแม่ช่วยพัฒนาสูตรนม โปรดักต์ใหม่ของร้าน ที่จะวางขายในอนาคต โดยมองว่านมน่าจะเข้ากับกล้วยทอดได้ดี

สำหรับรายได้ปัจจุบัน จากการเปิดร้านกล้วยทอด 9 นิ้ว คณวีสามารถทำได้หลักแสนบาทต่อเดือน แต่ถ้าหักต้นทุนต่างๆ แล้ว จะเหลือกำไรเป็นตัวเลขกลมๆ 50-60% 

ความภูมิใจกับธุรกิจนี้

ก่อนจาก คุณวี ทิ้งท้ายถึงความภูมิใจในการสร้างแบรนด์ว่า “ผมภูมิใจประมาณหนึ่ง ภาพที่คิดไว้ในหัวมันเป็นจริง แต่ไม่ได้เหลิงอะไร เพราะเป็นก้าวแรก จากที่ผมวางแผนไว้ยังอีกไกล มีคนห่วงเรื่องลิขสิทธิ์เหมือนกัน แต่ผมมองความเป็นจริง มันห้ามกันไม่ได้ อย่างน้อยก็เป็นไอเดียให้คนทำมาหากินเพิ่มขึ้น ลูกค้ามีเยอะมาก เราไม่จำเป็นต้องหวงไว้คนเดียว ถ้าเราทำของเราให้ดีลูกค้าก็จะยังอยู่กับเรา

และความตั้งใจของผม อยากทำแบรนด์ให้แข็งแรง คนรู้จักเยอะๆ หรืออาจจะมีสาขาของตัวเอง พอคุณภาพได้อย่างที่มั่นใจแล้ว ค่อยขายแฟรนไชส์ นี่คือสิ่งที่คิดไว้คร่าวๆ ก็เสียดายเหมือนกัน มีลูกค้าทักมาขอซื้อแฟรนไชส์เยอะมากๆ เข้าใจว่าน้ำขึ้นให้รีบตัก แต่เราก็กลัว เดี๋ยวหกเลอะเทอะ แล้วจะเสีย อาจจะต้องรอก่อนให้ทุกอยากเริ่มเข้าที่เข้าทาง”

สำหรับใครที่อยากกินกล้วยทอด 9 นิ้ว ร้านเปิดวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 18.00-23.00 น. วันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา 18.00-23.30 น. หรือเที่ยงคืน