“อพท.” ชู 81 ชุมชน รับท่องเที่ยวนิวนอร์มอล เจาะกลุ่มคนรักธรรมชาติ–สุขภาพ

travel
travel

“อพท.” ชู 81 ชุมชน รับท่องเที่ยวนิวนอร์มอล เจาะกลุ่มคนรักธรรมชาติ–สุขภาพ

เว็บไซต์ รัฐบาลไทย เผยแพร่ข่าว อพท. ชู 81 ชุมชน พร้อมรับนักท่องเที่ยวหลังพ้นโควิด-19 ด้วยรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ เล็งเพิ่มแนวทางการพัฒนาชุมชนด้วยการผสมการตลาด ใช้กิจกรรมการท่องเที่ยวเป็นตัวกำหนดการเลือกรับนักท่องเที่ยว เผยปี 2563 ยังดำเนินงานภายใต้แผนยุทธศาสตร์ชาติ สร้างท่องเที่ยวไทย “ยั่งยืน”

เร่งศึกษาประกาศพื้นที่พิเศษลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา สู่เมืองอารยธรรมวิถีชีวิตสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ในภาคใต้ เดินหน้าพัฒนา 4 เมืองเข้าเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์โลก ยกระดับแหล่งท่องเที่ยวเข้าสู่ TOP 100 และเป้าหมายปี 2566 ดัน ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เป็นแหล่งท่องเที่ยวจีโอปาร์ค

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เผยว่า เตรียมนำหลักการตลาดมาผสมกับแนวทางการพัฒนาชุมชนเพื่อการท่องเที่ยว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เป็นเส้นทางและกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวซึ่งมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการท่องเที่ยวภายหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ซึ่งแนวคิดดังกล่าว อพท. จะร่วมมือกับภาคีผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดท่องเที่ยว เช่น สมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวต่างๆ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท.  เข้ามาร่วมให้ความรู้แก่ชุมชน  พัฒนาโดยใช้กิจกรรมการท่องเที่ยวของชุมชนนั้นๆ เป็นตัวกำหนดว่าจะเหมาะรองรับนักท่องเที่ยวในกลุ่มไหน เพราะจากนี้ไป พฤติกรรมการท่องเที่ยวจะปรับเปลี่ยน การท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่จะลดลง ปรับเป็นท่องเที่ยวในกลุ่มขนาดเล็กเพื่อความปลอดภัย กลุ่มแรกที่จะเดินทางท่องเที่ยวคือ กลุ่มท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและผจญภัย และกลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่ง อพท. มี 81 ชุมชน ที่พัฒนาและพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้ แบ่งเป็น 14 ชุมชนในพื้นที่พิเศษ และอีก 67 ชุมชนในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวทั้ง 8 คลัสเตอร์ ในที่นี้ได้รวม 4 ชุมชนในพื้นที่คลองดำเนินสะดวก 6 ชุมชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 6 ชุมชนในพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.

ผู้อำนวยการ อพท. กล่าวว่า ในเดือนกรกฎาคมนี้ จะร่วมมือกับ 1 สภา และ 6  สมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยว ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ  (สทน.) สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวอาเซียน (ASEANTA) สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA) และสมาคมไทยท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (TRTA) จัดส่งบุคลากรลงพื้นที่พัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวให้กับ 40 ชุมชน ในพื้นที่พิเศษและในเขตพัฒนาการท่องเที่ยว เพื่อจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวอย่างน้อย 20 เส้นทาง โครงการดังกล่าว ยังมีการพัฒนานักสื่อความหมายท้องถิ่น โดยใช้มัคคุเทศก์อาชีพ มาเป็นวิทยากรให้การอบรมแก่ชุมชน เช่นกัน

เป้าหมายสำคัญมี 2 ประเด็น คือ ได้เพิ่มศักยภาพให้กับแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน และได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  ได้มีรายได้จากการเป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องการตลาดท่องเที่ยว และความเชี่ยวชาญในการจัดทำเส้นทางท่องเที่ยว และเมื่อสถานการณ์ท่องเที่ยวกลับสู่ภาวะปกติ ผู้ที่เป็นวิทยากร จะนำเส้นทางที่ตนเองได้ร่วมกับชุมชนพัฒนาขึ้นมาในครั้งนี้ ไปเสนอขายแก่นักท่องเที่ยว โครงการนี้เป็นการนำร่องหากได้ผลตอบรับที่ดี ในปีต่อๆ ไป อพท. ก็จะจัดกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านการตลาดให้แก่ชุมชนท่องเที่ยวที่ อพท. พัฒนาขึ้นมา

“สำหรับพื้นที่จังหวัดเชียงราย อพท. ยังได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้ร่วมกับกรมทรัพยากรธรณี ศึกษาพัฒนา ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เป็นแหล่งท่องเที่ยวอุทยานธรณี หรือ Geopark เป้าหมายสูงสุดคือเป็นแหล่งท่องเที่ยวอุทยานธรณีระดับโลกตามเกณฑ์ของยูเนสโก ภายในปี 2568 แต่เบื้องต้นภายในปี 2564 จะพัฒนาขึ้นเป็นระดับจังหวัด และ ปี 2566 ขึ้นเป็นระดับประเทศ ขั้นตอนการศึกษาทั้งหมด จะดำเนินการร่วมกับจังหวัดที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการศึกษาและจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเพื่อนำเสนอให้คณะกรรมการ อพท. ให้ความเห็นชอบ เพื่อเสนอคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ หรือ ททช. ก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ ตามลำดับ”

อย่างไรก็ตาม ความพร้อมของชุมชนท่องเที่ยวที่จะรองรับนักท่องเที่ยวภายใต้ชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal  นอกจากชุมชนจะมีมาตรฐานตามเกณฑ์การท่องเที่ยวโลก หรือ GSTC และมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน หรือ CBT Thailand  อพท. ได้พัฒนาบริการด้านการจ่ายเงินมี คิวอาร์โค้ต แทนการรับเงินสด ล่าสุด อพท. ยังออกข้อปฏิบัติของแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนเพื่อสุขอนามัยปลอดภัยใส่ใจในสุขภาพ โดยเป็นข้อปฏิบัติที่ อพท. ร่วมกับเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน กรมอนามัย กรมควบคุมโรค และหน่วยงานภาคการท่องเที่ยว ภาคีการท่องเที่ยว จัดทำขึ้นมา เพื่อให้การบริการด้านสุขอนามัย ในชุมชนท่องเที่ยวที่ อพท. พัฒนาขึ้นมานั้นสอดคล้องกับชีวิตวิถีใหม่ และยังสามารถยื่นขอมาตรฐาน SHA ได้อีกด้วย