ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดความสำเร็จของการทำ IUI คืออะไร?

 

IUI คือการฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก เป็นหนึ่งในเทคนิคการรักษาภาวะผู้มีบุตรยาก ตอบโจทย์การมีบุตรที่สำเร็จของคู่สมรสบางคู่ที่มีปัญหา แต่ทว่าแม้การทำ IUI จะช่วยแก้ปัญหาภาวะผู้มีบุตรยากได้ ก็ยังไม่การันตีผลลัพธ์ว่าจะสำเร็จ 100% โดยอัตราความสำเร็จของการทำ IUI ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง ครั้งนี้ทางบทความก็ได้รวบรวมเอาปัจจัยที่เกี่ยวข้องมาฝาก เพื่อการทำ IUI ที่สำเร็จ

IUI คืออะไร?

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อนว่า IUI คืออะไร โดยการทำ IUI คือ การฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก ทำให้น้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูกได้โดยตรง ส่งผลให้เชื้ออสุจิเข้าถึงเซลล์ไข่สำเร็จ เหมาะกับคู่สมรสที่มีปัญหาเชื้ออสุจิไม่สามารถเดินทางไปถึงเซลล์ไข่ได้ด้วยปัจจัยต่างๆ ซึ่งการทำ IUI จะช่วยแก้ปัญหานั้นและเพิ่มโอกาสการมีบุตรได้ แต่ถึงอย่างนั้นการทำ IUI ก็ไม่ได้แปลว่าจะทำให้ผู้มีบุตรยากสามารถมีบุตรได้ 100% ขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัยด้วยกัน

ปัจจัยที่ส่งผลให้สำเร็จของการทำ IUI คืออะไรบ้าง?

จากที่ได้กล่าวไปว่าการทำ IUI ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย หลายคนคงสงสัยอยู่ว่าปัจจัยที่ว่าจะมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมๆ กันเลย

1. ท่อนำไข่ต้องไม่ตีบทั้ง 2 ข้าง

ในผู้หญิงที่มีปัญหาท่อนำไข่ตีบหรือตัน ทำให้อสุจิเดินทางไปผสมกับเซลล์ไข่ได้ยาก ต้องอาศัยเทคโนโลยีรักษาภาวะผู้มีบุตรยากช่วยเพิ่มโอกาสการมีบุตร และการทำ IUI คือเทคนิคหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ แต่จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าท่อนำไข่นั้นจะต้องตีบหรือตันเพียงข้างเดียวเท่านั้น อีกข้างหนึ่งจะต้องใช้งานได้ปกติ

เนื่องจากการผสมด้วยวิธี IUI คือการปฏิสนธิภายใน ที่ต้องฉีดน้ำเชื้อเข้าไปในโพรงมดลูก โดยที่อสุจิยังต้องเดินทางผ่านท่อนำไข่เข้าไปถึงเซลล์ไข่ หากตีบหรือตันทั้ง 2 ข้างจะไม่สามารถทำ IUI ได้ ดังนั้น หนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลให้สำเร็จของการทำ IUI คือต้องมีท่อนำไข่ที่ใช้งานได้ปกติอย่างน้อย 1 ข้าง

2. เยื่อบุโพรงมดลูกผิดเจริญผิดที่ต้องเป็นชนิดไม่รุนแรง

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้มีบุตรยากก็คือผู้หญิงที่มีปัญหาเยื่อบุโพรงมดลูกผิดเจริญผิดที่ ซึ่งปัญหานี้มีทั้งแบบรุนแรงและไม่รุนแรง หากต้องการเพิ่มโอกาสมีบุตรจะต้องอาศัยเทคนิคการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากช่วย และการทำ IUI สามารถเพิ่มโอกาสการมีบุตรให้กับผู้ที่มีปัญหานี้ได้ แต่จะต้องเป็นชนิดไม่รุนแรงเท่านั้น หากผู้หญิงคนไหนที่มีปัญหาเยื่อบุโพรงมดลูกผิดเจริญผิดที่ชนิดรุนแรง ไม่สามารถทำ IUI ได้สำเร็จ ดังนั้น หนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลให้สำเร็จของการทำ IUI คือต้องมีเยื่อบุโพรงมดลูกที่ปกติ หรือถ้าหากมีปัญหาเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ต้องเป็นชนิดไม่รุนแรงเท่านั้น

3.ผู้ชายต้องมีเชื้ออสุจิ

คู่สมรสที่มีบุตรยากบางคู่มีสาเหตุมาจากเชื้ออสุจิ ซึ่งปัญหานี้สามารถใช้เทคนิคการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากช่วยได้ รวมถึงการทำ IUI ที่ช่วยแก้ปัญหาผู้ที่มีอสุจิน้อยเกินไป เคลื่อนที่ได้ช้า ให้สามารถเดินทางเข้าถึงเซลล์ไข่ได้ง่ายขึ้น แต่จะไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้กับผู้ที่ไม่มีอสุจิในน้ำเชื้อ ดังนั้น อสุจิถือเป็นปัจจัยสำคัญในการทำ IUI ที่สำเร็จ เพราะการทำ IUI คือการนำน้ำเชื้อที่มีอสุจิฉีดเข้าไปในโพรงมดลูก หากไม่มีอสุจิในน้ำเชื้อ ต่อให้ฉีดเข้าไปก็จะไม่เกิดผล

4. คู่สมรสต้องมีอายุไม่มากเกินไป

ปัญหามีบุตรยากส่วนหนึ่งมาจากอายุของคู่สมรสที่มาก ส่งผลต่อการตกไข่และการผลิตอสุจิ อาจมีอสุจิที่น้อยเกินไปหรือไม่แข็งแรง ทำให้ต้องอาศัยเทคโนโลยีการรักษาภาวะผู้มีบุตรยาก ซึ่งมีอยู่หลากหลายวิธีด้วยกัน และการทำ IUI ก็สามารถเพิ่มโอกาสการมีบุตรได้ในระดับหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นสำหรับคู่สมรสที่มีอายุมากก็ไม่ควรมากจนเกินไป ถือเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องในการทำ IUI ที่สำเร็จด้วย โดยในเบื้องต้นมีคำแนะนำเกี่ยวกับการทำ IUI ให้สำเร็จว่า ฝ่ายหญิงควรมีอายุน้อยกว่า 30 ปี เนื่องจากผู้หญิงที่อายุมากขึ้นจะมีภาวะมดลูกเสื่อม และอาจทำให้อสุจิเคลื่อนที่เข้าโพรงมดลูกได้ยาก

5. มีระบบสืบพันธุ์ที่ปกติ

อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญเกี่ยวกับการทำ IUI ให้สำเร็จ คือระบบสืบพันธุ์ที่ปกติ จะช่วยให้การทำ IUI นั้นมีอัตราความสำเร็จที่สูงขึ้น มาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยอยู่ว่าถ้าหากมีระบบสืบพันธุ์ที่ปกติ จะต้องทำ IUI ไปทำไม ความจริงแล้วเหตุผลของการทำ IUI ที่เป็นการผสมเทียม มีอยู่หลายอย่าง ไม่จำเป็นจะต้องเป็นผู้มีบุตรยากเสมอไป บางคนมีอาการแพ้อสุจิ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการมีเพศสัมพันธ์ แต่อยากมีบุตร ก็หันมาพึ่งวิธีการทำ IUI ได้ รวมถึงผู้ที่ต้องการรับบริจาคอสุจิ ก็สามารถพึ่งการทำ IUI ได้เช่นกัน ดังนั้น ปัจจัยที่ทำให้การทำ IUI ให้สำเร็จก็คือการมีระบบสืบพันธุ์ที่ปกติ

คนที่เหมาะกับการทำ IUI คือใครบ้าง?

• ผู้ชายที่เชื้ออสุจิไม่แข็งแรงเคลื่อนที่ช้า รูปร่างผิดปกติ มีปริมาณน้อยเกินไป
• ผู้หญิงที่มีการตกไข่น้อยเกินไป
• ผู้หญิงที่เยื่อบุโพรงมดลูกผิดเจริญผิดที่ชนิดไม่รุนแรง
• ผู้หญิงที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับมูกบริเวณช่องคลอด
• ผู้หญิงที่แพ้อสุจิ
• ผู้หญิงที่ต้องการรับบริจาคเชื้ออสุจิ
• คู่สมรสที่มีบุตรยากโดยไม่ทราบสาเหตุ

หลักๆ เลยการทำ IUI คือ การผสมเทียม โดยการฉีดน้ำเชื้อเข้าไปในโพรงมดลูก และปล่อยให้เกิดการผสมกันตามธรรมชาติระหว่างเซลล์อสุจิและเซลล์ไข่ ดังนั้น ปัจจัยที่สำคัญที่สุด ที่จะทำให้การทำ IUI มีอัตราความสำเร็จสูงขึ้น ก็คือระบบสืบพันธุ์ที่ปกติหรือถ้าหากระบบสืบพันธ์ุมีปัญหา ก็จะต้องมีปัญหาน้อยที่สุด