เผยแพร่ |
---|
SCGC ตะลุยเวทีโลก บุกงาน K 2022 จัดเต็มนวัตกรรมตอบโจทย์เมกะเทรนด์
ส่ง SCGC GREEN POLYMER นวัตกรรมพลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รุกตลาดโลก
เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ เอสซีจีซี (SCGC) ผู้นำธุรกิจเคมีภัณฑ์ครบวงจรเพื่อความยั่งยืนรายใหญ่ของไทยและภูมิภาคอาเซียน อวดโฉมนวัตกรรมพลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Innovation) และนวัตกรรมเคมีภัณฑ์ตอบโจทย์เมกะเทรนด์โลก ภายใต้แนวคิด “INNOVATION THAT’S REAL” ในงาน K 2022 งานจัดแสดงนวัตกรรมสินค้าพลาสติกและยางที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ เมืองดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 19-26 ตุลาคม 2565
พร้อมร่วมกับ Norner บริษัทชั้นนำด้านการวิจัยและพัฒนาพลาสติกระดับโลก ประเทศนอร์เวย์ และ Alliance to End Plastic Waste (AEPW) องค์กรความร่วมมือระดับโลกเพื่อลดปัญหาพลาสติกใช้แล้ว จัดสัมมนาเรื่อง Circular Packaging for Real เทรนด์และโซลูชั่นบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ดร.สุรชา อุดมศักดิ์ รองผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่สายงานนวัตกรรม บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC กล่าวว่า “งาน K 2022 มีผู้เข้าร่วมจัดแสดงนวัตกรรมกว่า 3,300 รายจากทั่วโลก ซึ่งในปีนี้ SCGC ได้นำเสนอนวัตกรรมพลาสติก ภายใต้แนวคิด “INNOVATION THAT’S REAL” นวัตกรรมเคมีภัณฑ์เพื่อทุกความเป็นไปได้ เพื่อตอบโจทย์เมกะเทรนด์โลก มุ่งเน้นนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือ Green Innovation ภายใต้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน การลดใช้พลังงาน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
โดยได้พัฒนาสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (High Value Added Products & Services – HVA) ตอบรับ 5 อุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องตามเมกะเทรนด์โลก ได้แก่ กลุ่มบรรจุภัณฑ์ ยานยนต์ โครงสร้างพื้นฐาน สุขภาพ และโซลูชั่นด้านพลังงาน
โดยมีไฮไลต์ที่นำไปจัดแสดง เช่น นวัตกรรมพลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้แบรนด์ “SCGC GREEN POLYMER” เพื่อผลิตบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก มุ่งใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากแบรนด์สินค้าชั้นนำ นวัตกรรมพลาสติกเพื่อชิ้นส่วนรถยนต์ที่บางลงและน้ำหนักเบาลง รวมถึงวัสดุคอมโพสิตที่เป็นวัสดุเพื่ออนาคต ช่วยประหยัดพลังงาน นวัตกรรมโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำ SCGC Floating Solar Solutions เพื่อตอบโจทย์พลังงานสะอาด เกิดการใช้พลังงานทดแทน หรือพลังงานหมุนเวียน เป็นต้น”
รองผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่สายงานนวัตกรรม เผยเพิ่มเติมว่า “การพัฒนาสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม หรือ HVA เป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของ SCGC โดยมีงานวิจัยและพัฒนาเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ ซึ่งในปีที่ผ่านมา SCGC มีเปอร์เซ็นต์ค่าใช้จ่ายสำหรับงานวิจัย(1) ต่อรายได้จากการขาย 0.7% มีบุคลากรด้าน R&D กว่า 560 คน มีสิทธิบัตรรวมทั้งสิ้นกว่า 473 ฉบับ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564) ทั้งนี้ SCGC มีแนวทางการดำเนินงานด้านวิจัยและพัฒนาในหลายรูปแบบ ได้แก่ การคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีด้วยตนเอง การร่วมมือกับคู่ค้าในเชิงลึกเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกัน และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการวิจัยกับนักวิจัยและสถาบันชั้นนำระดับโลก เช่น มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เป็นต้น”
ภายในงานฯ SCGC ยังได้เปิดตัวศูนย์พัฒนานวัตกรรมและสินค้า i2P Center (Ideas to Products) สู่ตลาดโลกเป็นครั้งแรก โดยนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านต่างๆ มาช่วยสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า เจ้าของแบรนด์สินค้า คู่ค้า และองค์กรต่างๆ ตลอดจนการคิดค้นพัฒนานวัตกรรมร่วมกันเพื่อตอบโจทย์ตลาดในอนาคต ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของการพัฒนานวัตกรรมเชิงพาณิชย์ ตลอดจนได้แนะนำ Long Son Petrochemicals (LSP) คอมเพล็กซ์ปิโตรเคมีครบวงจร ประเทศเวียดนาม ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล ที่ทำให้เห็นภาพและรายละเอียดของโครงการฯ อย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างโครงการ LSP มีความคืบหน้าตามแผนงานที่วางไว้ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2566
นอกจากนี้ SCGC ยังจัดสัมมนาในหัวข้อ Circular Packaging for Real ร่วมกับ Norner บริษัทชั้นนำด้านการวิจัยและพัฒนาพลาสติกระดับโลก ประเทศนอร์เวย์ และ Alliance to End Plastic Waste (AEPW) องค์กรความร่วมมือระดับโลกเพื่อลดปัญหาพลาสติกใช้แล้ว โดยร่วมพูดคุยถึงเทรนด์และโซลูชั่นบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ความร่วมมือในอุตสาหกรรมเพื่อหาโซลูชั่นให้แก่บรรจุภัณฑ์ รวมถึงแนวทางการพัฒนานวัตกรรมพลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในอนาคต โดยมีตัวแทนจาก AEPW, Amcor, Erema, Norner, SCGC และ Sirplaste ร่วมเสวนาในครั้งนี้
คาดว่าจะมีผู้เข้าชมนวัตกรรมรวมถึงเป็นโอกาสที่จะพบปะคู่ค้าจากทั่วโลกกว่า 165 ประเทศ หรือไม่ต่ำกว่า 225,000 ราย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ขึ้นรูปผลิตภัณฑ์พลาสติกและยาง รวมถึงเจ้าของแบรนด์สินค้า นักพัฒนา นักออกแบบ ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตจากอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ ยานยนต์ บรรจุภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภค อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือแพทย์ พลังงานทดแทน และโครงสร้างพื้นฐาน
สำหรับผู้สนใจ สามารถติดตามนวัตกรรมจาก SCGC ได้ที่ www.scgchemicals.com/kfair/k2022 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆ ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก www.facebook.com/SCGCOfficial
###
(1) ค่าใช้จ่ายสำหรับงานวิจัยคำนวณจากผลรวมของค่าใช้จ่ายและเงินลงทุนที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยในปี/งวดที่เกี่ยวข้อง
รายละเอียดนวัตกรรมเคมีภัณฑ์ที่นำไปจัดแสดงในงาน K 2022
นวัตกรรมเคมีภัณฑ์จาก SCGC เพื่อตอบโจทย์ 5 เมกะเทรนด์โลก และเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ได้แก่
1. เทรนด์การใช้บรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น และเทรนด์การใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม : SCGC คิดค้นนวัตกรรมพลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้แบรนด์ “SCGC GREEN POLYMER” ที่สามารถผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ดีต่อโลกมากยิ่งขึ้น ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน มุ่งใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน ซึ่งครอบคลุม 4 โซลูชั่น ได้แก่ REDUCE การลดการใช้ทรัพยากร RECYCLABLE การออกแบบเพื่อให้รีไซเคิลได้ RECYCLE การนำกลับมาใช้ใหม่ และ RENEWABLE การทำให้ย่อยสลายได้ทางชีวภาพและการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน
2. เทรนด์อุตสาหกรรมยานยนต์เติบโตต่อเนื่อง : SCGC นำเสนอนวัตกรรมพลาสติกเพื่อชิ้นส่วนรถยนต์ที่บางลงและน้ำหนักเบาลง รวมถึงวัสดุคอมโพสิต ที่เป็นวัสดุเพื่ออนาคต ช่วยประหยัดพลังงาน ตอบเทรนด์ยานยนต์ในโลกยุคใหม่
3. เทรนด์ความเป็นเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน : เพื่อรองรับความต้องการของผู้อยู่อาศัยที่เพิ่มมากขึ้น ตอบโจทย์วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป จึงเกิดการใช้นวัตกรรมพลาสติกเพื่อโครงสร้างพื้นฐานอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็น ท่อส่งน้ำขนาดใหญ่ ท่อส่งก๊าซ สายไฟฟ้า และสายสื่อสาร เป็นต้น ทาง SCGC ได้คิดค้นนวัตกรรมในการผลิตเม็ดพลาสติก PE สำหรับผลิตท่อที่ทนทานต่อการขีดข่วนและสามารถติดตั้งผ่านการลากท่อได้โดยไม่ต้องขุดเปิดหน้าดิน และการผลิตเม็ดพลาสติก HDPE สำหรับผลิตเปลือกหุ้มสายเคเบิล ขึ้นรูปได้ง่าย เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
4. เทรนด์การดูแลสุขภาพ และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ : SCGC ใช้ความเชี่ยวชาญทางด้านวัสดุศาสตร์และการออกแบบเชิงวิศวกรรม คิดค้นพัฒนานวัตกรรมพลาสติกเพื่อการแพทย์ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยมากยิ่งขึ้น ได้แก่ เม็ดพลาสติก SCGC™ PP RESIN และ SCGC™ PVC RESIN เกรดสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงโซลูชั่นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย อาทิ รถเข็นจ่ายยาอัจฉริยะ ถังทิ้งเข็มฉีดยา รถเข็นผู้ป่วย แคปซูลขนส่งผู้ป่วยทางอากาศ และ หน้ากากอนามัยภายใต้แบรนด์ VAROGARD
5. เทรนด์การเติบโตของพลังงานทดแทน : SCGC นำเสนอนวัตกรรมโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำ SCGC Floating Solar Solutions เพื่อตอบโจทย์พลังงานสะอาด เกิดการใช้พลังงานทดแทน หรือพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานที่สามารถผลิตได้ต่อเนื่องทั้งปี และนวัตกรรม emisspro® สารเคลือบเตาเผาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางความร้อน ช่วยลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก