กูรูหุ้น แนะช้อนหุ้น FOOD สินค้าอุปโภค-บริโภค ฟื้นรับกำไร ในงานเปิดตัวหนังสือ

“ภาววิทย์” กูรูหุ้น แนะช้อนหุ้น FOOD สินค้าอุปโภค-บริโภค ฟื้นรับกำไร ในงานเปิดตัวหนังสือ “STOCK SUMMARY ฉบับลงทุนหุ้นยังไงไม่ให้เจ๊ง”

บรรยากาศการจัดงานเปิดตัวหนังสือ “STOCK SUMMARY ฉบับลงทุนหุ้นยังไงไม่ให้เจ๊ง” เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ณ ร้านซีเอ็ด สาขาเซ็นทรัลพลาซา บางนา มีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมงานอย่างต่อเนื่อง โดยภายในงาน ดวงใจ จีนานุรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานขายและจัดจำหน่าย บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน)

พร้อมด้วย ศุภรัตน์ ตั้งศรีวงศ์ ผู้อำนวยการสายงาน ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ ให้การต้อนรับ “ภาววิทย์ (แพท) กลิ่นประทุม” นักลงทุนและผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ชื่อดัง กูรูด้านการลงทุนที่คร่ำหวอดในวงการนักลงทุนมาอย่างยาวนาน และยังเป็นนักเขียนหนังสือเล่มนี้ร่วมกับ “วิฑูรย์ สูงกิจบูลย์ (เซนเซแป๊ะ)” ผู้เชี่ยวชาญด้านการสรุปเนื้อหา ทำให้อธิบายเรื่องหุ้นยากๆ ให้เข้าใจง่าย ด้วยลายเส้นสบายตา แต่อัดแน่นด้วยเนื้อหาและเคล็ดลับเด็ด ไม่ว่าจะเป็นวิธีคัดหุ้นเด่นถือแล้วรวย, วิธีตัดใจเมื่อต้อง Stop Loss ไปถึงทำอย่างไรจะบริหารพอร์ตให้ใหญ่โต

ในงานเปิดตัวหนังสือครั้งนี้ ยังมีช่วงเวลาเสวนาพิเศษ ที่มีคำแนะนำสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก “ภาววิทย์” ให้แก่ผู้สนใจการลงทุนที่มาร่วมงาน ซึ่งมีทั้งนักลงทุนมือใหม่ไปถึงนักลงทุนรุ่นเก๋า

ภาววิทย์ เปิดเผยว่า “ความพิเศษของหนังสือเล่มนี้นอกจากจะอ่านง่าย เข้าใจง่ายแล้ว มีแนวทางการเรียนรู้ตลาดหุ้นในมุมมองใหม่ที่เข้ากับสถานการณ์ ปรับแนวคิดจากสมัยก่อน ที่มุ่งแต่จะเล่นหุ้นขนาดใหญ่ มาสนใจหุ้นขนาดเล็กมากขึ้น

ซึ่งนักลงทุนมือใหม่ สามารถเรียนรู้ได้ตั้งแต่พื้นฐานจนสามารถเป็นเซียนด้านการลงทุนได้ ส่วนคนที่อยู่ในตลาดมานาน สามารถนำไปปรับใช้ กับแนวทางการลงทุนในตลาดหุ้นให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้ถูกเก็บข้อมูลในทุกช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงตลาดหุ้นมาตลอด และเชื่อว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นการทำนายทิศทางตลาดหุ้นในอนาคตได้อันใกล้”

ขณะเดียวกัน สถานการณ์ตลาดหุ้นที่ควรจับตาในช่วงนี้ ภาววิทย์ กล่าวต่อว่า “นับเป็นช่วงวิกฤตของตลาดหุ้น แต่ในวิกฤตแบบนี้ ก็สามารถสร้างเศรษฐีได้ทุกครั้ง ซึ่งเป็นจุดที่ยังคงน่าลงทุน แม้ตลาดหุ้นตอนนี้ ส่วนขาดทุนมีมากถึง 80% แต่ได้กำไรแค่ 20% ก็เพียงพอแล้ว

พร้อมแนะเทคนิคการจับสัญญาณตลาดหุ้นที่ควรสังเกต คือ VOLUME หรือจำนวนหุ้นที่มีปริมาณการซื้อ-ขายอยู่ในช่วงเวลานั้น หาก VOLUME ที่ต่ำ คือจุดที่ราคาค่อนข้างถูก ส่วน VOLUME ที่สูง ส่วนใหญ่เป็นกับดัก หากนักลงทุนแห่ตามกระแสที่หลายคนบอกว่าดี มักจะไม่ดี แต่ส่วนหุ้นที่คนสนใจน้อย มักจะมีสิ่งดีๆ ซ่อนอยู่ ประกอบกับเน้นพิจารณาควบคู่กับจังหวะซื้อ-ขายมากกว่า การ Cut loss (หรือการตัดสินใจขายหุ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ขาดทุน)

ซึ่งมองว่าไม่ค่อยมีประโยชน์ ถ้าเป็นจังหวะการขายให้ดู VOLUME มากขึ้น หากพิจารณาแล้วคาดว่าจะได้กำไร นักลงทุนควรตัดสินใจขายบางส่วนหรือตามความเหมาะสม ส่วนจังหวะซื้อ แม้จะเป็นจุดที่อันตราย นักลงทุนก็ยังสนใจที่จะลองเสี่ยง เพียงแค่จับจุดให้เจอ และหาแนวทางที่เหมาะสมกับเรา เส้นทางการเป็นเศรษฐีในตลาดหุ้นเป็นไปได้ไม่ยาก

สำหรับหุ้นตัวไหนดี ตัวไหนเด่นที่เหมาะแก่การลงทุนในช่วงนี้ ภาววิทย์ แนะนำว่า ควรลงทุนระยะยาวดีกว่าการเก็งกำไร เน้นลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก กลุ่มอาหาร และสินค้าอุปโภคบริโภคภายในประเทศที่มีชื่อเสียงในตลาด จะเติบโตได้ดี มีโอกาสรับกำไรในช่วงนี้

“ผมดูแนวคิดที่ว่า ตรงไหนมีวิกฤต ผมถึงจะวิ่งเข้าไป แล้วไปดูกลุ่มหุ้นตัวนั้นว่าน่าสนใจหรือเปล่า ถ้าถามวันนี้ ผมตอบได้เลยว่า ผมสนใจหุ้น กลุ่มอาหาร และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีชื่อในตลาด โดยเฉพาะเป็นหุ้นขนาดเล็ก จะเติบโตได้ดี ในขณะที่หุ้นกลุ่มอาหาร-สินค้าอุปโภคบริโภค ขนาดใหญ่ ยังคงเจอวิกฤตหนัก และไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการลงทุน แนะนำให้หาหุ้นขนาดเล็ก กลุ่มการบริโภค ภายในประเทศ น่าจะมีโอกาสในช่วงนี้ที่จะเติบโตและรับกำไรได้ดี”