กาฬสินธุ์ต่อยอดโครงการปิดทองหลังพระฯ ของบจ้างคนว่างงานฟื้นฟูแหล่งน้ำ

ปิดทองหลังพระฯ โชว์ความสำเร็จ จ้างคนตกงานพิษโควิด กลับบ้านเกิดฟื้นฟูแหล่งน้ำ ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ลุยต่อ ของบ 4 แสนล้าน แก้ปัญหา 3 หมื่นคน

นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ที่ปรึกษาสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ
นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ที่ปรึกษาสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ

นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ที่ปรึกษาสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ กล่าวว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ก่อให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจ มีคนตกงานจำนวนมาก ผนวกกับภาวะภัยแล้ง  ทางคณะกรรมการมูลนิธิปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ  ได้มอบหมายให้สถาบัน จัดทำโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฐานราก เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาวะการว่างงานจากโควิด-19 ในจังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น และอุดรธานี เพื่อเป็นต้นแบบของการขยายการดำเนินโครงการ โดยกำหนดระยะเวลาดำเนินการ 3 เดือน คือ ระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน 2563

ผลปรากฏว่า โครงการประสบความสำเร็จ เป็นรูปแบบการทำงานที่เรียกว่า 4 ประสาน 3 ประโยชน์ กล่าวคือ เป็นการประสานของภาคประชาชน  ภาคราชการ ภาคเอกชน และปิดทองหลังพระฯ เป็นผู้ประสานงาน โดยวาง 3 ประโยชน์คือ เพื่อฟื้นฟูแหล่งน้ำ ช่วยสร้างอาชีพ และสร้างองค์ความรู้ ทั้งนี้ มีกิจกรรมที่ดำเนินการภายใต้โครงการนี้ ใน 3 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 107 โครงการ ใช้งบประมาณรวม 48.836 ล้านบาท สามารถจ้างงานผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ถึง 367 คน

“1 ใน 37 โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ก็คือ การปรับปรุงฝายทดน้ำห้วยปอ ที่ตำบลแซงบาดาล อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์  ซึ่งชำรุดใช้การไม่ได้มากว่า 10 ปี โครงการได้มีการว่าจ้างคนว่างงานจากโควิด-19 มาเป็นทีมอาสาพัฒนา (อสพ.) ซึ่งเป็นผู้ที่มีภูมิลำเนาในจังหวัด ร่วมกับชุมชนที่มีความตั้งใจพัฒนาแหล่งน้ำให้กับบ้านเกิด โดยปิดทองหลังพระฯ จะสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ ขณะที่หน่วยราชการ ภาคเอกชนร่วมให้คำชี้แนะ ส่งผลให้ฝายทดน้ำห้วยปอ สามารถบูรณะกลับมาใช้ประโยชน์ เป็นแหล่งน้ำที่สำคัญให้กับชาวบ้าน”

นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์
นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์

นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า กาฬสินธุ์มีประชากรทั้งสิ้น 9.8 แสนคน ซึ่งกว่าครึ่ง หรือ 55% มีอาชีพเกษตรกร ขณะที่พื้นที่ทำการเกษตร 2.8 ล้านไร่ กลับเป็นเกษตรที่มีแหล่งน้ำชลประทานเพียง 3.6 แสนไร่เท่านั้น ปัญหาคือ ทำอย่างไรให้กาฬสินธุ์เป็นพื้นที่ดินดำน้ำชุ่ม สมกับคำขวัญของจังหวัด และทำอย่างไรที่ชุมชนจะร่วมมือกันพัฒนา ดูแลแหล่งน้ำ ไม่ใช่การรอรับความช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว ซึ่งโครงการฟื้นฟูแหล่งน้ำของปิดทองหลังพระฯ คือ โมเดลที่ดีที่สุด ที่ทำให้เกิดการผสมผสาน ร่วมมือกันของทุกฝ่าย

จากวิกฤตโควิด-19 ทุกพื้นที่ได้รับผลกระทบหมด ในส่วนของกาฬสินธุ์ มีคนตกงานถึง 3.7 หมื่นคน แม้ว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย รัฐบาลปลดล็อกดาวน์ ธุรกิจกลับมาดำเนินการได้เกือบทั้งหมด แต่ขณะนี้มีแรงงานกลับไปทำงานได้แค่ 20% หรือประมาณ 7,000 คน ส่วนที่เหลืออีกกว่า 30,000 คน เป็นสิ่งที่จังหวัดต้องเตรียมตัว เตรียมหามาตรการรองรับ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นปัญหาสังคม อาจก่อปัญหาอาชญากรรมได้

“โครงการของปิดทองหลังพระฯ ตรงกับเจตนารมณ์ของคนกาฬสินธุ์อยู่แล้วที่ให้ความสำคัญกับการเกษตร ซึ่งกาฬสินธุ์ดำเนินการรวม 37 โครงการ จากทั้งหมด 107 โครงการ ช่วยบรรเทาพิษโควิดไปได้มาก ทางจังหวัดก็ได้ต่อยอด โดยของบในส่วนของการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากรัฐบาล 4.4 แสนล้านบาท โดยกาฬสินธุ์ได้เสนอของบไปถึง 2,012 โครงการ วงเงิน 9,000 ล้านบาท ถือว่า เป็นจังหวัดที่เสนอขอมากที่สุด โดยกว่าครึ่งหนึ่ง เป็นงบที่จะนำมาใช้เกี่ยวกับการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ ซึ่งขณะนี้ทราบว่า ได้รับอนุมัติในหลักการแล้วบางส่วน” นายชัยธวัช กล่าว